SCG Express คือบริษัทขนส่งพัสดุจาก เครือซีเมนต์ไทย ที่แตกไลน์ออกมาเล่นในธุรกิจโลจิสติกนี้ โดยได้ร่วมมือกับยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่าง Yamato ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดส่ง โดยได้เริ่มให้บริการในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งที่ผ่านมาทาง SCG Express ประสบปัญหาเรื่องจำนวนสาขาให้บริการที่น้อย และกำลังหาพันธมิตร หรือตัวแทน เพื่อขยายสาขาให้เร็วขึ้น จนล่าสุดก็เกิดบิ๊กดีลนี้ขึ้น ระหว่าง SCG Express และ ปตท. ซึ่งเป็นการจับมือกันที่น่าจะเขย่าวงการโลจิสติกส์นี้เลยทีเดียว
โยจิ ฮามานิชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี ยามาโตะ เอ็กซ์เพรส จำกัด กล่าวถึงแผนธุรกิจว่า ทาง SCG เน้นสร้างจุดแข็งและความแตกต่าง โดยปัจจุบัน SCG เป็นรายเดียวที่มีนวัตกรรมส่งด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิ โดยขณะนี้ได้ขยายสู่ภาคตะวันออกแล้ว และจะขยายไปทั่วประเทศโดยเริ่มจากจังหวัดหัวเมืองภายในปีนี้ และตั้งเป้าจะครอบคลุมทั่วประเทศภายในกลางปี 2561
โดยคาดว่าจะเปิดจุดรับบริการให้ได้ 300 สาขาในปีนี้ ขณะนี้มี Service Point แล้ว 4 สาขา ได้แก่บางซื่อ, รัชดาภิเษก, รังสิต, บรรทัดทอ และเปิดจุดบริการตัวแทน Service Agent ไปกว่า 110 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลและภาคตะวันออก
ล่าสุดการจับมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เปิดจุดบริการตัวแทนรับพัสดุ ในพื้นที่ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto โดยประเดิม 8 สาขา ในกรุงเทพ ปริมณฑล และภาคตะวันออก ตอบรับตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตต่อเนื่องกว่า 20% โดยปัจจุบันมูลค่าการตลาดรวมมากกว่า 2.5 ล้านล้านบาท
ทำไมต้อง ปตท. ?
ในการนำพัสดุไปฝากนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ไปรษณีย์ หรือขนส่งเอกชนรายอื่นๆ สิ่งที่ผู้ส่งจะคำนึงถึงมากที่สุดคือ ที่จอดรถ เพราะถ้าจอดรถไม่สะดวก หรือไม่มีที่จอดรถแล้ว ก็จะเป็นการส่งที่ยากลำบากมาก การที่ SCG เลือกที่จะดีลกับ ปตท. นั้น ถือว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัว เนื่องจาก ปตท. ต้องการใช้พื้นที่เพื่อให้เป็น One stop service อยู่แล้ว และ SCG Express ก็ต้องการสาถานที่ ที่สามารถจอดรถได้สะดวกสบาย การเปิดให้ SCG มาใช้พื้นที่ในศูนย์ FIT Auto จึงเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองบริษัท
แผนยังไม่สอดคล้องกัน
ในขณะที่ ปตท. มีสาขา FIT Auto ยังไม่มากนัก (ประมาณ 25 สาขา) และเปิดให้ SCG เข้าใช้พื้นที่ เพียง 18 สาขเท่านั้น และปตท. เองมีแผนที่จะขยายสาขา FIT Auto ให้เป็น 100 สาขา ภายใน 5 ปี แต่ทาง SCG ต้องการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปีหน้านี้แล้ว ดังนั้นหากดูจากเป้าหมายและแผนการพัฒนาแล้ว FIT Auto คงเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของ SCG เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่หลัก ๆ แล้ว น่าจะเน้นขยายสาขาโดย จุดบริการตัวแทน Service Agent มากกว่า นอกเสียจากว่าหลังจากนี้ทาง SCG ได้ทดลองเปิดจุดรับฝากในศูนย์บริการ FIT Auto แล้วอาจจะมีผลตอบรับที่ดี ในอนาคตอาจจะมีการดีลเช่าพื้นที่เพื่อเปิดเป็น Service Point อย่างจริงจังก็เป็นได้ ซึ่งถ้าทำจริงก็ต้องบอกเลยว่า SCG จะมีสาขามากมายตามจำนวนสาขาของปั๊มน้ำมัน ปทต. คือประมาณ 1,340 สาขาเลยทีเดียว
โดยทาง SCG นั้นมียอดใช้บริการมากกว่า 600,000 แล้วในปีนี้ ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่า จะมียอดทะลุ 1,000,000 กล่องภายในสิ้นปี
สรุป การผนวกกำลังระหว่าง SCG และ PTT
ท่ามกลางกระแสการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยนี้ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการจัดส่งเติบโตตามไปด้วย ซึ่งในขณะนี้ นอกจาก ไปรษณีย์ไทย และ Kerry Express แล้ว ยังมีอีกหลายบริษัทที่เปิดให้บริการรองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งก็มีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่สำคัญหากต้องการจะจับตลาดในวงกว้าง สิ่งสำคัญคือจุดรับฝากพัสดุต้องทั่วถึง ซึ่งการจะขยายสาขาด้วยตนเองเป็นเรื่องที่ใช้งบประมาณมหาศาลมาก ดังนั้นทาง SCG จึงเลือกที่จะหาตัวแทน เปิดจุด Service Agent ซึ่งก็ทำให้สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว การร่วมมือกับ ปตท. ในครั้งนี้เป็นการเปิดพื้นที่รับฝากให้กว้างขึ้น แต่เพียง 18 สาขา นั้นยังไม่เพียงพอที่จะมีผลกับทั้งตลาดได้ และแม้จะต้องการขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกปั๊มของ ปตท. ก็ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี ดังนั้นรายได้หลักจะมาจากจำนวนสาขาแบบ Service Agent ที่สามารถเข้าถึงชุมชนได้ครอบคลุมมากกว่า
