เมื่อพูดถึงสตาร์ทอัพ เรามักนึกถึงคนดัง อาทิ Travis Kalanick (Uber), Elon Musk (Tesla/SpaceX), Brian Chesky (Airbnb) ฯลฯ เป็นต้น คนเหล่านี้เป็นสตาร์ทอัพไอดอลสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ระดมทุนคราวละหลักหมื่นล้านบาท และมูลค่าบริษัทในสายตามนักลงทุนอาจสูงถึงหลักแสนล้าน หรือล้านล้านบาท แม้จะยังไม่มีกำไร หรือมีกำไรเล็กน้อย
ภาพลักษณ์ของนักธุรกิจสตาร์ทอัพเหล่านี้ บางครั้งสร้างค่านิยมให้คนอยากทำสตาร์ทอัพโดย มุ่งไปที่การสร้างกิจการเพื่อระดมทุน ละเลยเรื่องคุณค่าที่มีต่อตลาดและกำไรที่เกิดจากธุรกิจจริง ๆ
แต่ในโลกนี้ก็ยังมีนักธุรกิจสตาร์ทอัพอีกจำนวนไม่น้อยที่มองการทำสตาร์ทอัพเสมือนการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง โฟกัสไปที่ความต้องการของลูกค้า การสร้างคุณค่าให้ตลาด การมีกำไรตั้งแต่ไตรมาสแรกหรือปีแรกของการทำธุรกิจ และเติบโตด้วยตนเอง หนึ่งในนั้นคือ Dan Norris ผู้ก่อตั้งธุรกิจให้บริการดูแลหลังบ้านเว็บไซต์ที่ทำด้วย WordPress ชื่อ WP Curve ที่ภายหลังถูกซื้อไปโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ GoDaddy
ภาพรวมของ WP Curve
Dan Norris มีความฝันอยากเป็นเจ้าของกิจการและลาออกจากงานประจำที่มั่งคงมาแสวงหาเส้นทางนายตัวเอง ทดลองทำธุรกิจมากมายแต่ไม่ปัง และบางอันก็ล้มเหลวติดต่อกันถึง 8 ปี โดยครั้งที่หนักที่สุดคือการพัฒนาซอฟต์แวร์ชิ้นหนึ่งขึ้นมาโดยใช้เวลาเป็นปีในการพัฒนา ลงทุนทั้งสิ้นกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่กลับขาดทุนเดือนละ 1,500 เหรียญฯ หลังเปิดให้บริการ
ในปี 2013 เขาเหลือเงินสดอีกไม่มาก เงินสดของเขาอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 เดือนก่อนที่จะต้องตัดสินใจกลับไปทำงานประจำ เขาตั้งโจทย์อันแสนจำกัดว่าจะต้องหาธุรกิจอะไรสักอย่างที่ สามารถเริ่มต้นด้วยเงินทุนหลักร้อยหลักพันบาท และต้องได้รับเงินจากลูกค้าทันที ที่สำคัญคือต้องสามารถทำได้ด้วยตัวเขาเพียงคนเดียว
ใช้เวลาเพียง 7 วันในการเริ่มธุรกิจ
เขาใช้เวลาเพียง 7 วัน ในการคิดไอเดียธุรกิจไปสู่การ Launch สินค้าและบริการ ธุรกิจมีชื่อว่า WP Curve เป็นธุรกิจบริการดูแลหลังบ้านเว็บไซต์ที่ทำด้วย WordPress เช่น การ Optimize โปรแกรมให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ, แก้ไข Bug ต่าง ๆ, การอัพเดท WordPress plugins, การตรวจปัญหาเฉพาะจุด เป็นต้น ฯลฯ โดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือน หรือ Subscription
ในช่วงแรกเขาทำทุกอย่างด้วยตนเอง ตั้งแต่การสร้างเว็บไซต์และซื้อ Website template ราคา 40 เหรียญฯ เพื่อเป็นหน้าร้านออนไลน์, เขาสร้าง Application ของธุรกิจที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง และทำงานเหล่านี้จากที่บ้านของเขา
ลูกค้าคนแรกของ WP Curve
Dan Norris ไม่ได้ใช้โฆษณา Facebook หรือ Google ใด ๆ ทั้งสิ้น เขาโพสต์ประกาศแบบ Special offer ลงในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง และภายในไม่ถึงสัปดาห์ก็มีลูกค้าสมัครใช้บริการ
หลังครบ 1 สัปดาห์เต็ม มีคนสมัครใช้บริการ 10 คน และภายใน 1 เดือนมีลูกค้า 20 คน สร้างรายได้แบบ Recurring revenue หรือรายได้ประจำเดือนละ 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ทำให้เขาผ่านวิกฤตไปได้ ภายในไม่ถึงสองปี WP Curve กลายเป็นธุรกิจระดับโลก ให้บริการกว่า 40 ประเทศ มีทีมงานประมาณ 40 คน โดยส่วนใหญ่เป็นการจ้างแบบ Contract และทำงานจากที่บ้าน ทำให้กิจการมี Fixed-cost เรื่องค่าเช่าสำนักงานต่ำ และ Inventory สินค้าไม่มีเลยเพราะสินค้าเป็นบริการออนไลน์
Recurring revenue ของธุรกิจเคยขึ้นไปสูงถึง 74,543 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน และรายได้รวมมากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปีก่อนขายให้ GoDaddy ในปี 2016
GoDaddy เข้าซื้อกิจการ
GoDaddy ดำเนินธุรกิจบริการเกี่ยวกับเว็บไซต์ อาทิ รับจด Website domain, บริการ Hosting, และบริการทำเว็บไซต์ และเป็นบริษัทระดับโลก จดทะเบียนในตลาดหุ้น NYSE
Dan Norris มักเขียนบันทึกผลลัพธ์และการเติบโตของธุรกิจไว้ใน Blog ของ WP Curve และจุดนี้สันนิษฐานว่าอาจเป็นสาเหตุให้นักลงทุนมองเห็นและติดตามการเติบโตของ WP Curve และใช้เป็นหนึ่งในข้อมูลการตัดสินใจลงทุนในกิจการ
หลังจากดำเนินกิจการเพียง 3 ปี, ปี 2016 GoDaddy ได้เขาซื้อกิจการและระบบทั้งหมดของ WP Curve เข้าไปเป็นสินทรัพย์ของ GoDaddy และ Dan Norris ได้ Exit กิจการไปอย่างสวยงาม แม้ตัวเลขการซื้อขายจะไม่เป็นที่เปิดเผย แต่คาดว่าน่าจะมากพอให้ Dan Norris ออกไปสร้างธุรกิจใหม่ ๆ จากศูนย์ต่อไป
สนใจอ่านประวัติ Dan Norris แบบจัดเต็ม และเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบัันดาลใจได้ที่หนังสือ สตาร์ทอัพสร้างได้ใน 7 วัน