เมื่อคืนวันที่ 28 กรกฏาคม 2017 เวลา 20.45 น. เวลาแปซิฟิก ณ งานเลี้ยงเฉพาะกิจของ Tesla, Elon Musk ผู้บริหารของ Tesla ได้ส่งมอบกุญแจรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ให้แก่เจ้าของรถ 30 คนตามสัญญาดั่งที่เขาเกริ่นไว้ใน Twitter เมื่อ 2 กรกฏาคม 2017
Handover party for first 30 customer Model 3's on the 28th! Production grows exponentially, so Aug should be 100 cars and Sept above 1500.
— Elon Musk (@elonmusk) July 3, 2017
Tesla Model 3 ถูกขนานนามว่าเป็น The first affordable electric car หรือ รถยนต์ไฟฟ้าในราคาเอื้อมถึง ตามวิสัยทัศน์ที่เขามีมานานนับกว่า 10 ปีนั่นคือ ‘ทำให้ถนนทุกสายกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า’
ข้อความลับ (ที่ไม่ลับ) ใน Blog ของ Elon Musk
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 (3 ปีหลังก่อตั้ง Tesla) เขาเคยเขียน Blog หัวข้อที่ชื่อว่า The secret Tesla Motors Master Plan (just between you and me) เล่าว่าจะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว โดยข้อความที่เป็นไฮไลท์ของบทความคือประโยคดังต่อไปนี้…
“…As you know, the initial product of Tesla Motors is a high performance electric sports car called the Tesla Roadster.
However, some readers may not be aware of the fact that our long term plan is to build a wide range of models, including affordably priced family cars. This is because the overarching purpose of Tesla Motors (and the reason I am funding the company) is to help expedite the move from a mine-and-burn hydrocarbon economy towards a solar electric economy, which I believe to be the primary, but not exclusive, sustainable solution…”
ข้อความนี้เขียนขึ้นก่อนที่ Elon Musk จะเป็น CEO ของบริษัท และสมัยนั้น รถยนต์ไฟฟ้าเป็นของแพง และผู้มีอำนาจใน Tesla ก็มุ่งพัฒนาเฉพาะรถสปอร์ต (Roadster) ที่มีราคาแพง ในขณะที่แนวคิดของ Elon Musk ต้องการเปลี่ยนโลกนี้ให้มีพลังงานบริสุทธิ์ให้มากที่สุด นอกเหนือจากรถยนต์ไฟฟ้า เขาลงทุนและเป็นประธานบริษัท Solar City ธุรกิจหลังคาพลังแสงอาทิตย์ เพื่อให้สามารถนำพลังงานจากในบ้านมาเชื่อมต่อและให้พลังงานแก่รถยนต์ไฟฟ้าได้อีกด้วย และการจะทำเช่นนั้นสำเร็จ รถยนต์ไฟฟ้าจะต้องมีราคาที่เอื้อมถึง
นับจากวันที่ประกาศวิสัยทัศน์และเป้าหมาย ในที่สุด 11 ปีต่อมา หรือเมื่อปลายเดือน มิถุยายน ปี 2017 ที่ผ่านมา Elon Musk ได้เปิดตัวรถ Tesla Model 3 อย่างเป็นทางการ ในราคา 35,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคัน นับเป็นราคาที่ไม่แพงสำหรับคนอเมริกันทั่วไปจะเอื้อมถึง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ที่มีราคาสูงกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐฯ
ในวันที่เปิดสั่งจองล่วงหน้า Tesla Model 3 มียอดจอสูงกว่า 1 แสนคันภายใน 24 ชั่วโมง และจนถึงปัจจุบันยอดจองสะสมทะยานสู่ครึ่งล้านคัน โดยกำหนดส่งมอบจะเริ่มทยอยส่งปลายปี 2017 เป็นต้นไป
ปัจจัยความสำเร็จของ Elon Musk
Minda Zetlin ผู้ร่วมเขียนหนังสือ The Geek Gap: Why Business And Technology Professionals Don’t Understand Each Other And Why They Need Each Other to Survive ได้แสดงความเห็นไว้ในเว็บไซต์ Inc.com ว่า Elon Musk มีลักษณะที่คล้ายกับ เศรษฐีอันดับ 1 ของโลก คนล่าสุด Jeff Bezos (แม้จะขึ้นแท่นได้เพียงวันเดียวก็ตาม เพราะความผันผวนของราคาหุ้นของบริษัท) — เธอเรียกพวกเขาว่า
“…Stubborn on vision. Flexible on details…” ดื้อดึงต่อวิสัยทัศน์ ยืดหยุ่นในรายละเอียด
Amazon ก่อตั้งในปี 1994 โดยเริ่มต้นจากขายหนังสือออนไลน์ แต่เป้าหมายของ Jeff Bezos ต้องการเป็น The Everything Store ซึ่งหลายคนบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่วันนี้เขาทำสำเร็จโดยใช้เวลาทั้งสิ่น 23 ปี ทางฝั่ง Elon Musk เป้าหมายคือสร้างรถยนต์ไฟฟ้าราคาเอื้อมถึงเพื่อให้ถนนทุกสายในอเมริกาปลอดมลพิษ เขาใช้เวลา 11 ปีและวิสัยทัศน์ของเขาเริ่มเป็นจริงด้วยยอดจองรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่าครึ่งล้านคันในเวลาไม่กี่สัปดาห์
ถึงตาคุณแล้ว…
Elon Musk ขึ้นชื่อว่า ‘สายเปย์ เทหมดหน้าตัก’ นำเงินเก็บที่เขามีลงทุนกับกิจการที่คนมองว่าเพ้อเจ้อเป็นอันมาก จาก Tesla รถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก สู่ SpaceX กับจรวดอวกาศที่ลงจอดแนวดิ่ง และล่าสุด การสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร และ Hyperloop คมนาคมสาธารณะใต้ติดเร็วกว่าเครื่องบิน — เหล่านี้คือไอเดียธุรกิจเปลี่ยนโลกที่บางโครงการเกิดขึ้นและ และบางโครงการกำลังจะเกิดขึ้น
3 Key Success
เป้าหมายที่ใหญ่กว่าตัวเอง
Tesla มาเริ่มทำกำไรให้เจ้าของอย่างจริงจังก็ปาเข้าสู่เกือบ ๆ ปีที่สิบของการก่อตั้งกิจการ เช่นเดียวกับ Amazon และ Zappos ที่แม้จะมียอดขายมาก แต่ธุรกิจแทบไม่มีกำไรหรือบางปีขาดทุน เพราะการ ลงทุนเพิ่ม และการขยายกิจการเพื่อรองรับลูกค้า กว่าที่จะเกิดกำไรจริงก็ร่วม ๆ ปีที่สิบของกิจการเช่นกัน
การจะยืนระยะได้นานขนาดนั้น นอกจากความเชื่อแล้ว ยังต้องการ วิสัยทัศน์ที่ยาวไกล และเป้าหมายที่ใหญ่กว่าตัวเอง เช่น การทำบางสิ่งบางอย่างที่จะสร้าง Impact อย่างสูงต่อชีวิตผู้คน หากผู้ประกอบการเล็งเห็นผลสั้น และต้องการทำเงินอย่างรวดเร็ว การทำธุรกิจเปลี่ยนโลกเหล่านี้ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย
มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า
ทุกคนมีความตื่นเต้นต่อไอเดียใหม่ ๆ ทุกคนมีความอยากทำ และทุกคนอยากรวย แต่หนทางสู่ความร่ำรวยนั้นไม่สนุกเหมือนตอนค้นพบไอเดีย — Tony Hsieh ผู้ก่อตั้ง Zappos เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขายรองเท้ารายใหญ่ของโลกต้องฝ่าวิกฤตมากมายจนถึงขั้นขายสมบัติส่วนตัวมาพยุงกิจการไว้ไม่ให้ล้มไปก่อน เขาต้องมุ่งมั่นและขับเคี่ยวอย่างหนักจริง ๆ กว่าที่ธุรกิจจะประสบผลลัพธ์
กลับมาที่ตัวเรา.. เราเชื่อมั่น อดทน และมุ่งมั่นมากพอที่จะทุ่มกำลังทรัพย์และกำลังกายส่วนใหญ่ให้กับไอเดียเงินล้านของตนเองมากแค่ไหน
รักษาสัญญาอย่างจริงจัง
การไปถึงเป้าหมายเกิดได้เพราะการรักษาสัญญาที่มีให้กับตัวเองและไม่ทอดทิ้งคำมั่นไว้กลางทาง นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายคนฝ่านทั้งความมืดและความกลับบนเส้นทางอันโดดเดี่ยวอย่างยาวนานก่อนที่จะพบแสงสว่าง ณ ปลายอุโมงค์
นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมี เป้าหมายที่ใหญ่กว่าตัวเอง มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า และการรักษาสัญญาอย่างจริงจัง พวกเขาอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ทนรวยจนกว่าวันที่สิ่งที่เขาทำจะแสดงผล
“…What you do in the dark puts you in the light…”— Under Armour
