Chris Ducker, Full-Time Internet Entrepreneur: เมื่องานประจำมันถึงที่สุด กูขอเลิกจ้างตัวเอง

Chris D 01

เรามักได้ยินเหตุการณ์ในลักษณะที่นายจ้างเป็นฝ่ายเลย์ออฟพนักงาน ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจพนักงานระดับบริหารที่รับผิดชอบงานสำคัญๆยังไม่วายถูกบอกเลิก แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ทำงานประจำกว่า 14 ปี ก้าวหน้าและเติบโตครองตำแหน่งหัวหอกคนสำคัญในสายงาน Sales & Marketing และ Business Development ช่วยสร้างรายได้มหาศาลให้แก่นายจ้าง แม้บางช่วงเขาจะมีใจแอบคิดไปยังการเป็นนายตัวเอง แต่เขาก็ดึงความคิดกลับมารับใช้องค์กรต่อไปเพราะ 1). ความรับผิดชอบ, 2). ความกลัวที่จะเริ่มต้นใหม่ – จนกระทั่งเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เขาฟิวส์ขาดถึงขั้นตัดสินใจขอเลิกจ้างตัวเอง

ในปี 2007, คริสต์ ดักเกอร์ (Chris Ducker) ทำงานในตำแหน่ง Sales Director ให้กับบริษัทจำหน่ายอาหารเสริมโดยตัวเขาถูกส่งไปประจำสำนักงานในฟิลิปปินส์ เขาประจำการอยู่ในฟิลิปปินส์และทำงานอย่างมีความสุขด้วยอำนาจและอิสรภาพในการทำงานที่ค่อนข้างมีอิสระ และที่สำคัญเงินเดือนและสวัสดิการดีมาก …ตรงนี้ผมขอเสริมนิดหนึ่ง หากคุณทำงานในบริษัทข้ามชาติคุณจะสังเกตได้ว่า ผู้บริหารฝรั่งที่ดำรงตำแหน่งสำคัญๆที่บริษัทแม่ส่งมาประจำการณ์ในประเทศไทย นอกจากอาจจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินเหรียญแล้วยังมีสวัสดิการเต็มพิกัด อาทิ บริษัทเช่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ให้อยู่, สามารถเบิกจ่ายการใช้ Facility ในเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์นั้นๆ, และมีรถประจำตำแหน่งให้ เรียกว่าใช้ชีวิตราวกับสุลต่านทีเดียว

จุดแตกหักระหว่าง คริสต์ กับ นายจ้าง

กระทั่งวันหนึ่งในปี 2007 ทางเจ้าของบริษัทได้โทรตามเขาให้บินด่วนกลับไปที่อเมริกาเพื่อไปช่วยเป็นพ่องานในงาน Event แสดงสินค้าครั้งสำคัญรวมไปถึงเป็นผู้ช่วยรับรองแขก VIP ในงาน Meeting ของ Event ดังกล่าว

เขารีบเดินทางกลับไปตามคำสั่งด้วยความตื่นเต้นเพราะเขาไม่ได้พบนายจ้างมานานมากและเขามีประสบการณ์ดีๆที่อยากจะแชร์ให้เจ้านายของเขาฟัง รวมไปถึงยังจะได้พบลูกค้า VIP ที่เขาเคยร่วมงานด้วยและมีสายสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด… แต่เมื่อไปถึง คริสต์ บอกว่าเขารู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งและกดหัวอย่างแรง

ในงาน Event แสดงสินค้า เจ้าของบริษัทไม่เคยเข้ามาที่พื้นที่เลย คริสต์ ถูกปล่อยให้สาละวนกับการจัดการหน้างานราวกับเป็นพนักงาน Organizer ทั่วไป และในช่วง VIP dinner meeting ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ คริสต์ คิดว่าจะได้แชร์ประสบการณ์ ความรู้ และการนำเสนอธุรกิจใหม่ๆ ให้เจ้านายและแขกเหรื่อลูกค้าได้ฟัง แต่เขากลับถูกสั่งห้ามพูดอะไรมาก และให้นั่งเฉยๆ เป็นเครื่องประดับประจำโต๊ะอาหารตลอดงาน

Over the course of those first 6-8 months I had made this guy well over $2million in revenue. And with the margins involved in that business, he was sitting very pretty on the profits. But, why had he been so controlling, such a micro-manager at the conference? Why wouldn’t he let me speak to the clients I already had the rapport with for more than two minutes.

To this day, I don’t know.

But, one thing I did know was that I wasn’t happy with it – at all.

On the way back home, at 35,000 feet I started to think about where I was in my professional life. Where I wanted to be, and what I wanted to be doing. Did I want to be working for someone that was happy to get rich off of MY hard work, but not allow me to talk in client meetings? Was I fine with the idea of being viewed as an exhibition booth babysitter?

No, of course not. I was worth way more than all of that.

ถ้อยความด้านบนเป็นความคิดที่วิ่งผ่านหัวของเขาหลังจากมีเวลาอยู่กับตัวเอง ที่ผ่านมาเขารับผิดชอบงานสำคัญที่ทำเงินให้กับบริษัทกว่า 2 ล้านเหรียญในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีแต่กลับถูกลดความสำคัญในงานสำคัญทำให้เขาระลึกถึงคุณค่าในตัวเองว่า ฉันทำเงินให้เขามาเท่าไร แต่วันนี้ฉันถูกมองเป็นแค่พี่เลี้ยงงาน Event ฉันมีค่ามากกว่านั้นสิน่า

หลังจบงาน คริสต์ เปิดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเขียนอีเมล์จดหมายลาออก… เขียนจดหมายเสร็จ ก็ Skype หาภรรยาที่บ้านเกิดเพื่อบอกเธอว่าเขาจะลาออกมาทำธุรกิจของตัวเอง (ประมาณว่าเมื่อกลับไปถึงบ้าน เธออย่าด่าฉันนะ) – บอกภรรยาแล้วก็กลับมาที่อีเมล์เพื่ออ่านทวน ทวนจดหมายขอลาออกท่ามกลางความกลัว ในฐานะของผู้นำครอบครัว เป็นสามี และเป็นพ่อคน เขาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ที่สุดแล้วมันต้องตัดสินใจ เขากด SEND EMAIL… กูเลิกจ้างตัวเอง!

ธุรกิจอินเตอร์เน็ตสุดแนวของ Chris Ducker นำประสบการณ์บริหารคนในฟิลิปปินส์มาเป็น Niche ให้บริการ Outsourcing Services

ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในการมีผู้รับจ้างเป็น Virtual assistant (VA) หรือ ผู้ช่วยระยะไกล เพราะด้วยความที่คนฟิลิปปินส์สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีและมีค่าแรงที่ถูกกว่าจ้างคนในประเทศอเมริกา คนอเมริกันจึงนิยม Outsource งาน Administrative และ Coordination ต่างๆไปยัง VA ในประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนตัว คริสต์ เองนั้นได้ไปประจำการณ์อยู่ในประเทศฟิลิปปินส์อยู่พักใหญ่ ทำให้เขามีความคุ้นเคยและมี Connection กับคนฟิลิปปินส์ในระดับหนึ่ง รวมไปถึง Connection กับลูกค้าตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมา เขาจึงนำทรัพยากรเหล่านี้มาสร้างธุรกิจบริการ Outsourcing ซึ่งมีทั้งหมด 3 บริษัทได้แก่ Live2Sell Group ให้บริการ Call Center ฯลฯ, Location 63 ให้บริการ Co-Working Space, และ Virtual Staff Finder  ให้บริการสรรหา Virtual Assistant

Virtual Staff Finder เป็นธุรกิจที่ Active ที่สุดของเขาในปัจจุบัน การทำงานทั้งหมดเกิดขึ้นบนอินเตอร์เน็ตโดย คริสต์ เป็นนายหน้าในการรับคำสั่งและประสานงานระหว่าง ผู้ประกอบการที่ต้องการ Outsource ผู้ช่วย VA กับ ทีม Outsourcing ในฟิลิปปินส์

Virtual Staff Finder คิดค่าบริการคำสั่งละ $395 รับคำสั่ง Spec คนและ Scope งานที่ลูกค้าต้องการและนำไป Sourcing คนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด สอบประวัติ, สอบสัมภาษณ์, คัดเลือก, และคัดกรองจนได้คนที่บริสุทธิ์ตรงสเป็กที่สุดแล้วจึงส่งให้ลูกค้าสัมภาษณ์ขั้นสุดท้ายก่อนตัดสินใจดีลงานว่าจ้างกับ VA กับลูกค้าโดยตรงกันเอง หากไม่พอใจกับคนที่เลือก สามารถแจ้งขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ภายใน 10 วัน โดยทาง Virtual Staff Finder จะหาคนใหม่มาให้เลือกได้อีก 1-2 คนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากพ้นเงื่อนไขรับประกันไปแล้ว ลูกค้าต้องกลับไปเริ่มกระบวนการหาคนใหม่ เป็นต้น

นำความรู้และประสบการณ์มาเปิดบล็อก ChrisDucker.com

ความสำเร็จและประสบการณ์ดีๆของ คริสต์ จะไม่เป็นที่รู้จักเลยหากเขาไม่นำความรู้มาเผยแพร่ผ่านบล็อก หลังจากอยู่ตัวกับธุรกิจ Online outsourcing services, ต่อมาเขาเปิดบล็อก ChrisDucker.com และนั่นเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในไปทั่วโลกในฐานะ Outsourcing expert

คริสต์ แชร์ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการ Outsource จนกลายเป็นศูนย์รวมของผู้ต้องการศึกษาเรื่องการ Outsource และผลพลอยได้ที่จากการแชร์ Free content คือชื่อเสียงในฐานะ Blogger และ Internet marketer แนวหน้า เว็บไซต์ ChrisDucker.com กลายเป็น Personal brand ทำให้เขาพัฒนาอาชีพ Internet marketing consultant และ Speaker ที่มีมูลค่าสูงรวมไปถึงคอร์สสร้างชื่ออย่าง 1-Day Business Break Through Event ที่เขาจัดคู่กับ Pat Flynn แห่งบล็อก SmartPassiveIncome.com

Chris D 03

Authority ในเนื้อหาส่งผลสู่การเป็นนักเขียน,และผลงานหนังสือ Self-Published, Virtual Freedom

บางคนอาจไม่ชอบคำนี้ “Self-Published” เพราะมันฟังดูไร้สังกัดแต่ผมเป็นคนหนึ่งที่ประสบผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายจาก E-Book Self-Published และพบว่ามันทำให้คุณเริ่มต้นงานเขียนและไปได้เร็วกว่าการรอโอกาสจากระบบ Traditional publishing หรือการเสนองานผ่านสำนักพิมพ์ที่ต้องรอกันเป็นปีๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณสร้าง Authority ของคุณผ่านบล็อกจนมีผู้ติดตามเนื้อหาของคุณอย่างมากมายแล้ว การทำหนังสือแบบ Self-Published จะกลายเป็นเรื่องง่ายและเสี่ยงน้อยขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวทีเดียว หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Self-Publishing ผมมีอีบุ๊คที่พูดถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะ ที่นี่

กรณีเดียวกันนี้กับ คริสต์ ดักเกอร์… เขามี Authority ในเนื้อหาของตัวเองอย่างล้นหลาม และด้วยรายได้มากมายที่เขาได้รับจากธุรกิจออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆที่ผ่านมากเป็นทุน ทำให้ต้นทุนในการตีพิมพ์หนังสือเล่มแบบ Self-Published ของตัวเองจึงไม่ใช่ข้อจำกัดอะไรเลย โดยในปี 2014 นี้เขาได้เขียนและตีหนังสือชื่อ Virtual Freedom เผยเทคนิคการจ้างงานแบบ Outsourcing วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการ และว่าที่ผู้ประกอบการสามารถกระจายงานกระจุกกระจิกออกไปยัง Virtual assistant และหันมาโฟกัสที่งานสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจมากกว่า และมีอิสรภาพมากขึ้น

ส่วนการตลาดในการโปรโมทหนังสือ? ก็บล็อก และ Network คู่ค้า, คู่หู ,เพื่อนร่วมวงการบล็อกที่เขามีอยู่ทั่วโลกไง! เอาง่ายๆ แค่ Pat Flynn คนเดียวก็สามารถทำให้ผลงานของเขา Viral กระจายเพราะ Pat Flynn เป็นบล็อกเกอร์ที่มีอิทธิพลและมีแฟนคลับติดตามทั่วโลกครับ

สรุป คุณคิดว่า คริส ดักเกอร์ เป็นเทพหรือไม่

Chris D 02บ้านเราชอบเรียก Internet marketer ที่ประสบความสำเร็จว่าเทพ ถามว่าเทพอย่างไร คำตอบคือ เพราะ Internet marketer นิรนามทำเงินได้วันละล้านบาทจากการปั่นเว็บไซต์สแปม

ผมถามต่อว่าเปิดเผยตัวได้ไหม เปิดเผยเทคนิคได้ไหม คำตอบคือ “ไม่ได้ เพราะถ้าเปิดเผยแล้วคนทำจะซวย เทคนิคจะวาย” – เฮ่ย เทพตรงไหน!? ถ้าเปิดเผยแล้วเทคนิคจะวายใช้การไม่ได้ไม่ใช่เทพ คุณสมบัติเทพในตำนานคืออะไรครับ? – คือ ต้องเป็นอมตะ

เทคนิคของเทพต้อง Evergreen คือ สด ไม่มีวันตาย

เทคนิคของเทพ เผยได้ เอาแนวทางไปเป็นไกด์ไลน์ได้ แต่กระบวนการทำงานต้องปรับใช้และนับ 1,2,3 ไปตามขั้นตอนตามประสบการณ์ของแต่ละคน ไม่ใช่เผยวันนี้พรุ่งนี้เทพตายเพราะโดนคนเอาไป Duplicate นะ

ยกตัวอย่างกรณีของ คริสต์ ถ้าคุณจะเอาคอนเซปต์ของ VirtualStaffFinder.com ไปทำก็ได้ เขาสอนเทคนิคการ Outsource ไว้ทั้งหมดในบล็อก แถมมีมินิอีบุ๊คแจกฟรีด้วย แต่ไม่ใช่ว่าเอาไปทำแล้วสัปดาห์หน้าคุณจะกลายเป็น คริสต์ ดักเกอร์ 2 คุณต้องสร้างทีม ต้องบุกตลาด ต้องสร้างฐานลูกค้า ฯลฯ นี่คือกระบวนการในธุรกิจและเมื่อคุณประสบความสำเร็จแล้วคุณจะไม่ได้ไปทำให้ คริสต์ ดักเกอร์ เจ๊ง ถูกไหม! เพราะเขาก็ครอง Market share ของเขา และธุรกิจกิจที่แตกไลน์ไปใน Sub-Niche ต่างๆที่ต่างกัน แบบนี้จะว่า คริสต์ ดักเกอร์ เป็นเทพก็ได้ เพราะธุรกิจของเขาเป็นอมตะ เปิดเผยแล้วคนเอาไปทำตามก็ไม่ทำให้เขาได้รับผลกระทบ!

ความสำเร็จของ คริสต์ ดักเกอร์ เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ เพราะหนึ่งเขาสร้างธุรกิจจาก Professional foundation หรือ รากฐานทางความรู้ผ่านประสบการณ์ในการทำงาน บวกกับ Connection ในแวดวงการทำงานที่สะสมมากว่าสิบปี อันนี้คือทรัพยากรสำคัญที่สุดเพราะใครมาเอาไปจากคุณไม่ได้ ต่อมาคือหา Pain point หรือ ปัญหาในตลาด แล้วนำมาผสมผสานกับทรัพยากรด้านบนเพื่อเปิดเป็นธุรกิจใหม่และขายออกไปยังผู้คนที่ต้องการ เป็นหลักการและ Logic พื้นฐานในการทำธุรกิจ กระบวนการจะเดินไปตามธรรมชาติของงาน หลักการนี้ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายๆ Niche ครับ

Join The CEO Blogger’ Newsletter เพื่อรับอัพเดทดีๆและข่าวสารสำคัญส่งถึงอีเมล์คุณ ฟรี ไม่มี Spam!

[convertpress id=”1876″ replacetheme=”false”]