Dara Khosrowshahi

CEO คนใหม่ของ UBER – Dara Khosrowshahi กับการกอบกู้วิกฤติในวันที่ยากลำบากที่สุด

ท่ามกลางวิกฤติของ Uber ที่มีมาตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศโดยผู้บริหารระดับสูง การเหยียดเพศภายในองค์กร ซึ่งลุกลามไปจนถึง ถูกมองว่า Uber  มีวัฒนธรรมองค์กรส่อไปในทางเหยียดเพศ ปัญหาการถูกปลดและการลาออกของผู้บริหารระดับสูง จนขณะนี้ Uber แทบจะไม่เหลือผู้บริหาร C-Suite เหลืออยู่เลย ไม่ว่าจะเป็น COO, CFO, CMO กระทั่ง CEO และ Founder Travis Kalanick ก็ยังถูกบีบให้ลาออก หลังจากไประเบิดอารมณ์ใส่คนขับ Uber และมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงถึงการลดค่าตอบแทนของผู้ขับ Uber โดยมีคลิปบันทึกเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด

ยังไม่รวมคดีความกับบริษัท Waymo บริษัทลูกของ Alphabet (Google) ในข้อกล่าวหาที่ Waymo กล่าวหาว่า Anthony Levandowski อดีตวิศวกรของ Waymo ที่ได้ลาออกไปอยู่กับ Uber นั้น ได้ขโมยเทคโนโลยีรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองของ Waymo ไป ซึ่งศาลเตรียมจะพิจารณาคดีนี้ในช่วงเดือนตุลาคม (แต่ Uber ได้ไล่ Levandowski ออกแล้วตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา)

Uber จำเป็นที่จะต้องสรรหาผู้นำคนใหม่โดยเร็วที่สุด และคนคนนั้นจะต้องแข็งแกร่งมากพอที่จะ Uber ฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ ซึ่งมันเป็นทั้งช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยากจะเข้ามารับ แต่ในขณะเดียวกันก็ท้าทายความสามารถมากๆ จนล่าสุด อย่างไม่เป็นทางการ Uber ก็ได้เปิดเผยรายชื่อของ CEO คนใหม่ออกมาแล้ว

ดารา คอสราวชาฮี (Dara Khosrowshahi) คือผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่ง CEO ต่อจาก Travis Kalanick ที่เพิ่งลาออกไป โดยก่อนหน้านี้  คอสราวชาฮี เคยมีประสบการณ์ด้านการเงิน การลงทุนและบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารเพื่อการลงทุน Allen & Co., บริษัทสื่อ USA Networks ซึ่งได้เข้าซื้อกิจการ Expedia และกลายมาเป็นซีอีโอบริษัท Expedia ในปี 2005-2017

ดารา คอสราวชาฮี เป็น ชาวอิหร่าน-อเมริกัน ลี้ภัยมาอยู่ในสหรัฐอเมริกา พร้อมกับครอบครัว เป็นบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยบราวน์ ก่อนจะก้าวเข้าสู่ตำแหน่ง CEO ของ Expedia ที่เขาเทคโอเว่อร์มา และเดินหน้าขยายกิจการโดยการเข้าซื้อบริษัทด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำต่างๆแบบครบวงจร ตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก โรงแรม ไปจนถึงการเช่ารถ เช่าบ้าน เช่น Hotels.com, trivago, travelocity, Car Rentals ไม่เว้นแม้แต่ HomeAway คู่แข่งของ Airbnb

ประกาศจะนำ Uber เข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 18 เดือน

ดารา คอสราวชาฮี มีความสามารถในสายธุรกิจการเงิน และสิ่งที่เขาทำใน Expedia แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่เข้าใจในตัวธุรกิจว่า มีจุดเด่นจุด้อยตรงไหน และจะต้องเสริมจุดด้อยนั้นอย่างไร เขาเพิ่มการลงทุนมากขึ้นเป็น 4 เท่าในการเข้าซื้อกิจการที่จะมาเสริมจุดอ่อนด้านเทคโนโลยีของ Expedia ให้แข็งแกร่งขึ้น  เว็บไซต์ Economist วิเคราะห์ว่าความเชี่ยวชาญด้านการเงิน-การลงทุนของ คอสราวชาฮี น่าจะเป็นประโยชน์ในยามที่ Uber จะต้องประกาศรายได้ต่อสาธารณชน ซึ่งเขาก็ได้ตั้งเป้าตั้งแต่วันที่พบปะกับพนักงาน Uber เป็นครั้งแรกว่า จะขายหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 18-36 เดือนข้างหน้า

ผู้นำที่มีภาพลักษณ์ “แข็งแกร่ง”

ภาพในสื่อส่วนใหญ่นำเสนอเกี่ยวกับตัว ดารา คอสราวชาฮี นั้นต่างแสดงออกตรงกันว่า เขาเป็นคนที่มีวุฒิภาวะและความเป็นผู้นำสูง และฉายแววความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง โดยเขาเองก็แสดงออกมาผ่านจุดยืน ความคิดและการผู้ในที่สาธารณะ และในวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ดารา คอสราวชาฮี ได้พบปะกับพนักงาน Uber เป็นครั้งแรกในงานประชุม All-Hands ของบริษัท ได้กล่าวกับเหล่าพนักงานด้วยความจริงใจ ว่าจะทุมเทกำลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับวิกฤติการณ์ในครั้งนี้

แม้ ดารา คอสราวชาฮี จะยอมรับว่า เขารู้สึกกลัวในการรับตำแหน่งครั้งนี้อยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่เขาทำคือประกาศจุดยืนของตนเองอย่างชัดเจน แสดงความจริงใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานในองค์กร

มวยถูกคู่ – คู่ปรับของ Google

ดารา คอสราวชาฮี มีปัญหากับ Google มานานแล้วผ่านทาง Expedia ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร้องเรียน ในข้อกล่าวหาที่ว่า Google ผูกขาดผลการค้นเพื่อให้สินค้าของตนเองอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า จนนำไปสู่คำตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรป สั่งปรับ Google เป็นเงินจำนวน 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย Google นั้นเป็นภัยคุกคามต่อ Expedia มานานแล้ว ด้วยอัลกอริทึ่มของ Google ทำให้ Expedia สูญเสียการมองเห็นและทราฟฟิกไปในขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวของ Google กลับเติบโตขึ้นเป็นสองเท่า

การที่ คอสราวชาฮี เข้ามารับตำแหน่ง CEO ของ Uber ในครั้งนี้เขาจะได้กลับมาทำศึกกับ Google อีกครั้ง แต่ครั้งนี้อยู่ในฐานะผู้ถูกฟ้องแทน

โจทย์ที่กำลังรอ ดารา คอสราวชาฮี อยู่

แม้จะมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจการเงิน และการท่องเที่ยว แต่งานนี้ถือเป็นงานที่ยากที่สุดที่ท้าทายทุกคนที่จะมารับตำแหน่ง CEO ในเวลานี้  และนี่คือโจทย์ที่ ดารา คอสราวชาฮี จะต้องพบเจอ

  • การสางปัญหาวัฒนธรรมเหยียดเพศ ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในองค์กร เพื่อปรับปรุงภาพลักษณขององค์กรให้ดีขึ้น
  • การสรรหาผู้บริหารที่มีความสามารถมาทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง ทั้งจากการลาออกและไล่ออกจำนวนมาก
  • การพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ ที่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อนและมีปัญหาคดีฟ้องร้องอยู่ในขณะนี้
  • การผลักดันความร่วมมือทางกฎหมายท้องถิ่นเกี่ยวกับบริการ Ride Sharing ที่มีปัญหาในทุกประเทศที่ Uber เข้าไปเปิดให้บริการ
  • การใช้ Greyballs เครื่องมือลับที่ใช้ต่อกรกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
  • คดีฟ้องร้องการติดสินบน
  • ผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่อง
  • การต่อสู้กับคู่แข่ง Lyft ที่โหนกระแส #DeleteUber จนความนิยมของ Lyft ชนะ Uber ไปในที่สุด

เรียกว่าต้องภาวนาและเอาใจช่วย คอสราวชาฮี กันเลยทีเดียว กับโจทย์แต่ละข้อที่แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องกลัว ในขณะที่ Garrett Camp, Uber’s cofounder and chairman  คาดการณ์ว่า ประวัติศาสตร์ที่ Silicon Valley ได้บอกอะไรเราหลายอย่าง บางทีอาจจะมีโอกาสทีเป็นไปได้ว่า Kalanick จะกลับมาอีกครั้งในฐานะ CEO ซึ่งเราสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ไล่ตั้งแต่ ผู้ก่อตั้ง Apple, Google, Twitter และคนอื่นๆ ที่เคยก้าวลงมาหรือถูกผลักออกมาก็เพียงแค่ที่จะกลับไปอีกครั้ง

Kalanick อาจจะต้องการเวลาเพื่อบ่มเพาะความเป็นผู้นำที่ดีขึ้น และเขาจะกลับมาอีกครั้งตามสัญญานั่นคือ Travis 2.0