Elon musk tesla spaceX

Elon Musk อาจควบรวมกิจการระหว่าง Tesla และ SpaceX และกลายเป็นบริษัทมูลค่าแสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

Elon Musk ผู้ก่อตั้ง Tesla ได้นำ Tesla เข้าควบรวมกิจการกับ SolarCity ในปีที่แล้ว โดยการที่ Tesla ใช้เงิน $2.6 พันล้านดอลลาร์ เข้าซื้อ SolarCity ซึ่งเป็นบริษัทของ Elon Musk เช่นกัน โดยเหตุผลของการควบรวมกิจการเข้าซื้อบริษัทของตัวเองในครั้งนั้น เนื่องจากทั้งสองบริษัทประสบปัญหาทางด้านการเงิน แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งสองบริษัทก็ตาม และหลังจากการควบรวมบริษัททำให้ในปี 2017 หุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้นเป็น $300 ดอลลาร์ต่อหุ้น และมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น $50,000 ล้านดอลลาร์

แม้ SolarCity จะมีรายได้ที่ดี แต่สถานะทางการเงินยังไม่ดีนัก และยังต้องรอแนวโน้มที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อที่จะมาชดเชยภาวะขาดทุนของ Tesla ซึ่งนับตั้งแต่การควบรวมกันของ Tesla และ SolarCity ภาระหนี้สินและงบการเงินที่ขาดทุนของ Tesla ก็กลายเป็นภาระของ SolarCity ที่ต้องแบกรับไว้ แม้มูลค่าทางบริษัทจะเพิ่มขึ้น แต่กลับกลายเป็นสถานการณ์ทางการเงินของทั้ง 2 บริษัทดูแย่ลง

การเปิดตัวหลังคาโซลาร์เซลแบบใหม่ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ต้องส่งมอบรถเทสล่าร์โมเดล 3 แต่จนถึงขณะนี้ โมเดล 3 ยังคงผลิตได้ด้วยความล่าช้า ซึ่งทั้งธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และรถยนต์ของ Tesla นั้นไม่ได้เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันมากว่า 1 ปีแล้ว

ล่าสุดนักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ได้วิเคราะห์ว่า ขั้นตอนต่อไป Elon Musk มีโอกาสที่จะนำ Tesla ควบรวมกับ SpaceX ซึ่ง Elon Musk เป็นเจ้าของเช่นกัน แม้ว่าธุรกิจอวกาศ จะมีการลงทุนที่สูงมาก และดูเหมือนว่าน่าจะมีค่าใช้จ่าย และงบดุลที่ติดลบ แต่ไม่ใช่เลย เพราะ SpaceX มีสถานภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง SpaceX ได้รับการเซ็นสัญญาจาก NASA มากกว่า 36 ฉบับ ในการขนส่งทางอวกาศ มูลค่ากว่า 4.8 พันล้านดอลลาร์  และยังคงมีการเซ็นสัญญาอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2021

ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า การควบรวมกิจการจะเกิดขึ้นได้ใน 2 กรณีดังนี้คือ

  1. Elon Musk ใช้ Tesla เข้าซื้อกิจการของ SpaceX ซึ่งจะเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะตอนนี้ Tesla มีงบการเงินที่ติดลบ และมีเงินสดไม่เพียงพอ หากต้องการเข้าซื้อ SpaceX ผู้ถือหุ้นรุ่นบุกเบิกจะต้องทำการขายหุ้นบางส่วนออกมาเพื่อนำเงินสดไปซื้อกิจการของ SpaceX หรืออาจจะต้องระดมทุนจากนักลงทุนภายนอกอย่าง Tencent ที่เข้ามาลงทุนใน Tesla ให้ลงทุนเพิ่มเพื่อเข้าซื้อกิจการของ SpaceX
  2. Elon Musk ใช้ SpaceX เข้าซื้อกิจการของ Tesla กรณีนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินของ SpaceX มีความแข็งแกร่ง และหากควบรวมในลักษณะนี้ Elon Musk จะหมดกังวลกับการแถลงบัญชีงบดุลของ Tesla ที่ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง โดยหนี้สินและภาระขาดทุนของ Tesla ทั้งหมดจะกลายเป็นภาระของ SpaceX

วิธีการควบรวมลักษณะนี้จะทำให้ 3 ธุรกิจของ Elon Musk คือ ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจอวกาศ รวมกันเป็นหนึ่งเดียวภายใต้บริษัท SpaceX (หรือ Tesla) และเขาจะเป็น CEO ของบริษัทที่มีมูลค่าธุรกิจ 1 แสนล้านดอลลาร์ แต่การใช้เงินตัวเองมาซื้อกิจการตัวเองแบบนี้ เป็นกลทางบัญชีอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เหมือนเอาเงินกระเป๋าซ้ายมาจ่ายกระเป๋าขวา แต่กระทบกับนักลงทุนที่ลงทุนทั้งสองบริษัท เพราะงบการเงินของบริษัทหนึ่งที่ออกเงินซื้อกิจการ จะต้องเสียรายได้ไป ซึ่งแน่นอนว่าจะกระทบต่อเงินปันผลในปลายปี แม้จะแลกมาด้วยมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นก็ตาม

นักลงทุนยังให้ความเห็นว่า สิ่งที่น่ากังวลหาก SpaceX จะควบรวมกับ Tesla จะประสบกับสถานการณ์เดียวกันกับ SolarCity ที่ต้องแบกภาระขาดทุนของ Tesla เอาไว้ และจะไม่ส่งผลดีในระยะยาวต่อ SpaceX เอง

ปัญหาของ Tesla ในขณะนี้คือ ความล่าช้าในการผลิต ซึ่งก็เนื่องมาจากการที่ไม่มีโรงงานที่มีกำลังการผลิตที่เพียงพอเป็นของตนเอง และหากจะต้องสร้างโรงงานเช่นนั้น ก็จะต้องใช้งบประมาณมหาศาล และการสร้างโรงงานยังต้องใช้เวลาอีกมาก แต่ในทุก ๆ วัน Tesla ก็มีรายจ่ายไหลออกไม่หยุด แม้ยอดจองรถยนต์เทสล่าร์จะมียอดจองถล่มทะลาย แม้ผู้คนจะให้การตอบรับอย่างล้นหลาม และถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่น่าจับตามองที่สุดในอนาคต แต่จะไม่มีประโยชน์เลย หาก Elon Musk ยังไม่สามารถแก้ปัญหากำลังการผลิตได้ และปัญหานี้จะเรื้อรังจนฉุดให้ทั้ง Tesla และ SpaceX ต้องพบกับปัญหาใหญ่ในอนาคต

แม้การควบรวมครั้งนี้จะช่วยต่ออายุของ Tesla ไปได้อีกไกล แต่ต้องไม่ลืมว่าการควบรวมในลักษณะนี้มีความเสี่ยงอย่างมาก เหมือนการเอาไข่ทุกใบมารวมในตะกร้าใบเดียว Elon Musk กำลังทำในสิ่งที่เสี่ยงยิ่งกว่าการเดินทางไปอวกาศ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าการควบรวมกำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้


และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ทาง CEO Blog ของเรานั้น ได้เปิดโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content แบบพรีเมี่ยมด้านการค้าปลีกออนไลน์ ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมแล้ววันนี้

หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใคร รับรองได้เลยว่าเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใคร

ceo premium content

Source: