แนวทางเบื้องต้นเริ่มทำเว็บ E-Learning ด้วยตนเองบน WordPress

หลายปีที่ผ่านมา อินเตอร์เน็ต ปฏิวัติรูปแบบการทำการค้าส่งผลให้ ค้าปลีกออฟไลน์ ชะลอการขยายตัว และปิดตัวเป็นจำนวนมากเนื่องจากคนหันไปซื้อออนไลน์ และปรากฏการณ์นี้ได้มาถึง ระบบการศึกษา แล้ว เมื่อมหาวิทยาลัยกำลังปิดตัวเนื่องจากจำนวนนักศึกษาลดลง [Ref: ประชาชาติธุรกิจ] ในขณะที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาได้ย้ายมาสอนบนออนไลน์ หรือ E-Learning กันเป็นจำนวนมาก — หากคุณเป็นครู อาจารย์ หรือผู้มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการสอน นี่คือ สัญญาณอันตราย สำหรับนักสอนทุกคนในไทย และคุณจำเป็นต้องเริ่มต้นศึกษาระบบ E-Learning ตั้งแต่วันนี้

หนึ่งในธุรกิจและอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดของโลกและจัดเป็นสินค้าที่คนซื้อเพราะ ‘Need’ หรือซื้อด้วยความจำเป็น คือ ธุรกิจการศึกษา และ อาชีพนักสอน เพราะ ความรู้เป็นใบเบิกทางสู่โอกาสต่าง ๆ ในชีวิต ดังนั้นทุกคนจึงถูกบังคับ (ด้วยความเต็มใจ) ให้ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาผ่านทางสถาบันการศึกษาภาคปกติ และการศึกษาภาคอิสระ อาทิ การเข้าสัมมนา และการเข้าคอร์สอบรมเฉพาะทางต่าง ๆ เป็นต้น ฯลฯ อย่างไรก็ดี— เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการการศึกษา นั่นคือ การศึกษาแบบออนไลน์ หรือ E-Learning

E-Learning คืออะไร

E-Learning ย่อมาจาก Electronic Learning ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง สถาบันการศึกษาในสหรัฐเริ่มนำหลักสูตรเข้าร่วมระบบ E-Learning กันมากขึ้น รวมไปถึงองค์กรเอกชนอย่าง Google ก็เริ่มผลิตหลักสูตรสอนออนไลน์ ของตนเองขึ้นมา และคนที่เรียนจบสามารถนำใบรับรองจาก Google ไปสมัครงานได้ด้วย — ส่วนในประเทศไทย มหาวิทลัยจุฬาฯ ก็เริ่มพัฒนาเว็บไซต์ E-Learning เช่นกัน

ตลาด E-Learning มีมูลค่า ‘ล้านล้าน’ บาท

สำนักงาน Research and Market ทำการวิจัยและพบว่าในปี 2010 อุตสหากรรมการศึกษาเฉพาะส่วนของ E-Learning มีมูลค่าตลาด 32,000 ล้านเหรียญ ต่อมาในปี 2015 กระโดดขึ้นมาที่ 107,000 ล้านเหรียญ และคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 จะโตไปแตะ 325,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณกว่า 11 ล้านล้านบาท

เหล่านี้เป็นสัญญาณว่ายุคแห่งการศึกษาออนไลน์กำลังมา และกำลังเข้าครองส่วนแบ่งจำนวนมากในอุตสาหกรรมการศึกษาในอนาคต ด้วยปริมาณเงินสะพัดอันมหาศาลนี้ คุณต้องการเพียง 0.00001% ของตลาดก็จะสามารถทำเงินได้นับสิบ ๆ ล้านบาทต่อปีจากการทำคอร์สออนไลน์ขายนี้

เริ่มต้นสร้างคอร์สออนไลน์ขายอย่างไร

สำหรับผู้มีความรู้ติดตัว อาทิ ครู อาจารย์ ติวเตอร์ เทรนเนอร์ หรือคนทำงานในสาขาเฉพาะทางที่มีความรู้ที่นำมาสอนได้ สามารถสร้างคอร์สออนไลน์ขายได้ทั้งสิ้น ในต่างประเทศมีหัวข้อสอนมากมาย รวมไปถึงหัวข้อสอนออนไลน์ที่คุณอาจคิดไม่ถึง อาทิ สอนฟรีไดฟ์ (ดำน้ำตัวเปล่า), สอนตีเหล็ก, สอนเล่นเกมส์ออนไลน์, สอนเป็นนักบินอวกาศ เป็นต้น ฯลฯ อีกมากมาย ดังนั้น ทุกหัวข้อที่คุณเชี่ยวชาญสอนได้หมด ขึ้นอยู่กับหัวข้อใดที่ขายง่ายที่สุด

หัวข้อการสอนประเภทใดขายง่ายสุด

ข้อดีของการทำคอร์สออนไลน์ในหัวข้อที่ตลาดต้องการอยู่แล้ว คือ หลักประกันว่าความทุ่มเทผลิตคอร์สและหลักสูตรของคุณจะขายได้อย่างแน่นอน จากประสบการณ์การทำธุรกิจ E-Learning ของผู้ก่อตั้ง CEOblog พบว่ามี 3 หัวข้อใหญ่ ได้แก่

สอนสร้างรายได้:

รายได้คือสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้มนุษย์มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ มีกิน มีใช้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การสอนสร้างรายได้ อาทิ สอนประกอบอาชีพเฉพาะทาง (นักขาย, นักโปรแกรมเมอร์, นักกราฟิกดีไซน์), สอนวิธีสอบรับราชการ สอนวิธีสอบเป็นนักบิน สอนทำธุรกิจเฉพาะสาขา, สอนวิธีทำการตลาดออนไลน์, สอนการลงทุน เช่น เล่นหุ้น อสังหาฯ เทรดบิตคอยน์ เป็นต้น

สอนสร้างสุขภาพ:

มีเงินแต่ไม่มีแรงออกไปใช้ชีวิตก็จบกัน — สุขภาพ จึงเป็นอีกหมวดที่คนยินดีจ่ายเงินซื้อ อาทิ สอนฟิตเนส สอนฟิดหุ่นสวยหรือกล้ามใหญ่ สอนวิธีลดน้ำหนักด้วยการโภชนาการที่ถูกต้อง สอนการดูแลรักษาร่างกาย สอนกายภาพบำบัดให้คนที่กำลังฟื้นฟูร่างกาย เป็นต้น ฯลฯ

สอนสร้างความสัมพันธ์:

สุดท้าย มีเงิน มีสุขภาพดี แต่ไม่มีใครรักก็อยู่ยาก — ความสัมพันธ์ ได้แก่ สอนจีบเพศตรงข้าม สอนหาคู่ สอนวิธีรักษาความสัมพันธ์ในคู่หรือในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก สอนวิธีพัฒนาความสัมพันธ์ในสังคม และที่ทำงาน เป็นต้น ฯลฯ

นี่คือ 3 หัวข้อใหญ่ที่ขายได้อย่างแน่นอนโดยคุณมักสังเกตได้ด้วยเองอยู่แล้ว เช่น ตามแผงหนังสือชั้นนำมักมีหนังสือใน 3 หัวข้อนี้ติดอันดับ Best Seller อยู่เสมอ

E-Learning Marketplace: วิธีเริ่มต้นขายคอร์สออนไลน์ที่ง่ายที่สุด

หากคุณมีความรู้ที่พร้อมจะทำหลักสูตรขายทันที วิธีเริ่มต้นที่ง่ายและเร็วที่สุดคือการนำไปขายบนเว็บไซต์ Marketplace อาทิ SkillLane.com — การขายบน Marketplace เร็วกว่าการสร้างเว็บไซต์ E-Learning เอง ประกอบกับเว็บไซต์เหล่านั้นมี Organic search traffic เข้าเว็บไซต์จำนวนหลายแสนคนต่อเดือนอยู่แล้ว ช่วยให้ผู้คนมีโอกาสผ่านมาเจอคอร์สเรียนของคุณที่อยู่บน SkillLane และเพิ่มโอกาสการขายโดยไม่ต้องโฆษณา (แต่การโฆษณาจะช่วยให้ขายได้มากขึ้น)

ข้อดี:

SkillLane เป็น Marketplace สำหรับขายคอร์สออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีระบบที่ทันสมัย และการจัดการที่ยอดเยี่ยม คุณเพียงไปแต่ตัวกับเนื้อหา ทาง SkillLane มีสตูดิโอในการถ่ายทำจนสำเร็จเป็นคอร์สเรียนและอัพโหลดขึ้นสู่เว็บไซต์โดยที่คุณไม่ต้องทำเอง

นอกจากนั้น ทาง SkillLane ยังเป็นผู้จัดการการซื้อขาย ระบบชำระเงิน การส่งมอบคอร์สเรียนให้ลูกค้า การดูแลลูกค้าและการจัดการบัญชี ภาษี และโอนส่วนแบ่งให้คุณทั้งหมด — กล่าวโดยสรุป การทำคอร์สขายบน SkillLane สร้างรายได้ Passive Income 100%

การแชร์ส่วนแบ่งยอดขาย:

ในกรณีที่คุณให้ SkillLane สร้างคอร์สให้ เขาจะหักส่วนแบ่งจากยอดขายโดยเจ้าของคอร์สจะรับสุทธิอยู่ที่ประมาณ 55 – 60% จากยอดขายทั้งหมด อย่างไรก็ดี– หากคุณต้องการส่วนแบ่งที่มากขึ้น คุณสามารถบันทึกคอร์สเอง และส่งไฟล์ให้ SkillLane อัพโหลดขึ้น Marketplace อย่างเดียว กรณีนี้คุณจะได้รับส่วนแบ่งจากยอดขายมากขึ้นเป็นประมาณ 70%

ขายกับ SkillLane รายได้เท่าไร:

ผู้ก่อตั้ง CEOblog ขายกับ SkillLane มากว่า 2 ปี ยอดขายก่อนหักส่วนแบ่งและภาษี เฉลี่ย 5,000 – 10,000 บาท ต่อเดือนในช่วงปกติ (อยู่เฉย ๆ) และ 30,000 – 50,000 บาท ต่อเดือนในช่วงที่มีการทำการตลาด ทั้งนี้มีนักสอนหลายคนที่มีชื่อเสียงและสร้าง Personal branding มาดีสามารถสร้างยอดขายหลักแสนบาทต่อเนื่องในช่วงทำการตลาดได้เช่นกัน

เรียนรู้เพิ่มเติมเรื่อง วิธีสร้าง Personal branding ทีนี่

WordPress E-Learning Site: สร้างเว็บไซต์ขายคอร์สออนไลน์เป็นของตัวเอง

การสร้างเว็บไซต์ E-Learning เป็นของตัวเองเป็นงานหนัก แต่คุณจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะข้อดีของการสร้างเว็บไซต์เอง ได้แก่

1. เว็บไซต์ เป็นอสังหาริมทรัพย์บนโลกออนไลน์ ในระยะยาวเว็บไซต์ทำเงินของคุณจะมีมูลค่าเพิ่มในตัวของมันเอง และสามารถขายได้ในราคา 3 – 5 เท่าของรายได้เว็บไซต์ต่อปี (หรือมากกว่า)

2. เว็บไซต์ ลดต้นทุนธุรกิจในระยะยาว ในวันที่คุณมีคอร์สเรียนในระบบจำนวนมาก และเกิด Organic traffic จาก Google Search Engine คุณอาจไม่จำเป็นต้องลงทุนกับค่าโฆษณา Facebook จำนวนมากอีกต่อไปก็สามารถขายได้เรื่อย ๆ ในขณะที่ตัวเว็บไซต์และระบบ E-Learning มีเพียง Fixed cost เป็นรายปีในระดับต่ำ ดังนั้นอัตรากำไรของยอดขายของคุณจะสูงมากในระยะ เพราะจ่ายเพียง Fixed cost ยอดขายทั้งหมดคือกำไร

Step-by-Step ขั้นตอนวางแผนสร้างคอร์สออนไลน์ขายบนเว็บไซต์ของตัวเอง

ต่อไปนี้คือขั้นตอนการวางแผนสร้างเว็บไซต์ E-Learning เพื่อขายคอร์สออนไลน์ แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1. สร้างเว็บไซต์, 2. ติดตั้งระบบ Membership, 3. ติดตั้งระบบ LMS, 4. สรรหาบริษัทโฮสต์ไฟล์วีดีโอ, และ 5. ทำการตลาดออนไลน์

1. สร้างเว็บไซต์

องค์ประกอบของเว็บไต์ประกอบไปด้วย Domain name (ชื่อเว็บไซต์), Hosting, และ CMS

Domain name:

คือชื่อเว็บไซต์จดทะเบียน คุณสามารถจดทะเบียนกับผู้ให้บริการโฮสต์ หรือจะจดกับเว็บรับจดโดเมน อาทิ GoDaddy หรือ Name.com แล้วค่อยชี้โดเมนเนมไปยังโฮสต์ที่เช่าแยกไว้ต่างหากก็ได้ ค่าจดโดเมนเนมและค่า Domain privacy รวมกันประมาณ 700 – 900 บาทต่อปี

Hosting:

ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการโฮสติ้ง ได้แก่ การมีระบบเซิร์ฟเวอร์เป็นที่อาศัยของโดเมนเนม และเป็นที่จัดเก็บไฟล์ข้อมูลเว็บไซต์ทั้งหมดเพื่อเผยแพร่ขึ้นสู่ระบบอินเตอร์เน็ต ค่าเช่าโฮสต์มีทั้งรายเดือน รายปี และรายหลายปี ราคามีตั้งแต่ 3 – 5 พันบาทต่อปีไปจนถึงปีละหลายหมื่นบาทต่อปี

ใช้โฮสต์อะไรดี? ขึ้นอยู่กับแพกเกจที่เลือกโดยคุณสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับโฮสต์ราคาถูกและคุณภาพดีที่นักธุรกิจออนไลน์ในต่างประเทศแนะนำ ที่นี่

CMS:

ย่อมาจาก Content Management System หรือ ‘โปรแกรมบริหารจัดการเนื้อหา’ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า โปรแกรมทำเว็บไซต์นั่นเอง ผู้ให้บริการโปรแกรมทำเว็บไซต์มีหลายราย อาทิ Joomla, Drupal, Medium, Weebly, Wix, EzyWebs, Website-Builder.com, Blogger.com, WordPress.com แต่ที่คนนิยมใช้มากที่สุดในโลกและเราก็แนะนำให้ใช้เช่นกัน คือ WordPress.org

WordPress.org ก่อตั้งในปี 2003 โดย Matt Mullenweg เป็นโปรแกรมแบบ Open source และใช้งานฟรี มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์เข้ามาร่วมพัฒนาซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชั่นเสริมแก่ WordPress มากมาย (แอปฯ เสริมเรียกว่า Plugin) ทำให้ WordPress.org เป็น CMS ที่มีความสามารถในการ Customization สูงมาก ทำเว็บไซต์ให้อลังกาลและซับซ้อนได้สุดที่คุณอยากจะทำโดยที่ไม่ต้องยุ่งกับเรื่องโค้ดดิ้ง แต่ถ้าคุณสามารถแต่งโค้ดดิ้งได้ก็จะยิ่งแอดวานซ์ขึ้นไปอีก

สถิติในปี 2017 — ประมาณ 75 ล้านเว็บไซต์ทำจาก WordPress, มีประมาณ 44,225 Plugins จาก Developer ทั่วโลก, และ WordPress ครองสัดส่วน 26% ของ CMS ทั้งหมด

WordPress ติดตั้งง่ายมาก ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น วิธีสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ที่นี่ 

2. ติดตั้งระบบ Membership

ระบบ Membership เป็น WordPress plugin ชนิดหนึ่งทำหน้า ‘ล็อก’ เนื้อหาที่คุณต้องการซ่อนไว้ไม่ให้คนทั่วไปเข้าถึง และมีสิทธิเข้าถึงได้เฉพาะคนที่คุณเปิดสิทธิให้เท่านั้น เหมาะสำหรับการขาย Premium content บนเว็บไซต์ของคุณ Membership plugin มีผู้ให้บริการหลายราย ทั้งแบบฟรีและจ่ายเงิน โดยแบบจ่ายเงินจะมีฟังชั่นการทำงานที่ซับซ้อนขึ้น

ข้อดีของการลงระบบ Membership คือ คุณสามารถลงคอร์สเรียนออนไลน์ได้หลายคอร์สโดย สร้างเงื่อนไขแยกย่อยไปได้มากมาย เช่น หากเว็บไซต์ของคุณมีคอร์สออนไลน์จำนวน 10 หลักสูตร ลูกค้า 1 User ที่สมัครสมาชิกมาสำหรับ 2 หลักสูตรก็จะดูได้แค่ 2 หลักสูตรที่คุณเปิดสิทธิให้ ในขณะที่อีก 8 หลักสูตรที่เหลือสามารถล็อกเอาไว้ได้ เป็นต้น ฯลฯ

CEOblog ใช้ Member Mouse ในการทำระบบสมาชิกเพื่อล็อกเนื้อหาที่ต้องชำระเงินเพื่อเข้าถึง โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 19.95 เหรียญฯ สำหรับสมาชิก 1,000 คน

3. ติดตั้งระบบ LMS

LMS ย่อมาจาก Learning Management System เป็นโปรแกรมบริหารจัดการระบบเรียนออนไลน์ มีทั้งแบบ Stand Alone อาทิ Teachable.com ที่คุณทั้งโฮสต์ข้อมูลและใช้ระบบบนแพลทฟอร์มของเขา และแบบ WordPress Plugin ที่คุณเชื่อมต่อเข้ากับ WordPress เว็บไซต์ที่คุณมีอยู่แล้วและทำงานบนเว็บไซต์ของคุณ กรณี CEOblog ใช้ของ Learn Dash เริ่มต้นที่ 159 เหรียญ ต่อปี สำหรับ 1 เว็บไซต์

4. สรรหาบริษัทโฮสต์ไฟล์วีดีโอ

WordPress สามารถอัพโหลดไฟล์วีดีโอได้ แต่จะทำให้โฮสต์หนัก กินพื้นที่ของโฮสต์ และอาจทำให้เว็บไซต์โหลดช้า ดังนั้นเราแนะนำให้โฮสต์ไฟล์วีดีโอกับผู้ให้บริการเฉพาะทาง ในกรณีนี้เราใช้ Vimeo ซึ่งนอกจากจะโฮสต์ไฟล์จำนวนมากแล้วยังสามารถป้องกันการละเมิดลิขสิทธิได้หลายชั้น อาทิ ป้องกันการดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ ป้องกันการแชร์ และตั้งค่าให้สามารถดูบนเว็บไซต์ที่กำหนด — สำหรับ CEOblog ใช้ Package Pro เนื่องจากต้องอัพโหลดคอร์สเรียนที่มีไฟล์วีดีโอจำนวนมากแบบรวดเดียวจบ

5. ทำการตลาดออนไลน์

เมื่อเว็บไซต์และสินค้าพร้อม ต่อไปก็ต้องทำการตลาดออนไลน์เพื่อให้เว็บไซต์ แบรนด์ และสินค้าเป็นที่รู้จักและมีคนมาซื้อ โดยแยกเป็น 3 แนวทางการตลาดออนไลน์หลักใหญ่ดังต่อไปนี้

Content Marketing

ในช่วงเริ่มต้นที่คุณยังไม่เป็นที่รู้จัก การขายคอร์สออนไลน์ทันทีอาจขายยาก เพราะคนไม่เชื่อถือคุณเท่ากับนักสอนคนอื่น ๆ ที่ทำมาก่อน และทำมานานกว่าจนเป็นที่ยอมรับ วิธีสร้างการยอมรับที่ได้ผลที่สุด (แม้จะใช้เวลาอยู่บ้าง) คือ Content Marketing การผลิตเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายให้พวกเขาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ว่าคุณสอนเรื่องอะไร และคุณให้ความรู้นั้นฟรี ๆ ในช่วงแรกเพื่อสร้างฐานผู้ติดตาม ผู้ติดตามเหล่านั้นนั่นเอง คือ ‘ว่าที่ผู้ซื้อในอนาคต’ ของคุณ

วิธีทำ Content marketing แนะนำให้ทำลงใน เว็บไซต์/บล็อก เป็นหลัก คุณสามารถนำบทความในบล็อกไปแชร์ใน Facebook ได้ แต่หลีกเลี่ยงการโพสต์ลงใน Facebook ตรง ๆ จงมุ่งส่ง Traffic จาก Facebook ออกมาที่เว็บไซต์ของคุณ เพราะในระยะยาวบทความเหล่านั้นนอกจากจะติด Google search แล้ว ภายในเว็บไซต์ยังสามารถติดตั้งเครื่องมือทำ Lead generation และ Facebook conversion pixel และเครื่องมืออื่น ๆ อีกมากมาย

Lead Generation

Lead generation หรือ Lead acquisition เป็นกระบวนการผัน Traffic เป็น Contact list หรือแปลว่า การเปลี่ยนคนขาจรที่เยี่ยมร้านค้า (กรณีนี้คือเว็บไซต์) ไปเป็น รายชื่อผู้มุ่งหวังที่สนใจรับข่าวสารและโปรโมชั่นจากคุณด้วยความเต็มใจ เมื่อรายชื่อเหล่านี้เข้าสู่ระบบของคุณ คุณสามารถส่งประกาศโปรโมชั่นสินค้าและบริการต่าง ๆ ไปขายพวกเขาได้โดยตรงและทันทีโดยไม่ต้องลุ้นยอดขายจากการยิงโฆษณาแต่เพียงฝ่ายเดียว

เครื่องมือการทำ Lead generation หรือ Lead acquisition ในต่างประเทศนิยมใช้ Email marketing เป็นอันดับหนึ่ง ส่วนในประเทศไทยนิยมใช้ Line@ แต่ที่กำลังเพิ่มความนิยมขึ้นมา คือ Chatbot

Facebook Retargeting

Facebook retargeting เป็นการยิงโฆษณาขั้นสูงขึ้นจากการยิงโฆษณาตามค่า Default interest group ที่ Facebook มีให้ โฆษณาแบบ Retargeting จะเห็นโฆษณาเฉพาะคนที่คุณอยากให้เห็น ซึ่งเกิดจากการสร้าง Custom Audience Campaign ในแคมเปญจะมีโค้ดที่เรียกว่า Facebook Conversion Pixel, คุณนำโค้ดนั้นไปแปะไว้ใน บทความที่คุณต้องการเก็บ Pixel ของผู้เยี่ยมชม —- จากนั้นเมื่อมีคนมาอ่านบทความนั้น เขาจะเป็นผู้ที่ถูกติดตามโดย Pixel เมื่อใดก็ตามที่คุณยิงโฆษณาของแคมเปญนั้น ๆ ออกไป จะมีเพียงกลุ่มที่เข้ามาอ่านบทความนั้น ๆ ที่จะเห็นโฆษณา

การทำโฆษณาแบบ Retargeting มีกระบวนมากกว่าปกติพอสมควร ทาง CEOblog ได้รวบรวมวิธีทำ Facebook Retargeting อย่างละเอียด ที่นี่ 

สรุป

หากคุณต้องการความมั่นใจในการเริ่มต้นสร้าง E-Learning บนเว็บไซต์ WordPress อย่างถูกต้องและสามารถขายได้แน่ ๆ เรามี คอร์สออนไลน์ Expert Business Empire ปั้นธุรกิจสอนผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างไรให้ได้ล้าน

คอร์สนี้อัดแน่นไปด้วย กลยุทธ์การตลาด และวิธีใช้เครื่องมืออย่างมืออาชีพ เปิดหลังบ้านพาติดตั้งเครื่องมือสำคัญทุกชิ้นแบบ Step-by-Step โดยคุณสามารถทำตามได้ทันที และไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อน พิเศษสำหรับผู้อ่านบทความนี้ คุณจะได้รับส่วนลดทันที 35% หากสมัครภายในเดือนนี้ — รายละเอียดที่นี่