Starbucks บุกตลาด Cold Brew กาแฟสกัดเย็น มั่นใจอีก 5 ปีครองสัดส่วน 50% ของยอดขายทั่วโลก

Starbucks ธุรกิจร้านกาแฟรายใหญ่แห่งเมือง Seattle สหรัฐอเมริกาที่มีสาขาทั่วโลกให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนสหรัฐฯ ในระหว่างการรายงานผลประกอบการไตรมาศ 4 ว่าได้จับมือกับบริษัท Joy Rides ธุรกิจจัดส่งเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-algohol beverage) ในการรุกและขยายตลาด กาแฟสกัดเย็น หรือ Cold brew coffee ที่เป็นสินค้าที่กำลังมีอนาคตสดใสสำหรับ Starbucks

กาแฟสกัดเย็น หรือ Cold brew coffee จะมีราคาแพงกว่ากาแฟปกติประมาณ 20% อย่างไรก็ดี ด้วยรสชาดที่เข้มข้นและเป็นกรดน้อยกว่ากาแฟปกติ ทำให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายและทำยอดขายอย่างสวยงามแก่ Starbucks ในปีที่ผ่านมา โดยมีกาแฟสกัดเย็น 2 แบบ แบบธรรมดา และแบบผสมไนโตรเจนซึ่งต้องมีเครื่องผสมแยกต่างหากอยู่ในร้านจึงมีอยู่ในบางสาขาเท่านั้น โดยแบบผสมไนโตรเจนช่วยเพิ่มความนุ่มนวลของ Texture และรสชาดของแกแฟ

Starbucks รายงานว่าหลังจากพัฒนาเมนูกาแฟสกัดเย็นผสมไนโตรเจนลงไปยังร้านค้าเมื่อปี 2015 ยอดขายก็เติบโตขึ้นทันที 25% และคาดการณ์ว่าภายในปี 2021 ยอดขายกาแฟกลุ่ม สกัดเย็น จะคิดเป็นสัดส่วน 50% ของยอดขายกาแฟทุกประเภทของ Starbucks จากเดิมที่อยู่ 35% เมื่อปี 2013

จับมือ Joy Ride สร้างพาร์ทเนอร์ด้านโลจิสติกส์

นอกจากการมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาอย่างไม่หยุดแล้ว ล่าสุด Starbucks ยังประกาศจับมือกับ Joy Ride ของสามผู้ร่วมก่อตั้ง David, Noah และ Adam Belanich ซึ่งเริ่มธุรกิจ Beverage truck ในปี 2011 ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นธุรกิจจัดส่งเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เต็มตัว

การจับมือกันในครั้งนี้จะเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ Starbucks กล่าวคือจะไม่ได้เป็นฝ่ายตั้งรับรอลูกค้ามาซื้อที่ร้าน แต่จะมี Beverage truck วิ่งไปยังชุมชมเพื่อส่งมอบประสบการณ์ กาแฟสกัดเย็น หรือ Cold brew coffee ของ Starbucks

กาแฟสกัดเย็น หรือ Cold brew coffee คืออะไร

กาแฟทั่วไปที่เราคุ้นเคย คือ กาแฟสกัดร้อน เป็นการชงผ่านน้ำร้อน จากนั้นจะนำมาดื่มแบบร้อน หรือเติมน้ำแข็งก็แล้วแต่ อย่างไรก็ยังถือว่าต้นกำเนิดของแก้วนั้น ๆ ยังมาจากน้ำร้อน

ส่วนกาแฟสกัดเย็น หรือ Cold Brew โดยคร่าว คือ การนำกาแฟบดแช่น้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง จะเป็นการหยดน้ำผ่านกาแฟ หรือการแช่กาแฟเป็นเวลาต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง เพื่อให้ได้น้ำกาแฟดำที่พร้อมดื่ม

จุดเด่นของกาแฟดำที่ได้จากการชงแบบสกัดเย็นคือรสชาดเข้มข้น นุ่มนวล และความเป็นกรดต่ำกว่า นอกจากนั้นยังรักษาระดับคาเฟอินที่สูงกว่าเมล็ดกาแฟที่โดนความร้อนอย่าง Hot brew อย่างไรก็ดี Cold brew อาจต้องแลกกับกลิ่นหอมแบบอโรม่าที่สู้ Hot brew ไม่ดีเท่า

 

Resources:

https://www.cnbc.com/2018/01/15/cold-brew-coffee-isnt-a-fad-its-a-big-part-of-starbucks-future.html

https://www.joyridecoffeedistributors.com/about/

https://www.posttoday.com/life/life/471435