Amazon เปิดตัว Amazon Chime ชนบอสใหญ่ของตลาด Google Hangouts และ Skype

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 Amazon Web Services (AWS) หนึ่งในผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ประกาศเปิดตัว Amazon Chime เป็นบริการใหม่ที่องค์กรสามารถใช้สำหรับสื่อสารและทำงานร่วมกันในระยะไกลในรูปแบบ เสียงและวิดีโอ รวมไปถึงการโทรศัพท์และการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที

บริการดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความท้าทายอย่างน่าจับตาในตลาดผู้ให้บริการที่คล้ายกัน อาทิ Cisco WebEx และ LogMeIn ของ GoToMeeting แต่คู่แข่งที่น่าจะชนกันโดยตรงมากกว่าคือ Skype for Business โดย Microsoft ซึ่งมีระบบคลาวด์ของตนเองเช่นกันชื่อว่า Microsoft Azure: Cloud Computing Platform & Services ในขณะที่ทางฝั่ง Amazon Chime ก็ใช้ระบบ Amazon Web Services ของตนเอง

นอกจากนั้น Google Hangouts และผู้ให้บริการรายย่อยอื่น ๆ Blue Jeans, Dialpad, Slack, และ Zoom ก็น่าจะได้รับผลกระทบเช่นกัน

Amazon กล่าวว่าบริการนี้เปิดรองรับทั้ง Windows, Mac, Android, และ iOS นอกจากนั้น การเข้าร่วมการสื่อสารไม่จำเป็นต้องพิมพ์หมายเลข PIN เหมือนกับบางระบบ

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า Amazon กำลังเคลื่อนย้ายเข้าสู่ธุรกิจ Software as a Service (Saas) มากขึ้นจากเดิมที่เป็น Infrastructure as a Service (IaaS) หลังจากเริ่มออกผลิตภัณฑ์ด้าน SaaS อย่าง QuickSight ซอฟต์แวร์บริการด้านประมวลผลข้อมูลทางธุรกิจ ตามมาด้วย WorkMail ซอฟต์แวร์บริการด้านอีเมล์และปฏิทินออนไลน์ รวมไปถึงกรณีศึกษาของการกลายมาเป็นคู่แข่งของลูกค้าตัวเอง อย่าง Zoom ธุรกิจ Software ที่ใช้บริการ Infrastructure ของ Amazon Web Service แต่ตอนนี้ Amazon กลับออกผลิตภัณฑ์ Software ออกมาชนกับ Zoom!

Amazon Chime เปิดให้บริการตั้งแต่เวอร์ชั่นทดลองใช้ฟรี ต่อด้วยเวอร์ชั่น Plus Edition ที่มีฟังชั่นบริการมากขึ้นและให้พื้นที่จัดการข้อความ 1 GB ในราคา 2.50 เหรียญสหรัญฯ ต่อผู้ใช้ ต่อ 1 User งาน และเวอร์ชั่น Pro Edition ในราคา 15 เหรียญสหรัญฯ ต่อผู้ใช้ ต่อ 1 User โดยจะสามารถทำการ Screen Sharing และ Video Conference สูงถึง 100 คนพร้อมกัน และมี VoIP หรือ Voice Over Internet Protocol ไม่จำกัด — สำหรับทุกเวอร์ชั่นมาพร้อมกับ Outlook Plug-in