Business Man

4 เทคนิคที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ และเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตอย่างยั่งยืน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเอง ต่อไปนี้คือบทความที่คุณจะต้องตั้งใจอ่านอย่างยิ่ง จากสถิติในปี 1995-2015 ตลอดระยะเวลา 20 ปี เราพบว่า มีธุรกิจมากกว่า 50% ล้มเหลวภายในเวลาไม่ถึง 5 ปี โดยกว่า 90% ในจำนวนนั้นล้มเหลวตั้งแต่ปีแรก และสถิติจะยิ่งย่ำแย่ในกลุ่มของเทคสตาร์ทอัพ ที่จะล้มเหลวในช่วงก่อตั้ง 3 ใน 4 บริษัท ภายในไม่เกิน 3 ปี

มีหลายปัจจัยที่นำพาให้ธุรกิจเหล่านั้นก้าวเดินไปสู่ความล้มเหลว เช่น ปัญหาการขาดแคลนกระแสเงินสด หรือการประเมินความต้องการตลาดผิดพลาด ไปเล่นในตลาดที่มีความต้องการต่ำเกินไป จนทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอ, หรือสินค้าคุณภาพไม่ดี หรือกลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจนพอ ไม่สามารถขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจได้

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ เป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ หากรับรู้ได้เร็วก็จะสามารถยับยั้งความผิดพลาดได้ และนี่คือ 4 วิธี ที่จะทำให้คุณทราบสัญญาณบอกเหตุ ก่อนที่จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณ

หมั่นเข้าหาและพูดคุยกับลูกค้าของคุณอย่างสม่ำเสมอ

นี่เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เจ้าของกิจการรอดพ้นจากวิกฤติมาได้ ไม่ว่าคุณจะทำการตลาดได้เก่งแค่ไหนก็ตาม แต่หากคุณปล่อยปละละเลย ไม่ติดตามลูกค้า ไม่สอบถามความคิดเห็น หรือความรู้สึกหลังจากได้รับสินค้าหรือบริการไปแล้ว คุณจะไม่มีวันทราบปัญหาเลยว่า ลูกค้าพอใจหรือไม่ สินค้ามีปัญหาหรือไม่

สิ่งที่คุณต้องทำคือการส่งมอบสินค้าหรือบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่ามันดีที่สุดแล้ว หากคุณไม่เอ่ยปากถามลูกค้าของคุณ

อย่ากลัวที่จะถามคำถามต่อไปนี้กับลูกค้าของคุณ

  • คุณชอบในสินค้าหรือบริการของเราหรือไม่ ?
  • อะไรที่คุณต้องการให้เราทำเพิ่มเติม ?
  • คุณจะแนะนำสินค้าหรือบริการของเรา ให้กับเพื่อนของคุณหรือไม่ ? เพราะเหตุใด ?

คำถามนี้ฝรั่งชอบใช้มาก แต่คนไทยอาจจะไม่กล้าที่จะใช้ เพราะอาจจะดูเหมือนคำถามที่จู่โจมเกินไป แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าสินค้าหรือบริการของคุณไม่ได้แย่มาก เขาก็จะตอบว่าแนะนำ แต่ถ้าสินค้าหรือบริการของคุณมีปัญหา คุณก็จะได้รับฟังปัญหาจากก้นบึ้งจิตใจของลูกค้าของคุณแน่นอน ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะถาม

เรียนรู้จากข้อเสนอแนะของลูกค้า และนำกลับไปพัฒนาสินค้าและบริการ ให้ดียิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องตอบสนองทุกอย่างที่ลูกค้าร้องขอ หากพิจารณาแล้ว ว่าไม่มีผลกับแบรนด์ของคุณในระยะยาว แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ลูกค้าไม่พอใจ คุณควรรีบตอบสนองให้เร็วที่สุด

คิดว่ามันเป็นไปได้

ในโลกนี้มีคนอยู่ 2 ประเภท คือ มองเห็นแต่ปัญหา และอุปสรรค และคิดแต่เพียงว่า “มันเป็นไปไม่ได้ “ กับประเภทที่สองคือ มองว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม และที่คุณต้องทำเพื่อธุรกิจของคุณก็คือ พัฒนาสัญชาตญาณของคุณให้เป็นไปได้ เมื่อต้องเจอกับปัญหาที่ไม่คาดคิด โดยการถามตัวเองว่า

  • มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ตอนนี้ และมีอะไรที่เป็นไปได้บ้าง?
  • มีโอกาสอะไรบ้างที่ถูกสร้างขึ้นมา?
  • เราทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์นี้?
  • เราจะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้อย่างไร?

วิธีนี้ต่างจากการคิดบวกอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่เพียงคิดบวกว่าทุกอย่างเป็นไปได้แล้วมันจะเป็นแบบนั้น แต่ต้องมองเข้าไปในปัญหา และคิดว่าจะต้องแก้ไขปัญหานี้อย่างไร และเชื่อมั่นว่าจะต้องสามารถแก้ไขได้ ที่สำคัญคือต้องตระหนักว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ วิกฤติที่กำลังจะตามมาก็เป็นไปได้ ดังนั้นการหาวิธีแก้ปัญหา ก็ย่อมเป็นไปได้เช่นกัน

ทำให้ธุรกิจของคุณ (หรือเว็บไซต์ของคุณ) เป็นจุดหมายปลายทาง

หากธุรกิจของคุณมีหน้าร้านแบบ ออฟไลน์ คุณควรมีแผนที่ใน Google หรือ Facebook เพื่อที่ลูกค้าจะได้ค้นหาธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น หากธุรกิจของคุณเป็นออนไลน์  คุณควรเอาใจใส่เว็บไซต์ หรือแฟนเพจของคุณ โดยคุณควรจะมีข้อความที่ชัดเจน บอกเหตุผลสนับสนุนว่า ทำไมลูกค้าถึงต้องซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ

และหากคุณสามารถส่งมอบสินค้าหรือบริการที่ดีมีมาตรฐานให้กับลูกค้าได้ คุณจะสามารถขึ้นนำในกลุ่มธุรกิจของคุณได้ในที่สุด และเมื่อนั้นลูกค้าจะค้นหาจากชื่อแบรนด์ของคุณ ไม่ใช่ชื่อสินค้าหรือชื่อกลุ่มธุรกิจ หลังจากนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกค้าต้องการสินค้าประเภทนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่แบรนด์ของคุณเท่านั้น

ทำการทดสอบในวงจำกัด

ก่อนที่คุณจะทำการเปิดตัวสินค้าใหม่ คุณควรเข้าหาลูกค้าเก่าของคุณก่อน และส่งสินค้านั้นให้ลูกค้ากลุ่มนี้ทดลอง หลังจากนั้นรอรับฟังความคิดเห็น และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ต่อเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งการสุ่มทดสอบนี้ต้องทำทุกครั้งก่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ และอาจจะแยกกลุ่มทดสอบด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น

มีธุรกิจจำนวนมากล้มเหลวเพราะละเลยขั้นตอนนี้ จงอย่ากลัวที่จะรับฟังในสิ่งที่คุณต้องปรับปรุง การที่ได้ลูกค้าเก่ามาช่วยทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่ธุรกิจจะทำได้ พวกเขาจะเต็มใจช่วยคุณทดสอบและบอกข้อเสนอแนะอย่างตรงไปตรงมา เพราะพวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ไปแล้ว

คำตอบที่จะตอบโจทย์ของการทำธุรกิจของคุณนั้น มีอยู่ในตลาดเสมอ เพียงแต่คุณต้องกล้าที่จะเข้าหาและพูดคุยกับลูกค้าของคุณอย่างตรงไปตรงมา เอาใจใส่ลูกค้า หมั่นสอบถามและรับฟังปัญหา คิดจากฝั่งลูกค้าก่อนที่จะออกสินค้าใหม่เสมอ เมื่อเจอปัญหาให้มองที่ความเป็นไปได้ อย่างมองแต่อุปสรรค และพยายามขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจให้ได้ เพื่อวางตัวเองเป็นจุดหมายปลายทางของลูกค้า


และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้

หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใครceo premium content

Resource :