Comparative Advantage คืออะไร

Facebook
Twitter
Email
Print

Comparative Advantage คืออะไร ทำไมจึงส่งผลดีต่อการค้าระหว่างประเทศ แต่ก็อาจนำไปสู่การเอารัดเอาเปรียบได้เช่นกัน มาทำความเข้าใจกัน

David Ricardo ทฤษฏี Comparative Advantage
David Ricardo ทฤษฏี Comparative Advantage

Comparative Advantage คือ ความสามารถของเศรษฐกิจในการผลิตสินค้าหรือบริการเฉพาะด้วยต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่ค้า ซึ่งใช้อธิบายว่าทำไมบริษัท ประเทศ หรือบุคคล จึงสามารถได้รับประโยชน์จากการค้า เมื่อใช้อธิบายการค้าระหว่างประเทศ Comparative Advantage หมายถึงสินค้าที่ประเทศหนึ่งสามารถผลิตได้ถูกกว่าหรือง่ายกว่าประเทศอื่น แม้ว่าโดยปกติมักจะแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการค้า แต่นักเศรษฐศาสตร์ร่วมสมัยบางคนก็ยอมรับว่าการมุ่งเน้นเฉพาะ Comparative Advantage อาจส่งผลให้เกิดการหาประโยชน์และการใช้ทรัพยากรของประเทศจนหมดไป

ความเข้าใจเกี่ยวกับ Comparative Advantage

กุญแจสำคัญในการเข้าใจ Comparative Advantage คือการเข้าใจต้นทุนค่าเสียโอกาสอย่างถ่องแท้ โดยต้นทุนค่าเสียโอกาสคือผลประโยชน์ที่อาจสูญเสียไปเมื่อเลือกตัวเลือกหนึ่งมากกว่าอีกตัวเลือกหนึ่ง ในกรณีของ Comparative Advantage ต้นทุนค่าเสียโอกาสของบริษัทหนึ่งจะต่ำกว่าอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งบริษัทที่มีต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ต่ำกว่าจะมีข้อได้เปรียบนี้

อีกวิธีหนึ่งในการมองเรื่อง Comparative Advantage คือการเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อพิจารณาถึงการแลกเปลี่ยน หากเปรียบเทียบสองตัวเลือก ซึ่งแต่ละตัวเลือกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตัวเลือกที่ดีที่สุดโดยรวมจะเป็นตัวเลือกที่มี Comparative Advantage

ความหลากหลายของทักษะ

ผู้คนเรียนรู้ Comparative Advantage ของตนผ่านค่าจ้าง ซึ่งทำให้ผู้คนเข้าสู่งานที่ตนมีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบมากที่สุด ถ้านักคณิตศาสตร์ที่มีความสามารถหารายได้จากการเป็นวิศวกรมากกว่าการเป็นครู เขาและทุกคนที่ค้าขายกับเขาจะอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นเมื่อเขาประกอบอาชีพวิศวกร

ช่องว่างของต้นทุนค่าเสียโอกาสที่กว้างขึ้นช่วยให้เกิดระดับการผลิตมูลค่าที่สูงขึ้นด้วยการจัดการแรงงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งผู้คนและทักษะของพวกเขามีความหลากหลายมากเท่าไร โอกาสในการค้าที่ให้ประโยชน์ผ่าน Comparative Advantage ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

Comparative Advantage vs. Absolute Advantage

Comparative Advantage แตกต่างจาก Absolute Advantage ซึ่ง Absolute Advantage หมายถึงความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่มากกว่าหรือดีกว่าคนอื่น ส่วน Comparative Advantage หมายถึงความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการด้วยต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ต่ำกว่า ไม่จำเป็นต้องมีปริมาณหรือคุณภาพที่สูงกว่า

Comparative Advantage vs. Competitive Advantage

Competitive Advantage หมายถึงความสามารถของบริษัท เศรษฐกิจ ประเทศ หรือบุคคล ในการให้คุณค่าที่เหนือกว่าแก่ผู้บริโภคเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งคล้ายกับ Comparative Advantage แต่มีความแตกต่างกัน

หากต้องการมี Competitive Advantage เหนือคนอื่นในสาขาหรือพื้นที่เดียวกัน จำเป็นต้องทำอย่างน้อยหนึ่งในสามสิ่ง ได้แก่ บริษัทควรเป็นผู้ให้บริการสินค้าหรือบริการที่มีต้นทุนต่ำ ควรเสนอสินค้าหรือบริการที่เหนือกว่าคู่แข่ง และ/หรือควรมุ่งเน้นไปที่ส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้บริโภค

Comparative Advantage ในการค้าระหว่างประเทศ

Comparative Advantage ของจีนเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา คือแรงงานราคาถูก คนงานจีนผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานด้วยต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ต่ำกว่ามาก ส่วน Comparative Advantage ของสหรัฐอเมริกาอยู่ในรูปแบบของแรงงานเฉพาะทางที่ใช้ทุนเข้มข้น คนงานอเมริกันผลิตสินค้าหรือโอกาสในการลงทุนที่ซับซ้อนด้วยต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ต่ำกว่า การเชี่ยวชาญและการค้าตามแนวทางนี้เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย

ทฤษฎี Comparative Advantage ช่วยอธิบายว่าทำไมลัทธิปกป้องการค้ามักจะไม่ประสบความสำเร็จ ผู้ที่ยึดแนวคิดนี้เชื่อว่าประเทศที่มีส่วนร่วมในการค้าระหว่างประเทศจะพยายามหาคู่ค้าที่มี Comparative Advantage อยู่แล้ว หากประเทศถอนตัวจากข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ หรือรัฐบาลเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม อาจเกิดประโยชน์ในท้องถิ่นในรูปของงานและอุตสาหกรรมใหม่ แต่นี่ไม่ใช่ทางออกระยะยาวสำหรับปัญหาการค้า ในที่สุดประเทศนั้นจะเสียเปรียบเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นประเทศที่สามารถผลิตสินค้าเหล่านี้ได้ดีกว่าด้วยต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ต่ำกว่าอยู่แล้ว

ข้อวิจารณ์ต่อ Comparative Advantage

ทำไมโลกจึงไม่มีการค้าเสรีระหว่างประเทศ และทำไมเมื่อมีการค้าเสรี บางประเทศยังคงยากจนโดยประเทศอื่นต้องเสียประโยชน์ไป? บางทีเพราะ Comparative Advantage อาจไม่ได้ผลตามที่กล่าวไว้ ซึ่งอาจเป็นเพราะหลายเหตุผล แต่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่าการแสวงหาค่าเช่า (Rent Seeking) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันและวิ่งเต้นให้รัฐบาลปกป้องผลประโยชน์ของตน

การติดตาม Comparative Advantage ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยการมุ่งเน้นเฉพาะงานหรือสินค้าที่ทำให้ได้ในราคาถูกกว่า สินค้าที่ผลิตแพงกว่าหรือใช้เวลานานกว่าสามารถซื้อมาจากที่อื่นได้ ส่งผลให้อัตรากำไรโดยรวมของบริษัท(หรือประเทศ)สูงขึ้น เพราะต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้นจะถูกกำจัดไป

ข้อเสียของ Comparative Advantage

ในทางกลับกัน การมุ่งเน้นเฉพาะอุตสาหกรรมเกินไปก็มีผลเสียเช่นกัน โดยเฉพาะสำหรับประเทศกำลังพัฒนา การค้าเสรีให้ประเทศที่พัฒนาแล้วเข้าถึงแรงงานอุตสาหกรรมราคาถูก แต่ก็มีต้นทุนทางมนุษย์สูงจากการใช้ประโยชน์จากแรงงานในท้องถิ่น การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีกฎหมายแรงงานหละหลวมกว่า บริษัทต่างๆ สามารถได้ประโยชน์จากแรงงานเด็กและแนวปฏิบัติการจ้างงานแบบบังคับ ซึ่งผิดกฎหมายในประเทศบ้านเกิดของตน

นอกจากนี้ ประเทศเกษตรกรรมที่มุ่งเน้นพืชผลเพื่อการส่งออกเพียงบางอย่างอาจต้องทนทุกข์จากการทำลายความอุดมสมบูรณ์ของดินและทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงสร้างอันตรายต่อชนพื้นเมือง และยังมีข้อเสียเชิงกลยุทธ์ต่อการพึ่งพิงสินค้าเพียงไม่กี่ชนิด เนื่องจากประเทศนั้นจะต้องพึ่งพาราคาอาหารของโลก

บทสรุป

Comparative Advantage เป็นหนึ่งในแนวคิดที่สำคัญที่สุดทางเศรษฐศาสตร์ ในเศรษฐศาสตร์คลาสสิก แนวคิดนี้อธิบายว่าทำไมผู้คน ประเทศ และธุรกิจ จึงสามารถได้รับประโยชน์ร่วมกันมากกว่าที่จะผลิตได้ด้วยตัวเอง แต่นักเศรษฐศาสตร์ร่วมสมัยยังชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์เหล่านี้อาจกระจุกตัวอยู่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือส่งผลให้ฝ่ายที่อ่อนแอกว่า

DISCLAIMER

ข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแนวคิด Absolute Advantage เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้นำไปใช้เป็นคำแนะนำทางกฎหมายหรือทางการเงิน ผู้อ่านควรตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข้อมูลปฐมภูมิและขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก่อนนำไปประยุกต์ใช้จริง ผู้เขียนและผู้จัดพิมพ์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลไปใช้