Starbucks อเมริกาซบเซา ความหวังใหม่อยู่ที่จีน รุก 5,000 สาขาภายในปี 2021

สตาร์บัคส์ ประกาศเมื่อปลายเดือน กรกฏาคม 2017 ว่าเตรียมเข้าซื้อ สตาร์บัคส์ จาก Joint venture partners สาขาในจีน เป็นเงิน 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ปัจจุบัน จีนถือเป็นประเทศที่มียอดขายสตาร์บัคส์เติบโตดีที่สุดและต้นสังกัดเป็นเจ้าของเต็มตัวกว่า 1,500 สาขาในจีน และพร้อมจะเข้าซื้อเพื่อเป็นเจ้าของเต็มตัวอีก 1,300 สาขาที่กระจายอยู่ใน เซี่ยงไฮ้, เจียงซู, และ เจ้อเจียง ซึ่งนับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของสตาร์บัคส์

ยอดขายตก

Kevin Johnson ผู้บริหารคนใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่แทน Howard Schulz (ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอที่ลาออกจากตำแหน่งเมื่อปลายปี 2016) รายงานว่ารายได้ไตรมาส 2 ของปี 2017 สตาร์บัคส์ลดลง 8.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเกิดจากการอิ่มตัวของธุรกิจในอเมริกา พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปซื้อของออนไลน์ และสั่งอาหารแบบดิลิเวอร์รี่

ผู้บริหารคนใหม่บอกว่า บริษัทมีแผนจะยุติกิจการแบรนด์ Teavana Outlet ทั้งหมดที่มีจำนวน 379 สาขา หลังจากเริ่มดำเนินกิจการ (ภายใต้สตาร์บัคส์มาตั้งแต่ปี 2012) เพราะผลประกอบการไม่ดีมาโดยตลอด

ความหวังใหม่

Kevin Johnson ผู้บริหารสตาร์บัคส์ มองว่าปีนี้เป็นต้นไป ตลาดจีนคือตลาดใหญ่และเป็นเป้าหมายระยะยาวของบริษัท โดยบริษัทเริ่มถอนสัดส่วนการลงหุ้นจาก Joint venture partners ในฮ่องกงและไต้หวัน เพื่อนำมาลงทุนในจีน

ปัจจุบันมีสาขาของสตาร์บัคส์มากกว่า 130 เมืองในจีน เฉพาะเซี่ยงไฮ้ มี 600 สาขา ซึ่งเป็นเมืองที่มีสาขาสตาร์บัคส์มากที่สุดในโลก และเล็งจะขยายสู่ 5,000 ในประเทศจีนภายในปี 2021