วิเคราะห์ Facebook Algorithm 2014 เพื่อทิศทาง Facebook Marketing สำหรับนักการตลาดออนไลน์

??????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????

เรื่อง Facebook algorithm ปรับปรุงนี่มีข่าวมานานแล้ว หลายคนก็คงประสบกันบ้างแล้วแต่ไม่ชัวร์ว่าเป็นมาในรูปแบบไหน พอดีผมได้รับการยืนยันจาก Amy Porterfield ซึ่งเธอเป็นกูรูและนักปรึกษาด้าน Facebook marketing ว่าด้วย Facebook algorithm ผลลัพธ์ที่จะเกิดกับ Page ของคุณ (และของผม) คือ

Facebook algorithm มีผลดีสำหรับ Facebook ส่วนตัว ที่โพสต์ข้อความเป็น Text ล้วน แต่จะมีผลกระทบสำหรับ Facebook page กล่าวคือพวกโพสต์ Text ล้วนจะไม่ค่อยได้รับการผลักดันให้แสดงผล ในขณะเดียวกัน Facebook page ที่มีโพสต์ข้อความติด Link หรือที่เรียกว่า Link-post จะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีอย่างีนัยสำคัญจาก Facebook algorithm

ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะได้สังเกตเห็นด้วยตัวเองแล้วว่า Facebook จะแสดงผลข้อความที่มีลิงค์ออกไปยังเว็บไซต์ด้วยการแสดง Feature image, Post title และ Meta description อย่างโดดเด่นส่วนงามซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนยังไม่มี Feature แบบนี้ ในขณะที่ประมาณต้นๆปี 2013 เริ่มมี Feature นี้เข้ามาแต่ก็ยังไม่สมบูรณ์และกรอบรูปภาพยังเล็กและดูไม่สวยงาม

ผมไม่แน่ใจว่า Feature นี้จะแสดงผลเต็มที่กับแพล็ตฟอร์มของ Blogger.com หรือไม่ แต่สำหรับ WordPress แล้ว Feature นี้ทำงานได้อย่าเต็มประสิทธิภาพเพราะ WordPress มีฟังชั่นที่เรียกว่า Upload feature image และมี All In One SEO Plug-In สำหรับการทำ Meta description เมื่อนำไปโพสต์ลงใน Facebook page จึงได้ผลลัพธ์อย่างเต็มกำลัง ผมไม่มีภาพตัวอย่างการแสดง Link-Post สมัยก่อนแต่อธิบายคร่าวๆคือสมัยแรกๆเลยเวลาใส่ Link ลงไปมันจะไม่แสดงผลอะไรทั้งสิ้น จะเป็น Hyperlink ยาวๆขี้แหร่ๆ ปรากฏในข้อความเท่านั้น แต่ปัจจุบันเมื่อคุณทำ Link-post มันจะปรากฏแบบนี้ (ซึ่งคุณจะลบ Hyperlink ยาวๆออกก็ยังได้)

Slide1

การแสดงผลบน Wall ของ Page

Slide2

การแสดงผลบน Wall ของ Page

New งานนำเสนอ Microsoft PowerPoint 03

การแสดงผลบนหน้าหลักของ Newsfeed 

Facebook ได้ทำการวิจัยและเก็บสถิติซึ่งตอบ Facebook ได้ว่าการแสดงผลในลักษณะนี้ส่งผลให้มีการ Engage ของผู้คนมากอย่างเห็นได้ชัด ทั้ง Like, Share, และ Comment กล่าวคือผู้คนจะถูกดึงดูดได้ง่ายด้วยรูปภาพและข้อความที่ตรงประเด็น

2-3 เดือนที่ผ่านมาผมเองก็สังเกตพบว่า Facebook page ของข่าวที่ผม Follow อยู่ก็ได้รับการแสดงผลอย่างโดดเด่นใน Newsfeed ไม่ว่าจะเป็น Pantip, Entrepreneur.com, Fortune Magazine, Business Insider ฯลฯ ทำให้ผมได้รับข่าวสารและ Content ที่มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้ผมเข้าไป Engage ด้วยการกด Like กด Share และกด Link เพื่อออกจาก Facebook ไปยังเว็บเหล่านั้น… อ้าว แล้วอย่างนี้จะเป็นผลดีกับ Facebook เหรอ?

ผมขอสันนิษฐานว่า Facebook เองก็ตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น คือการเป็น Reliable source of information อีกแหล่งหนึ่ง ที่ที่คนสามารถเข้ามาแฮ้งเอาต์ใน Facebook และได้รับข่าวสารดีๆจากเพจและเว็บที่พวกเขาชื่นชอบและมีโอกาสติดตามอ่านข่าวอย่างทันท่วงที หากไม่อยากพลาดข่าวสารก่อนใครผู้คนก็ต้องเข้ามาที่ Facebook เป็นอันดับแรก

หลักการคล้ายกับ Google ที่มีหน้าที่แสดงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาแล้วส่งผู้คนออกจาก Google ไปยังเว็บไซต์เหล่านั้น แต่แล้วผู้คนทั่วโลกก็ต้องกลับมาที่ Google ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการค้นหาเว็บไซต์จาก Keyword ทุกชนิดบนโลก

แล้วเพจคำคมอารมณ์ขัน เพจข้อคิดแนวคิดดีๆ ที่โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพล่ะ?

กลุ่มนี้อยู่ตรงกลาง 50/50 ถ้าเพจมีเนื้อหาดี มีการ Engage เยอะ มีคน Like คน Share คน Comment เยอะ ก็จะแสดงผล แต่! ไม่ใช่กับทุกคน

ผมสังเกตว่า Facebook มีการปรับตัวตามพฤติกรรมของ User ยกตัวอย่างสมัยที่ผมสนใจพวกปรัชญา ผมเข้าเยี่ยมชม กด Like กด Share และ Comment ในเพจปรัชญามากเป็นพิเศษ Facebook ก็จะแสดงผลเพจนั้นๆให้ผมทุกครั้งที่มีเจ้าของเพจมีการ Status update แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยข้องแวะกับเพจปรัชญา Facebook ก็ไม่นำมาแสดงผลอีกทั้งๆที่เพจเหล่านั้นก็อัพ Status ทุกวันและบางเพจวันละหลายครั้ง!… Facebook หันมาแสดงผลเพจธุรกิจและ Internet marketing ที่ผมเข้าไปเยี่ยมชมมากขึ้นแทนที่

สำหรับเรื่องนี้ผมขอสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการจัดการแสดงผล Feed ที่มีความเกี่ยวข้องและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่า Facebook page นั้นฟรีและคนเปิดเพจกันเยอะมากและหลายเพจเป็นเพจที่ไม่ได้มีเนื้อหาเป็นสาระสำคัญนอกจากการแชร์รูปภาพกับข้อความสั้นๆ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยนะครับ ในต่างประเทศก็เป็น สุดท้ายจึงทำให้เพจลักษณะนี้มากมายจนล้น Facebook จึงต้องพัฒนา Algorithm ที่จะแสดงผล Newsfeed ที่มีคุณภาพมากขึ้น

สรุป

ผมคิดว่าเรื่องนี้จะทำให้ Facebook marketing เป็นเรื่องท้าทายและสนุกขึ้น การทำงานแบบเดิมๆคงไม่ได้ผลมากมายอีกต่อไป แต่สำหรับคนที่มีเว็บไซต์คุณภาพเป็นของตัวเอง เช่น เว็บข่าว, เว็บอีคอมเมิร์ซ, และแม้แต่เว็บบล็อก จะได้รับผลดีเพราะ Facebook algorithm สนับสนุน Link-Post ที่แสดงผล Feature image แบบจัดเต็มและเกิด Impact เวลาไปปรากฏใน Newsfeed ส่วนเรื่องการเข้าถึง 10% อะไรสักอย่างก็ยังอยู่นะครับ แต่มันก็ไม่ได้ตายตัวหากโพสต์ของคุณมีคน Engage ระเบิดระเบ้อ Reach ก็กระฉูดครับ โดยส่วนตัวผมเองก็ได้รับผลดีจากการพัฒนา Feature นี้เช่นกัน Link-post บทความของผมเกิด Impact มากขึ้นและได้รับการ Engage มากขึ้น ที่เหลือคือหน้าที่คุณที่จะสร้าง Content ที่มีคุณภาพ

Join The CEO Blogger’ Newsletter to Your Inbox – Free sign up below. NO SPAM!

[convertpress id=”1876″ replacetheme=”false”]