พนักงานห้างฯ เครือ Walmart 63 สาขา ช็อก! นึกว่าบริษัทใจดีปิดปีใหม่ยาว ที่ไหนได้ปิดกิจการถาวร

Walmart ได้เปิดเผยกับ Business insider ว่าได้สั่งปิดร้าน Sam’s Club ของตนเอง จำนวน 63 สาขา ทั่วสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยคำสั่งนี้มีผลทันที คำสั่งดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อพนักงานประมาณ 9,400 คน เจ้าหน้าที่ของ Walmart กล่าว

พนักงาน Sam’s Club จำนวนมากกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้ามาก่อนว่าจะมีการเลิกกิจการ ซึ่งส่วนใหญ่มาทำงานกันตามปกติ และพบกับป้ายปิดร้านและประตูที่ล็อคไว้ ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้อีกแล้ว

ยังคงมีอีกประมาณ 10 สาขา ในจำนวนเหล่านี้ ที่จะยังคงใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้าสำหรับอีคอมเมิร์ซ และพนักงานจำนวนหนึ่งสามารถสมัครกลับเข้าทำงานใหม่ในสาขาดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ของ Walmart กล่าว

CEO ของ Sam’s Club – John Furner ได้แจ้งกับพนักงานของเขาผ่านทางอีเมลว่า

“…หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดก็ได้พบว่า เราได้เปิดสาขาออกไปเป็นจำนวนมากซึ่งส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ สาขา และจำนวนประชากรไม่ได้เติบโตขึ้นอย่างที่เราได้คาดการณ์กันไว้ เราจึงจะทำการปิดบางสาขาลงและเปลี่ยนแปลงสาขาที่เหลือให้เป็นศูนย์กระจายสินค้าอีคอมเมิรซ์ เพื่อยังคงให้บริการแก่สมาชิกของเราที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และยังสามารถช็อปปิ้งกับเราได้ทาง SamsClub.com ต่อไป…”

[หมายเหตุ ร้าน Sam’s Club มีรูปแบบการสมัครสมาชิกเพื่อรับส่วนลดพิเศษ โดยมีค่าสมาชิกปีละ 45 เหรียญสหรัฐฯ โดยการปิดร้านสาขาในครั้งนี้ Sam’s Club จะคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสาขาทั้งหมด]

ต่อมาในวันเดียวกัน Walmart ก็ประกาศขึ้นค่าจ้างรายชั่วโมงให้กับพนักงาน เป็น 11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อชั่วโมง และเสนอโบนัสให้เป็น 1,000 เหรียญสหรัฐฯ

แต่พนักงานก็ได้ดีใจเพียง 2 วัน เพราะต่อมา Walmart ก็ประกาศปลดพนักงานในตำแหน่งผู้จัดการร้านไปถึง 3,500 คน โดยเลื่อนรองผู้จัดการขึ้นมาทำงานแทนกว่า 1,700 ตำแหน่ง โดย Walmart กล่าวว่านี่คือการปรับโครงสร้างภายในองค์กรเท่านั้น โดย ผู้จัดการที่ถูกปรับออก สามารถสมัครกลับเข้ามาทำงานในตำแหน่งอื่นได้

เจ้าหน้าที่ Walmart กล่าวว่า

“การค้าปลีกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก และเรากำลังปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองให้ทันกับความต้องการของลูกค้าของเรา ซึ่งพวกเขาต้องการซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือ และรับของผ่านรถกระบะหรือการจัดส่ง เพื่อที่จะช่วยให้เราสามารถต่อสู้ในการแข่งขันครั้งนี้ จะต้องมีการปรับโครงสร้างของทั้งองค์กร และเพื่อให้เราชนะในการแข่งขันนี้เราจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและลงทุนเพิ่มเติมอย่างมาก”

สำหรับ Walmart นั้น มีคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Amazon ที่มาแย่งส่วนแบ่งการตลาดไป โดยจู่โจม Walmart ด้วยการค้าออนไลน์ จนพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้ Black Friday ไม่มีใครไปเดินแย่งซื้อของในห้าง Walmart อีกแล้ว จนห้างแทบร้างไปเลย

นอกจากนั้น Amazon ยังเปิดห้างมาแข่งกับ Walmart อีก โดยอาวุธหนักสำคัญของ Amazon คือฐานข้อมูลของลูกค้ากว่า 400 ล้านคน ที่ช็อปปิ้งออนไลน์กับ Amazon และฐานผู้ใช้ Amazon Echo ลำโพงอัจฉริยะ ที่จะสามารถแนะนำสินค้าที่ลูกค้าชื่นชอบ ในราคาที่ลูกค้าพอใจ และให้ลูกค้าเดินไปเลือกเองในห้างของ Amazon ซึ่ง Walmart ไม่สามารถทำแบบนี้ได้

ปี 2018 นี้จึงเป็นปีหนักๆอีก 1 ปี ของ Walmart ที่จะต้องกัดฟันแล้วเดินหน้าต่อไป ส่วนพนักงานก็หายใจไม่ค่อยทั่วท้อง ไม่รู้ว่าจะต้องถูกเลิกจ้างวันไหน โดยพนักงานบางคนถึงกับอัดอั้นตันใจที่ตกงานกะทะหัันจนต้องโพสต์ตำหนิผู้บริหารของ Walmart ผ่านทาง Twitter

After a thorough review of our existing portfolio, we’ve decided to close a series of clubs and better align our locations with our strategy. Closing clubs is never easy and we’re committed to working with impacted members and associates through this transition.

— Sam's Club (@SamsClub) January 11, 2018