Daymond John คือนักธุรกิจมหาเศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาด้วยตนเอง เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้ออย่าง FUBU ที่มีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ในวันนี้เขาจะมาแนะนำวิธีการการทำการตลาดในช่วงที่เขาพึ่งเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ และแน่นอนว่า ในช่วงนั้นเขาก็ไม่มีเงินเพียงพอที่จะลงโฆษณาอย่างสื่อ ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มวิธีการใช้ Guerrilla Marketing เขาได้อธิบายว่า สิ่งที่แตกต่างระหว่างกาารทำ Marketing กับ Advertising นั้น มีความแตกต่างกันอยู่สองข้อก็คือ
- Marketing หมายถึงการที่นำเสนอข้อมูลสินค้าหรือธุรกิจของเราออกไปสู่สายตาผู้บริโภค แต่ในขณะที่
- Advertising คือการซื้อพื้นที่สื่อ ไม่ว่าจะเป็นการออกโฆษณาทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร
ดังนั้นจะสังเกตได้ว่า การทำทั้ง Marketing และ Advertising นั้น จะมีจุดประสงค์คล้าย ๆ กันก็คือ ต้องการเข้าถึงผู้คนและเกิดการรับรู้ของแบรนด์และนำไปสู่การซื้อสินค้าหรือบริการของแบรนด์ต่อไป
แต่สำหรับธุรกิจที่พึ่งเริ่มต้นใหม่ ๆ นั้น ไม่มีเงินเพียงพอที่จะลงโฆษณาสื่อแบบ Traditional หรือสื่อหลัก ๆ อย่าง ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร ดังนั้นสำหรับคนที่มีงบประมาณด้านการตลาดไม่เยอะ ควรใช้แนวคิดของการทำ Guerrilla Marketing หรือการทำการตลาดแบบกองโจร จุดประสงค์ คือ ต้องใช้งบประมาณน้อย แต่สามารถเข้าถึงผู้คนได้เยอะ เกิดการบอกต่อ การไวรัล หากแบ่งปัจจัยที่จะทำให้การทำ Guerrilla Marketing ประสบความสำเร็จ จะมีอยู่ด้วยกัน 6 ปัจจัย ดังนี้
- สร้างสรรค์ : แน่นอนว่า มันเป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ที่จะต้องเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร และมันจะทำให้ผู้คนจดจำคุณได้ง่าย เพราะถ้าหากการตลาดคุณก็ไม่ได้แตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ ในท้องตลาด หรือมีอย่างเกลื่อนกลาดแล้ว ท้ายที่สุดผู้บริโภค ก็จะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า การตลาดที่พวกเขาพึ่งเห็นเมื่อเช้านี้ เป็นของแบรนด์ไหนกันละเนี่ย
- สร้างนวัตรกรรม : ข้อนี้อาจจะไม่ต้องถึงขนาดกับการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าหรือจรวดไปดาวอังคารแบบ Elon Musk แต่นวัตกรรมจะเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน หรือเป็นเจ้าแรก ๆ ที่คิดค้นขึ้น เพื่อให้เกิดความแตกต่างจากท้องตลาด
- มีปฏิสัมพันธ์ : ในยุคที่เป็นการสื่อสารที่ทั้งผู้บริโภคเองก็สามารถสื่อสารกับแบรนด์ได้โดยตรง ดังนั้นจงหา Sweet Spot หรือจุดที่ลงตัวระหว่าง สิ่งที่แบรนด์อย่างสื่อสารและสิ่งที่ผู้บริโภคอยากได้ยิน ยิ่งแบรนด์ของคุณสามารถหา Touch Point หรือจุดที่เข้าถึงจิตใจของผู้บริโภคได้ แบรนด์ของคุณก็จะกลายเป็น Top of Mind หรือเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่พวกเขาคิดถึงเมื่อเจอสินค้าหรือบริการในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ดังนั้น แม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณในทันทีทันใด แต่เมื่อพวกเขามีความต้องการเมื่อไหร่ ก็มีโอกาสกลับมาหาแบรนด์ของคุณเป็นอันดับต้น ๆ
- สร้างความตื่นเต้น : ในยุคที่แต่ละแบรนด์ต่าง ๆ สาดสื่อกันอย่างหนาแน่น การแข่งขันที่รุนแรง และผู้คนก็มักจะเบื่อกับการตลาดแบบเดิม ๆ เช่น ของฉันดี ของฉันลดราคา ซื้อเดี๋ยวนี้ ลดทันที 50 เปอร์เซ็นต์ ก็อาจจะต้องมาทำการทบทวนใหม่ว่า การตลาดที่คุณใช้ ณ ปัจจุบันนี้ สามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้มากน้อยแค่ไหน
- เรียบง่ายไม่ยุ่งยาก : ใช้คำสื่อสาร ที่แม้แต่เด็ก 6 ขวบก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก คำสื่อสารต้องชัดเจน ไม่กำกวม ไม่ซับซ้อน และจะต้องโฟกัสไปที่คำสื่อสารหลัก ๆ เพียงคำเดียว ภายใน Content หนึ่งอัน เพื่อป้องกันการสับสนของผู้บริโภค
- ใช้เงินน้อย : อันนี้คือข้อที่เกิดจากการที่มีงบประมาณด้านการตลาดอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นในเมื่อมีเงินทุนน้อย ก็จำเป็นต้องอาศัยความมี Creative มาก ๆ และยิ่งในยุคปัจจุบัน เรามีสื่ออย่าง Social Media ที่สามารถทำการตลาดในได้ราคาที่ถูกแสนถูก จะเรียกว่ามีพื้นที่สื่อให้ใช้ฟรีเลยก็ได้ เพียงแต่คุณต้องใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปกันสักหน่อย
Daymond John เล่าให้ฟังว่า เขาใช้การตลาดแบบบ้าน ๆ โดยการที่เขาต้องการให้ผู้คนรับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์เสื้อผ้าของเขาที่ชื่อว่า “FUBU” ซึ่ง ณ ตอนนั้นเขาก็มีเงินไม่เพียงพอที่จะไปลงสื่อใหญ่ ๆ เขาจึงใช้งบประมาณอันน้อยนิด โดยผลิตรายการแบบง่าย ๆ ผ่าน Youtube ซึ่งสิ่งที่เขาทำก็คือ เขาได้ไปยืมเสื้อกีฬาฮอกกี้ดัง ๆ ที่อยู่ใน 10 อันดับแรก แล้วนำแบรนด์ FUBU มาปักบนเสื้อ(เพื่อแสดงว่า FUBU เป็นสปอนเซอร์) จากนั้น ก็ใช้เป็นเครื่องแต่งกายสำหรับการจัดรายการ “แข่งแร็ปแบทเทิ้ล” โดยขึ้นป้ายด้านหลังรายการขนาดใหญ่ว่า “สนับสนุนรายการโดย FUBU”
แล้วก็ บูมมมมม รายการแข่งแร็ปของเหล่าบรรดาแร็ปเปอร์ ก็กลายเป็น Talk of the town ในหมู่ของชาวฮิปฮอปทั้งหลาย จนกลายเป็นที่ต้องการของชาวฮิปฮอปว่า สามารถหาซื้อเสื้อผ้ายี่ห้อ FUBU ได้ที่ร้านไหนบ้าง จนทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ต่างต้องการสินค้าของแบรนด์ FUBU มาขาย จนกระทั่ง Daymond John ได้รับคำสั่งซื้อสูงถึง 3 แสนดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ กว่า 10 ล้านบาท จากงบประมาณการตลาดเพียงน้อยนิด แต่ได้ผลแบบสุด ๆ
Daymond John ยังฝากทิ้งท้ายด้วยว่า “คุณไม่รู้หรอกว่าการตลาดคุณจะได้ผลหรือไม่ มันจะปังหรือไม่ มันจะโดนใจผู้คนหรือไม่ แต่สิ่งที่ผมรู้อย่างหนึ่งก็คือ คุณสามารถจะทำวีดีโอ Youtube ขึ้นมากี่ครั้งก็ได้ กี่วีดีโอก็ได้ มันอาจจะโดนตั้งแต่วีดีโอแรก หรือวีดีโอที่สิบ หรือวีดีโอที่ร้อย แต่เชื่อผมเถอะว่า มันใช้งบประมาณน้อยมากกับวีดีโอที่คุณล้มเหลวไป ดังนั้นถ้าคุณทำมันได้อย่างต่อเนื่องและมากพอ ยังไงมันก็ต้องโดนเข้าสักวีดีโอ”
คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า การตลาดแบบไหนมันจะปังหรือจะแป๊ก แต่ที่ผมรู้แน่ ๆ ก็คือ หากคุณทำมันอย่างต่อเนื่องและมากพอ มันต้องโดนเข้าสักตัวแน่ ๆ
– Daymond John –
และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้
หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใคร