อย่าบอกว่าไม่มีเวลา! โซอี้สาวเก่งแอบทำวันละ 1 ชั่วโมงปั้นแบรนด์ผ้าพันคอเงินล้านออนไลน์ ส่งห้าง และส่งออก

 

ภญ. โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ หรือ คุณโซอี้ เจ้าของผลงานหนังสือชื่อ (แอบทำ) 1 ชั่วโมงต่อวัน ฝันเปลี่ยน สูตรสำเร็จเคล็ดสร้างล้าน แบ่งปันประสบการณสร้างธุรกิจติดวงเล็บว่า แอบทำ! ว่าเป็นมาอย่างไรทำไมต้อง แอบ?

1. คุณโซอี้แอบทำธุรกิจ ซึ่งคนจะทำธุรกิจออกจะน่าภูมิใจแต่ทำไมกรณีต้องแอบ? คุณโซอี้ช่วยเล่าให้ฟังแบบจัดเต็มให้หน่อยครับ

การผจญภัยเล็กๆของโซอี้ เริ่มหลังจากการแต่งงานค่ะ
เราเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เมื่อแต่งงานก็ต้องย้ายมาอยู่บ้านฝ่ายชาย
บ้านสามีโซอี้ทำธุรกิจเป็นระบบกงสีขนาดใหญ่ค่ะ
ป๊าม๊าบอกโซอี้เสมอว่า เราแต่งงานไป ห้ามอยู่บ้านเค้าเฉยๆ
ต้องรู้จักทำมาหากิน อืม…

โชคดีที่ฝั่งบ้านสามี ให้ทุกคนทำงาน
ตอนนั้นโซอี้สนุกกับการได้เรียนรู้งานใหม่ๆในกงสี
หลังจากได้เรียนรู้ เราก็อยากจะสร้างผลงานบ้าง
เพราะโซอี้เคยรู้สึก ”ตัวใหญ่” มาก่อน
โซอี้เป็นพวกบ้าพลัง ชอบสร้างผลงานค่ะ

ตอนเป็นผู้แทนยา ก็เป็น Top sale
ตอนช่วยที่บ้าน สร้างตึกก็เห็นตึก
ซื้อที่ขายที่ ซื้อตึกขายตึกก็เห็นเงินก้อน
มันเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆของโซอี้ค่ะ

แต่การสร้างผลงาน ทางบ้านสามีของโซอี้ มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิคะ
ระบบกงสีที่บ้านสามี เค้าวางไว้ดีมาก
แถมมีที่ปรึกษาที่ทรงคุณวุฒิ หลายท่าน
โซอี้รู้สึกเลยว่าเรา”ตัวเล็ก”ทันที

หลังจากนั้นโซอี้เริ่มคิดว่า ถ้าอย่างนี้เราจะไม่ได้ใช้ศักยภาพของเราที่มีอยู่
เพราะนานวันไปโซอี้ก็เริ่มรู้สึกเฉา
โซอี้เลยคิดขึ้นมาว่า .. เราต้องสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมาให้ได้ ฮึ๊บๆ
แค่คิดก็สนุกแล้วค่ะ

แต่ตอนทำสิคะ …
โซอี้มีงานหลักที่จะต้องทำ
หลายคนคงทราบดี ถ้าเรามีงานเสริมด้วย
อาจโดนเพ่งเล็งใช่มั้ยคะ ??

เหมือนกับถ้าคุณขายประกันเป็นงานเสริม
แต่บอกหัวหน้าว่า ใช้เวลานอกเหนือจากเวลางาน
คุณคิดว่า หัวหน้าจะเชื่อคุณมั้ย ??

อีกอย่างป๊าสามีเค้าเคยพูดว่า
อย่าเสียเวลาไปทำอะไรที่มันเล็กๆ
เพราะจะได้ไม่คุ้มค่าเหนื่อย
เอาเวลามาช่วยกันทำธุรกิจในกงสีดีกว่า

และก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการที่โซอี้ต้อง “แอบทำ”

2. คุณโซอี้ ทำงานให้ทั้งทางฝั่งสามี และทางบ้านตัวเอง แล้วยังมีลูก 1 คนและกำลังท้องอีก 1 คน แถมเรียนปริญญาโทไปด้วย เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในการสร้างธุรกิจใหม่ อยากให้แชร์วิธีการบริหารเวลาตรงจุดนี้ครับ

โซอี้แอบสร้างธุรกิจของตัวเองโดยไม่ให้คนอื่นรู้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต งานประจำทั้งทางบ้านฝั่งสามีและทางบ้านตัวเองต้องไม่มีปัญหา การเรียนต้องไม่กระทบ เลี้ยงลูกก็ต้องให้เวลาเต็มที่ โซอี้บริหารจัดการเวลาโดยแบ่งงานออกเป็น 4 กลุ่ม

1. สำคัญและเร่งด่วน
2. สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน
3. ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน
4. ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน

สำคัญและเร่งด่วน:
เป็นสิ่งที่จำเป็น และต้องทำทันที เช่นการแก้ไขปัญหางานต่างๆ พาลูกไปหาหมอ ต้องเติมน้ำมันเพราะหมดถังแล้ว ต้องจ่ายบิลค่าโทรศัพท์เพราะวันสุดท้าย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญ และต้องทำทันทีไม่สามารถเลี่ยงได้ โซอี้พยายามบริหารจัดการงานต่างๆให้เกิดสิ่งนี้น้อยที่สุด เพราะถ้ามีมากจะทำให้ชีวิตวุ่นวาย กดดัน และยุ่งตลอดเวลา

สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน:
เป็นสิ่งสำคัญและสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ งานทุกอย่างที่โซอี้ต้องทำ โซอี้จะจัดตารางงานไว้ ทำเป็นข้อๆ และค่อยๆทำให้เสร็จ โซอี้ให้ความสำคัญกับงานกลุ่มนี้มาก ไม่ว่านัดประชุมกรรมการ ประชุมการขาย วางแผนการผลิต นัดคุยกับลูกค้า สอนการบ้านลูก พาลูกๆไปเที่ยว ตรวจความเรียบร้อยของอาคาร ออกกำลังกาย พวกนี้อยู่ในตารางนัดโซอี้ทั้งหมด และแน่นอน โซอี้เหลือเวลาเพียงพอที่จะนัดคุยกับโรงงานผู้ผลิต ประสานงานเพื่อนำเข้าผ้า นัดคุยกับคนออกแบบลายผ้า เพื่อสานฝันของโซอี้

ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน:
เป็นสิ่งที่จะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ซึ่งต้องเผชิญและต้องตัดสินใจในขณะนั้นทันที เช่น มีคนโทรศัพท์มาชวนทำบัตรเครดิต เพื่อนชวนทานข้าวด้วยตอนนี้ เพื่อนโทรถามทาง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งมาขัดจังหวะการใช้เวลาและขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในขณะนั้น ซึ่งส่งผลทำให้การใช้เวลามีประสิทธิภาพลดลง

ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน:
เป็นสิ่งที่ทำไปตามอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เช่น อ่านดราม่าในเฟสบุ๊ก เล่นเกมส์คุ้กกี้รัน นอนเพลิน ติดละคร โซอี้พยายามทำให้น้อยที่สุดเพราะรู้ว่าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร

โซอี้แบ่งงานและให้ความสำคัญกับงานเรียงลำดับโดยเรียงจาก สำคัญและไม่เร่งด่วนเป็นอันดับแรก เพื่อที่จะไปลด สิ่งที่สำคัญและเร่งด่วน (เพราะทุกอย่างถ้าเราวางแผนไว้ดี ปัญหาเร่งด่วนจะไม่ตามมา) งานไม่สำคัญแต่เร่งด่วน เป็นสิ่งที่อยู่นอกแผน แต่ต้องเผชิญ และ สุดท้ายไม่สำคัญและไม่เร่งด่วนพยายามตัดออกไป ลองเอาไปใช้นะคะ รับรองว่าเวลาเหลืออื้อเลย

3. อยากให้แชร์ความแตกต่างระหว่างการช่วยงานกงสี (งานประจำ) และวันที่เราเริ่มสร้างธุรกิจของตัวเอง

ธุรกิจกงสี (งานประจำ): เป็นทำงานร่วมกันหลายฝ่าย เพราะฉะนั้น การตัดสินใจจะตัดสินใจร่วมกัน
ข้อดี คือมีโอกาสได้ฟังหลายๆความคิดเห็น ทำให้ได้มุมมองหลายมุมมอง แต่ความคล่องตัวในการปฏิบัติงานจะน้อยกว่า

ธุรกิจส่วนตัว: เนื่องจากเป็นธุรกิจของเราคนเดียว ทำให้ต้องตัดสินใจเอง และต้องเด็ดขาด การตัดสินใจคนเดียวอาจผิดพลาดได้บ้าง แต่เราจะมีอิสระทางความคิด และทำงานได้รวดเร็วกว่า มีความคล่องตัวมากกว่า

4. หลายคนอยากประสบความสำเร็จ แต่มักมีข้ออ้างว่า ไม่มีเวลา และ ทำไม่เป็น อยากให้คุณโซอี้แชร์ความความเห็นเกี่ยวกับสองประโยคนี้ครับ

ประเด็นแรก เรื่อง ”ไม่มีเวลา
อันดับแรกคือ ต้องทบทวนตัวเองว่า ใน1วันเราใช้เวลาทำอะไรบ้าง ?

เช่น เช้าถึงเย็นทำงาน เย็นทานข้าวให้เวลากับครอบครัว บางคนก็บอกว่าหมดวันแล้ว ตอนกลางคืนขอพักบ้าง
จริงๆแล้วก็ไม่ผิดนะคะ เราจะพักก็ได้ เราก็จะได้ชีวิตที่เหมือนเดิม หรือเหมือนกับคนทั่วไป
แต่ถ้าเราอยากจะมีชีวิตที่เปลี่ยนไป เราก็ต้องเปลี่ยนแปลง

ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆค่ะ โซอี้ก็ต้องแลกเวลาในตอนกลางคืนของตัวเองที่จะได้พักผ่อน
วันละเล็กละน้อย แต่ทำอย่างมีวินัย และสม่ำเสมอ เพื่อต่อเติมความฝันของเราให้ถึงเป้าหมาย

ประเด็นที่2 เรื่อง “ทำไม่เป็น
ถ้าหมายถึง ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องศึกษาเพิ่ม หรือค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่ม
เพราะคงไม่มีใครรู้ทุกอย่างมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ในวันที่โซอี้คิดจะทำธุรกิจผ้าพันคอ โซอี้ก็ไม่เคยมีความรู้เช่นกันค่ะ

ตอนนั้นก็โทรหาเพื่อนที่เค้าน่าจะรู้เรื่องนี้ และเริ่มหาข้อมูลต่างๆ เก็บเกี่ยวความรู้ทีละเล็ก ทีละน้อย
แน่นอนค่ะ ตอนแรกที่ทำออกมามันไม่เพอร์เฟคหรอก แต่เราก็ค่อยๆแก้ไขปัญหาทีละจุด ทีละจุด
และการที่ได้แก้ไขปัญหานี่แหละค่ะ ที่ทำให้เรามีความรู้ และทำเป็นมากขึ้น

บางคน รอที่จะต้องรู้ทุกอย่างให้ครบก่อนแล้วค่อยเริ่ม โซอี้ว่ามันเป็นไปได้ยากมากๆค่ะ
เพราะความรู้นี่มันไม่มีวันสิ้นสุด พ่อโซอี้สอนมาตลอด ต้องลงมือทำก่อน จะได้รู้ว่าติดอะไรแล้วก็ค่อยๆแก้ไป
ไม่ใช่รอให้รู้หมด แล้วค่อยลงมือทำ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ทำสักที คุณว่ามั้ยคะ ?

18211_458951334256169_3053158418973170911_n5. ประโยชน์ที่ผู้อ่านจะได้รับจากหนังสือ (แอบทำ) 1 ชั่วโมงต่อวัน ฝันเปลี่ยน สูตรสำเร็จเคล็ดสร้างล้าน? และสามารถหาซื้อได้ที่ไหน?

หนังสือเล่มนี้ เหมาะกับใครก็ตามที่อยากจะทำธุรกิจเป็นของตัวเอง (ไม่จำเป็นต้องเป็นธุรกิจผ้าพันคอ) ไม่ว่าปัจจุบันจะทำงานประจำอยู่ หรือทำงานส่วนตัวอยู่แล้วก็ตามค่ะ

เพราะในเล่มนี้ บอกตั้งแต่วิธีค้นหาธุรกิจที่เหมาะกับตัวเอง การจัดเวลาแบบแอบทำ เทคนิคการแอบทำ ถ้าคุณอยากที่จะทำธุรกิจ แบบคนน้อย เวลาน้อย และทุนน้อย จะต้องทำอย่างไร

วิธีการขายของออนไลน์ การนำสินค้าเข้าห้าง รวมถึงการส่งออก ซึ่งถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงๆของโซอี้ ที่ทำแล้วได้ผลและนำมาบอกต่อ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเรื่องเล่าวิธีการคิด และวิธีการทำของโซอี้ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสือ เรื่องเล่า+how to ที่นำไปปฏิบัติได้จริง