Trade War หรือ สงครามภาษีที่นาย Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานำมาใช้กับประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศจีนที่ตกเป็นเป้าหมายสำคัญส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ทำการค้าระหว่างสองประเทศ และได้ส่งผลกระทบถึงนักธุรกิจไฮเทค Elon Musk เป็นรายล่าสุด
Elon Musk ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Tesla บริษัทผลิตและจำหน่ายรถยต์ไฟฟ้าชื่อดังประกาศความสำเร็จในการแก้ปัญหาการผลิตและส่งมอบ Model S และ Model X ตามความคาดหวังใหม่ แต่กลับพบปัญหาใหม่นั่นคือสงครามภาษีระหว่าง สหรัฐฯ และจีน ที่ทำให้บรรยากาศการค้าขายระหว่างสองประเทศตึงเครียด
Elon Musk ให้ข้อมูลต่อสื่อว่า รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Tesla ถูกตั้งอัตรากำแพงภาษีสูงถึง 40% ในขณะที่รถยนต์อื่น ๆ ที่นำเข้าสู่จีนยังคงมีอัตราภาษีเพียง 15% นอกจากนั้นต้นทุนการผลิต Tesla ยังสูงกว่าต้นทุนหากเทียบกับการผลิตรถยนต์โมเดลเดียวกันในจีนถึง 55 – 60%
หลังข้อมูลดังกล่าวเผยออกไปเมื่อวันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2018 —ราคาหุ้นบริษัท Tesla ก็ตกลง 1.8%
ผลกระทบเหล่านี้เกิดจาก Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เปิดสงครามภาษีอย่างเข้มข้นกับประเทศจีน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2018 ขึ้นอัตราภาษี 10% สำหรับสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ในบ้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบทันทีต่อสินค้าจีนมูลค่ากว่า 200,000 ล้านเหรียญฯ ที่กำลังนำเข้าไปยังสหรัฐฯ ในขณะที่ Xi Jinping ประธานาธิบดีจีนก็ตอบโต้โดยการขึ้นอัตราภาษีที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 60,000 ล้านเหรียญฯ ที่กำลังนำเข้าจีน
อย่างไรก็ดี, Elon Musk มองว่าประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Tesla และเชื่อว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะดีขึ้นหลังจาก Tesla สร้างโรงงานผลิตในจีนแล้วเสร็จ