คุยกับ CEO สาวเจ้าของแบรนด์ Aphrodite ปั้นธุรกิจยอดขาย 8 หลักอย่างไร ระหว่างทำงานประจำ

ธุรกิจอาหารเสริมและเครื่องสำอางเป็นหนึ่งในตลาดในฝันของคนอยากทำธุรกิจและอยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง แต่อะไรที่ยิ่งนิยม การจะประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

บทความสัมภาษณ์นี้ CEOblog พาไปรู้จักเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมและเครื่องสำอางที่ปั้นแบรนด์ของตัวเองระหว่างทำงานประจำไปด้วยจนมียอดจำหน่ายแตะ 10 ล้านบาทภายใน 1 ปี คุณเนม วรรณศิลป์ ทิพยรัตน์ เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอาง แบรนด์ Aphrodite เทพีแห่งความรัก ความสวย และความสุข

ไปดูกันว่า ผู้หญิงตัวคนเดียวที่ทำงานประจำไปด้วย และประสบการณ์ธุรกิจในตลาดนี้ก็ไม่มาก การตลาดออนไลน์นั้นแทบไม่รู้เลย แถมงบประมาณต้นทุนธุรกิจก็พุ่งจากหลักแสนไปหลักล้าน จนเพื่อนร่วมธุรกิจบางคนก็หนีหาย ฯลฯ เธอผ่านมันไปได้อย่างไร และปัจจุบันเป็นอย่างไร ไปดูกัน! 

CEOblog: ก่อนมาทำ Aphrodite คุณเนม ทำงานประจำอะไรมาก่อน และประสบการณ์ในการทำงานประจำเป็นอย่างไรบ้าง?

Aphrodite: ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานประจำค่ะ อยู่บริษัท แอมเพิลไลท์ ไฟเบอร์กลาส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นฝ่ายขายสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น แผ่นหลังคาโปร่งแสงและสกรู ทำที่นั่นมา 9 ปีกว่า ตั้งแต่เริ่มตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย จนเติบโตมาเป็นตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย (Assistant Sales Manager) ก่อนจะลาออกมาบริหารกิจการแบรนด์ Aphrodite อย่างเต็มตัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา

เกือบศตวรรษที่ทำงานที่บริษัท แอมเพิลไลท์ เนมได้เรียนรู้อะไรต่างๆมากมาย ทั้งการบริหารยอดขาย บริหารทีม บริหารลูกค้า และเทคนิคการขาย การดูแลลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้ากับบริษัท ผลลัพธ์และความก้าวหน้าตลอดที่ทำงานที่นั่น ทั้งในแง่ของการสร้างยอดขายให้บริษัท การเป็นตัวอย่างที่ดีของพนักงานฝ่ายขาย จนได้รับรางวัลที่เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จมากมาย เช่น Sales of the month , Sales Ambassador , Sales of the year ทั้งหมดนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากในฐานะพนักงานประจำคนหนึ่ง

CEOblog: ตอนที่ตัดสินใจเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว คิดอย่างไรถึงตกผลึกออกมาเป็นอาหารเสริม

Aphrodite: ที่เริ่มธุรกิจ Aphrodite ด้วยอาหารเสริม เพราะเป็นคนที่ชอบทานอาหารเสริมมาก เนื่องจากในอดีตเป็นคนที่ขี้เหร่มากๆ ทั้ง อ้วน เตี้ย ดำ หน้าสิวเขรอะเกรอะกรัง แต่ก็พยายามทุกวิถีทางที่อยากจะสวย แต่ก็เป็นคนขี้เกียจทาครีม ดังนั้น อาหารเสริมจึงถูกจริตเนมมากที่สุด ก็เป็นผู้บริโภคมา 10 กว่าปี ยี่ห้อไหนที่เค้าว่าดี โฆษณาอะไรมา เชื่อหมด ซื้อทานมาเกือบทุกยี่ห้อในตลาดแล้วค่ะ 555

แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะว่าผลลัพธ์ที่เนมคาดหวังไว้จากคำโฆษณา มันยังไม่ตอบโจทย์เราเท่าไร ก็ซื้อไปเรื่อย ลองไปเรื่อย จนเริ่มท้อ พอผิดหวังบ่อยๆเข้า ก็เลยมานั่งคิดว่า ทำไมเราไม่ลองผลิตอาหารเสริมในแบบที่เราต้องการล่ะ อยากได้ผลลัพธ์ยังไง เราก็แค่กำหนดสูตร ใช้สารสกัดเกรดพรีเมี่ยมก็ได้ ต้นทุนสูงหน่อยก็ไม่เป็นไร เน้นเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนเป็นหลักก็พอ จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูล และลุย

CEOblog: เริ่มต้นระหว่างทำงานประจำไปด้วย มีวิธีบริหารจัดการอย่างไร? 

Aphrodite: ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะเป็นเจ้าของธุรกิจเลยนะคะ เพราะเนมเองก็เป็นคนที่ “กลัวความเสี่ยง” เหมือนใครหลาย ๆ คน แต่พอเราค้นคว้าหาข้อมูล อ่านงานวิจัยสารสกัดเป็นร้อยบท และบวกกับประสบการณ์ที่อยู่ในฝั่งผู้บริโภคอาหารเสริมยาวนานกว่า 10 ปี ทำให้เนมมั่นใจว่าธุรกิจนี้ล่ะ ที่เราจะต้องทำมันได้ดีแน่นอน

พอตกผลึกทุกอย่างแล้ว ก็เทเงินเก็บหมดหน้าตักที่มี คือ 7 แสนกว่าบาท แต่ไม่พอ ต้องขอยืมพี่สาวอีก 2 แสน คือใช้เงินลงทุนเกือบ 1 ล้านบาท สำหรับการผลิตอาหารเสริมล็อตแรก ซึ่งท้าทายมากสำหรับพนักงานประจำคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีประสบการณ์อะไรเลย จากนั้นก็ออกแบบสินค้า โดยใช้ประสบการณ์จากการทานคอลลาเจนมานาน แล้วไม่ค่อยได้ผล ศึกษาสารสกัดกลุ่มสเต็มเซลล์ (เซลล์ต้นกำเนิด) ที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็วกว่า ในปริมาณการทานที่น้อยกว่า ผลิตออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคที่สิ้นหวังกับการทานอาหารเสริม แต่ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง

CEOblog: ลงทุนไปกับค่าสินค้าเยอะมาก แล้วเริ่มต้นทำการตลาดให้แบรนด์ตัวเองอย่างไร?

Aphrodite: เนมใช้เวลาเกือบ 4 เดือนในการค้นคว้า วิจัยสูตรใหม่ เตรียมการผลิตจนออกมาเป็นสินค้า ตอนแรกใช้วิธีการขายแบบออฟไลน์ คือเดินไปเสนอขายตามร้านค้าปลีก/ร้นค้าส่งอาหารเสริมที่มีตามห้างทั่วไป ก็โดนปฏิเสธมานับร้านไม่ถ้วน เพราะแบรนด์เราไม่มีกระแส ไม่ใช้ดาราโฆษณา แต่เนมก็ไม่ท้อนะคะ เพราะเรามั่นใจในคุณภาพของเรามาก ๆ

ในที่สุดเราก็เจอร้านค้าที่มองข้ามเรื่องการตลาดไป เพราะสนใจเพียงคุณภาพของสินค้าเท่านั้น เนมก็ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทุกห้าง จนมีร้านค้าเยอะขึ้น ส่วนตัวแทนจำหน่าย ก็มาจากลูกค้าที่ซื้อไปทานแล้วชอบ เห็นผลชัดเจน จนคนรอบข้างทักและฝากซื้อ ก็เลยมาสมัครเป็นตัวแทนกัน ทำโมเดลแบบนี้ซ้ำ ๆ ๆ ตลอด 8 เดือนที่ทำงานประจำไปด้วย เพราะเราแอบทำ เปิดตัวมากไม่ได้ แต่ก็สร้างยอดขายได้ 10 ล้านบาทในปีแรก ผ่านช่องทางออฟไลน์เท่านั้น โดยไม่ได้ทำการตลาดอะไรเลยค่ะ

CEOblog: อะไรที่บอกเราว่า นี่แหละมาถูกทางแล้ว ออกมาลุยเต็มตัวเถอะ?

Aphrodite: เนมแอบทำแบรนด์ Aphrodite คู่กับงานประจำมาได้ 8 เดือน ซึ่งเรารู้สึกว่าเราทำธุรกิจของเราได้ไม่เต็มที่ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นแตกสินค้ากลุ่มอาหารเสริมออกมา 3 ตัวแล้ว (มีผู้ช่วยคนหนึ่งที่ช่วยดูแลเรื่องการส่งของ และสต็อคสินค้าให้) จนวันหนึ่งก็มานั่งคิดว่า ถ้ายังทำงานประจำอยู่แบบนี้ แบรนด์ Aphrodite ของเราคงจะโตแบบบอนไซแน่ๆ (คือโตได้ไม่เต็มที่) เพราะต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ แอบทำ แอบส่งของ เปิดตัวก็ไม่ได้

เลยตัดสินใจลาออกมาลุยเต็มตัว และก็ต้องบอกว่าตัดสินใจไม่ผิดเลย เพราะพอลาออกมาได้เพียง 3 เดือน เนมแตกไลน์สินค้าจากเดิมที่มี อาหารเสริมเพียง 3 ตัว เพิ่มขึ้นมาเป็น 10 ตัว ก็คือ เพิ่มอาหารเสริมอีก 2 ชนิด และเครื่องสำอางออร์แกนิค อีก 5 ชนิด เรียกได้ว่า ยอดขายและตัวแทนจำหน่ายเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดมากๆ จากการที่เรามาโฟกัสกับมันอย่างเต็มที่ และเจ้าของแบรนด์ทำการตลาดเต็มตัวมากขึ้น ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป

CEOblog: ปัจจุบัน Aphrodite จัดจำหน่ายในรูปแบบใดบ้าง?

Aphrodite: ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่เนมสร้างแบรนด์ Aphrodite ขึ้นมา เรามีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจทุกปี เราลองผิด ลองถูก ในทุกช่องทาง เราไม่ยึดติดกับวิธีใดวิธีหนึ่ง ในช่วงปีแรก เนมเน้นขายผ่านร้านค้าปลีก และร้านค้าส่ง และต่างประเทศ เป็นหลัก ปีที่สอง เน้นขายต่างประเทศ ร้าน Modern Trade และสร้างตัวแทน และปีที่ 3 เน้นสร้างธุรกิจและรายได้ให้กับคนไทย เลยมาเน้นการสร้างตัวแทนจำหน่าย ที่เรียกว่า “โครงการนางฟ้าอโฟรไดท์” ขึ้น แต่ทั้งหมดนี้ต้องบอกว่า เนมทำธุรกิจโดยใช้ช่องทางการจำหน่ายแบบผสมผสาน เพื่อปรับเปลี่ยนองค์กรไปในทิศทางที่เหมาะสมอยู่ตลอด

ปัจจุบัน เนมมี นางฟ้าอโฟรไดท์ (ตัวแทน) ทั่วประเทศกว่า 500 คน ที่ขายสินค้าทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนี้แบรนด์เองก็มีช่องทางการขายออนไลน์ ทาง www.aphrodite-group.com ขายทางเฟสบุคเพจ Aphrodite Group ขายทาง Line@ และ IG ของบริษัท รวมทั้งเว็บ E Commerce ชื่อดังอย่าง Konvy และ Lazada ก็มี

หน้าร้านออนไลน์ใน Konvy

สำหรับช่องทางออฟไลน์ก็ยังขายผ่านร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล พระรามเก้า ซีคอนสแควร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว แฟชั่นไอส์แลนด์ และขาย Modern Trade ชื่อร้าน Beautrium มี 3 สาขา คือ สยามสแควร์ ตึกจีแลนด์ พระราม 9 และซีคอนบางแค

ส่วนต่างประเทศที่ส่งไปขาย ก็มี ไต้หวัน อังกฤษ ออสเตรเลีย ดูไบ ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ค่ะ

CEOblog: ผลิตภัณฑ์ที่เป็น ตัวเอก ของแบรนด์ Aphrodite มีอะไรบ้าง? 

รูปภาพจาก Konvy.com

Aphrodite: นางเอกที่ครองใจลูกค้าและตัวแทนมาตลอด 3 ปี ก็คงจะเป็น อาหารเสริม สเต็มเซลล์แบบชงดื่ม SC+SOP 15000 mg. เพราะเป็นสินค้ากลุ่ม Anti Aging ที่เนมคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง โดยทำงานร่วมกับ R&D ของโรงงาน คิดค้นและพัฒนามาตีตลาดคู่แข่งคือคอลลาเจน ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคนั้น

และสินค้าอีกกลุ่มที่ขายดีมากๆ ก็คือ เครื่องสำอางออร์แกนิค เพราะเราไม่ใช้สารเคมีเป็นส่วนประกอบในการผลิตเลย สารสกัดทุกตัวนำเข้าจากยุโรป ซึ่งได้รับ Certificated USDA Organic ด้วย มีความปลอดภัย 100% เพราะแม้แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไปก็ใช้ได้ ดังนั้น คนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย จึงประทับใจและรักเครื่องสำอางออร์แกนิคของ Aphrodite มากๆ

CEOblog: อะไรคือ ผลสำเร็จ ของแบรนด์ Aphrodite ในแง่ของตัวผลิตภัณฑ์?

Aphrodite: ความสำเร็จของ Aphrodite ในแง่ของตัวผลิตภัณฑ์ ก็คือ นวัตกรรมของสินค้า เราเน้นมากว่าสินค้าของเราจะต้องใหม่ และไม่เหมือนใครในตลาด อีกทั้งคุณภาพและความปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่เนมซีเรียสมากๆ อย่างที่เล่าไปตอนต้น ว่าเราเองก็เคยผิดหวัง เสียความรู้สึก เสียเวลา เสียเงินเปล่า ไปกับสินค้าที่มีผลลัพธ์ไม่ตอบโจทย์

เนมเอาตัวเองไปนั่งในใจผู้บริโภค เรารู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรเมื่อจ่ายเงินแล้ว คุณภาพของสินค้าต้องดี ให้ผลลัพธ์ตามที่แบรนด์โฆษณาและลูกค้าคาดหวังได้ และที่สำคัญจะต้องปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย สารก่อมะเร็งต่างๆ ที่หาได้ค่อนข้างยากในสินค้าที่มีขายอยู่ในตลาดทุกวันนี้

CEOblog: อะไรคือ ผลสำเร็จ ของแบรนด์ Aphrodite ในแง่การทำงานของตน ทีมงาน และตัวแทน?

Aphrodite: น่าจะเป็นเรื่องความซื่อสัตย์และจริงใจในการทำธุรกิจของเนมนะคะ เวลาที่คนพูดถึงเนม เค้ามักจะบอกแบบนี้ ว่าเค้าสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ความตั้งใจจริงที่จะผลิตสินค้าเน้นคุณภาพและความปลอดภัยออกสู่ตลาดเท่านั้น

ดังนั้น นางฟ้าอโฟรไดท์ทุกคน ที่เลือกมาเป็นตัวแทนจำหน่ายของเรา เค้ามาเพราะรักในสินค้าและจรรยาบรรณในการทำธุรกิจของเนม คือทั้งเนม ทีมงานอโฟรไดท์ และเหล่านางฟ้าเรามีคุณธรรมและจรรยาบรรณร่วมกัน ที่จะส่งมอบสินค้าที่คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ

สินค้าของเนมราคาอยู่ในระดับกลางขึ้นบน ไม่ใช่สินค้าที่มีราคาเข้าถึงได้ทุกคน ต่างกับสินค้าแบบ Mass Product ดังนั้น ทีมงานของเนม และนางฟ้าอโฟรไดท์ทุกคน จึงต้องเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน เข้าใจในธุรกิจและตัวสินค้า เพราะบางทีมันก็ไม่ง่าย พวกเราต้องพยายามอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ ว่าเหตุผลที่สินค้าเรามีราคาสูงกว่าหลายๆแบรนด์ มันมีอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยสำคัญ

CEOblog: แนะนำบริการด้านธุรกิจของ Aphrodite ในปัจจุบัน และแนวทางในอนาคตของแบรนด์?

Aphrodite: ปัจจุบันภายใต้แบรนด์ Aphrodite เรามีสินค้าทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ อาหารเสริม เครื่องสำอางออร์แกนิค และ สกินแคร์ออแกร์นิค รวมประเภทสินค้า 17 ชนิด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแบรนด์เดียวที่มีสินค้าครบวงจร

นอกจากนี้เนมก็ยังมีแล็บที่รับผลิต รับสร้างแบรนด์สินค้าออร์แกนิคต่างๆ และอาหารเสริมให้กับลูกศิษย์หรือผู้ที่สนใจ รวมไปถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการวางแผนกลยุทธ์ให้กับธุรกิจสินค้าความงาม เป็นทั้งที่ปรึกษาให้กับคนที่มีแบรนด์แล้ว แต่ติดปัญหาในด้านต่าง ๆ และสำหรับคนที่สนใจอยากเป็นเจ้าของแบรนด์ แต่ไม่มีไอเดียในการสร้างสินค้าหรือธุรกิจ เนมก็เป็นที่ปรึกษาให้ในทุกขั้นตอน ดูแลทุกเรื่องตั้งแต่เป็นภาพไอเดีย จนออกมาเป็นสินค้าจริง

สำหรับแนวทางในอนาคตของ Aphrodite และเนม ก็คงไม่พ้นที่จะเดินหน้าผลิตสินค้าออร์แกนิคที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพราะเรื่องนี้เนมให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเสียคุณแม่ไปด้วยโรคมะเร็ง ทำให้เนมตระหนักถึงภัยใกล้ตัวที่หลายๆคนมองข้าม จากการใช้สินค้าที่มีสารเคมีอันตราย เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ ที่มีทั้งสารตะกั่ว สารปรอท ที่เข้าไปสะสมเป็นสารก่อมะเร็งในร่างกายโดยไม่รู้ตัว และก็ตั้งใจจะเดินหน้าเป็นวิทยากรให้ความรู้ในเรื่องสินค้าออร์แกนิค และการทำธุรกิจให้สำเร็จแบบยั่งยืนแก่คนรุ่นใหม่ด้วยค่ะ

สรุป

และนี่คือเรื่องราวของนางฟ้า Aphrodite คุณเนม วรรณศิลป์ ทิพยรัตน์ สำหรับผู้สนใจร่วมเป็นตัวแทนขายสินค้าสามารถดูรายละเอียดที่นี่ครับ สมัครตัวแทน Aphrodite