Mintel (มินเทล) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยผลิตภัณฑ์ ตลาดผู้บริโภคและสื่อ มากกว่า 40 ปี คาดการณ์เทรนด์ผู้บริโภคจีนในปี 2018 ไว้ดังนี้
Machine learning และ Ai ผู้บริโภคจะเริ่มทำความรู้จักและคุ้นกับระบบแมชชีนเลิร์นนิ่งและ Ai ที่เครื่องจักรและโปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้พฤติกรรมของมนุษย์ เพื่อตอบสนองการใช้งาน ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยทั้งปัญญาประดิษฐ์ หรือ Ai จะมีการเรียนรู้และจดจำด้วยระบบแมชชีนเลิร์นนิ่ง ที่จะสามารถพัฒนาความรู้ของตนเองต่อไปได้
ความตึงเครียดทางสังคม ผู้บริโภควัยหนุ่มสาว หรือคนรุ่นใหม่ จะแสวงหาวิธีรับมือจากความเครียด จากความกดดันในสังคมที่พวกเขาได้รับในชีวิตประจำวัน โดยต้องมีการโต้ตอบที่สนุกสนานและแปลกใหม่
ย้อนกลับสู่วัฒนธรรมดั้งเดิม ปัจจัยเรื่องชาตินิยมยังเป็นปัจจัยสำคัญ แบรนด์ใดที่ยึดหลักปรัชญาแบบดั้งเดิมของจีน หรือชูจุดเด่นด้านวัฒนธรรมและประเพณีเก่าแก่ เช่นการออกกำลังกายหรือความงดงามทางศิลปะ โดยสื่อสารมาในตัวผลิตภัณฑ์ หรือข้อความทางการตลาดได้ จะประสบความสำเร็จ
ความต้องการมีส่วนร่วม ผู้บริโภคจะต้องการแสดงตัวตน และอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น แบรนด์ควรจะมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเหลือให้ผู้บริโภคสามารถแสดงตัวตนและปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น หรือกระตุ้นให้เกิดการแสดงออกให้มากยิ่งขึ้น
โมบายเป็นหลัก ผู้บริโภคจะปฏิเสธแบรนด์ที่ไม่เสนอทางเลือกการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ เพราะตอนนี้ผู้บริโภคนิยมทำทุกสิ่งทุกอย่างผ่านสมาร์ทโฟน หากแบรนด์ไหนยังไม่รองรับกิจกรรมบนมือถือก็ประสบความสำเร็จได้ยาก
แนวโน้มที่ 1 – ชาวจีนส่วนใหญ่ชื่นชอบระบบ Ai
Delon Wang ผู้จัดการด้านแนวโน้มในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Mintel กล่าวว่า ผุู้บริโภคชาวจีนกำลังให้ความสนใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรและระบบ Ai ต่าง ๆ ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านบวก จากการวิจัยของ Mintel พบว่า ชาวจีนร้อยละ 46 (อายุระหว่าง 20-49 ปี) จะสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลของตนเอง เช่นนิสัยในการใช้ชีวิตประจำวัน การเดินทางต่าง ๆ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า พวกเขาชื่นชมในพลังของเทคโนโลยีในการติดตาม วิเคราะห์ และรายงานผล
“เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับบุคลิกภาพและความชอบเฉพาะบุคคลเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานของตนเองขึ้นมาได้”
“ผู้บริโภคมักจะเลือกที่จะเรียนรู้เทคโนโลยี ถ้ามันจะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เพราะความต้องการในการใช้ชีวิตที่ราบรื่นเป็นความต้องการที่เป็นสากล เราจะเห็นได้ว่าพวกเขาสามารถเรียนรู้การทำงานและวิธีใช้เครื่องจักรหรือโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งสนับสนุนให้พวกเขาสามารถออกแบบระบบที่เป็นส่วนตัวเฉพาะของพวกขาได้มากยิ่งขึ้นผ่านระบบ Ai ที่เรียนรู้ในหลายเดือนอย่างต่อเนื่องจนเป็นปีได้”
แนวโน้มที่ 2 – เล่นกับแรงกดดัน
Matthew Crabbe ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยประจำเอเชียแปซิฟิคของ Mintel กล่าวว่า จากสภาวะการกดดันทางสังคมที่เพิ่มขึ้นสูงเรื่อย ๆ กำลังขับเคลื่อนให้คนวัยหนุ่มสาวต้องการ การตอบโต้ที่ไม่เป็นทางการและมีชีวิตชีวามากขึ้นทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน
“ไม่เฉพาะในโลกดิจิตอลเท่านั้น พวกเขายังต้องการการตอบสนองบนโลกจริงที่ไม่เป็นทางการ มีความสนุกสนาน ผ่อนคลายและเป็นกันเอง เพื่อความผ่อนคลายของพวกเขา เนื่องจากสภาพสังคมในปัจจุบันมีความกดดันมากขึ้น”
และหากไม่มีการตอบสนองที่ต้องการจากโลกจริง คนเหล่านี้ก็จะหลบหนีไปยังโลกเสมือน จากการวิจัยของ Mintel พบว่า ร้อยละ 63 ของคนหนุ่มสาวอายุระหว่าง 20-24 ปี นิยมเล่นเกมออนไลน์เพื่อลดความเครียด
ซึ่งในจุดนี้จะเป็นโอกาสให้กับนักการตลาดอีกมากมาย หากเราเข้าใจคนกลุ่มนี้อย่างแท้จริง
แนวโน้มที่ 3 – ชีวิตที่สมดุล
Matthew Crabbe กล่าวต่อว่า ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น พอ ๆ กับใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปด้วย และมีความต้องการมีสุขภาพที่ดีขึ้นจากแบรนด์ที่ตนเองใช้
โดยในปีหน้านี้ผู้บริโภคจะจัดลำดับความสำคัญของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี ที่จะสามารถส่งมอบประโยชน์ที่มากกว่าประโยชน์ส่วนตัวของพวกเขาเอง ซึ่งนอกจากต้องทำให้สุขภาพดีขึ้นแล้วยังต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย และยังต้องเป็นแบรนด์ที่มีจริยธรรมอีกด้วย ซึ่งแบรนด์ต้องพยายามสื่อสารออกมาให้เป็นรูปธรรมให้ได้
แนวโน้มที่ 4 – ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง
Joyce Lam นักวิเคราะห์แนวโน้มเอเชียแปซิฟิกของ Mintel กล่าวว่า “ผู้บริโภคจะมีความเป็นปัจเจกบุคคลมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับแบรนด์ที่จะตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลให้ได้”
“ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น พวกเขาเลือกการทำงานที่ยืดหยุ่นและเดินทางไปในสถานที่ที่แปลกใหม่ โดยร้อยละ 41 ของวัยรุ่นกล่าวว่าพวกเขาต้องการเดินทางไปในที่ที่แปลกใหม่ตลอดเวลา ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเร่งกระบวนการนี้ให้เร็วขึ้น พวกเขาสามารถขยายขอบเขตได้มากขึ้นในการสำรวจหรือแสดงตัวตนของตนเอง”
ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้เขามีอำนาจในการเลือกมากขึ้นเช่นกัน พวกเขาจะเลือกแบรนด์ที่สามารถทำให้เขาแสดงตัวตนของเขาจริง ๆ ออกมา มากกว่าแบรนด์ที่แสดงความเป็นตัวตนของคนจากทั่วโลก(ซึ่งเหมือน ๆ กันไปหมด)
แนวโน้มที่ 5 – ทุกสิ่งที่ต้องการอยู่บนมือถือ
Delon Wang กล่าวว่า ด้วยความรวดเร็วของโมบายอินเทอร์เน็ต และความสะดวกสบายในการใช้งาน ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนผูกทุกอย่างในชีวิตประจำวันเข้าไว้กับโทรศัพท์มือถือ จากการวิจัยของ Mintel ระบุว่า ร้อยละ 87 ของผู้บริโภคชาวจีนใช้วิธีการชำระเงินผ่านมือถือ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 69 ในปี 2016 ที่ผ่านมา
“ผู้บริโภคชาวจีนได้เรียนรู้และมีประสบการณ์การใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือจนชำนาญแล้ว ในปีต่อไปแบรนด์ต้องตอบสนองและให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแบรนด์จากโทรศัพท์มือถือได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่ระบบ AR และ VR ด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผุ้บริโภคได้อย่างมาก”
กล่าวโดยสรุปคือ
แบรนด์ควรศึกษาแนวโน้มทั้ง 5 ข้อ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เข้าใจเทคโนโลยี และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงมีความต้องการที่เป็นปัจเจกมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังต้องการรักษาวัฒนธรรมและจริยธรรมไว้อย่างเหนียวแน่นด้วย ซึ่งทุกอย่างต้องรองรับโมบาย ใช้งานง่ายบนมือถือ และสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่น่าเบื่ออยู่เสมอ ๆ
และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้
หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใคร
Resource: