ความคิด 4 แบบ คนนิสัยรวย ไม่เสียเวลาคิดเด็ดขาด

แม้คนเราจะอาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกัน แต่ทำไมจึงมีคนที่ประสบความก้าวหน้าและร่ำรวย และคนที่ล้มเหลวและยากจน ควบคู่กันไปอยู่เสมอ เพราะในสังคมมนุษย์มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า The Rich Habit หรือ ชุดความคิดและอุปนิสัยที่เกื้อกูลต่อความร่ำรวย ที่ตรงกันข้ามอย่างสุดขั้วกับธรรมชาติของ ‘ชุดความคิดนิสัยจน’ และขอย้ำอีกครั้งว่าเรากำลังพูดถึง Habit หรือ นิสัย ไม่ใช่ ปัจเจกบุคคล



ข้อมูลนี้มาจากงานเขียน เรื่อง The Science of Getting Rich โดย คุณ Wallace Wattles ซึ่งชื่อนี้บางท่านอาจไม่คุ้นหู นั่นก็เพราะเขาเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1860 – 1911

อย่างไรก็ดี งานเขียนของเขาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ คุณ Rhonda Byrne ลุกขึ้นมาสร้างภาพยนต์ The Secret ที่โด่งดัง และเป็นที่ชื่นชอบของคนที่หลงใหลศาสตร์ กฏแห่งแรงดึงดูด นั่นเอง

Wallace Wattles เป็นผู้ที่ทุ่มเทชีวิตศึกษาศาสตร์ New thought เช่น พลังจิตใต้สำนึก และ กฏแห่งแรงดึงดูด ดังนั้น เขาจะให้ความสำคัญกับการทฤษฏีและหลักการทำงานของระบบ ความคิด และ จิตใจ มนุษย์มากเป็นพิเศษ

และหนึ่งในทฤษฏีที่โดดเด่นของเขาก็คือ ผลแห่งความสมปรารถนามีรอให้ทุกคนเข้าไปครอบครองอยู่แล้ว แต่เพราะ ชุดความคิด และ วิธีวางจิต ของแต่ละปัจเจกบุคคลไม่เหมือนกัน โลกนี้จึงมีทั้งคนที่ ได้ และไม่ได้ ในสิ่งที่ต้องการ

ต่อไปนี้ คือ ความคิด 4 แบบ คนนิสัยรวย ไม่เสียเวลาคิด

ข้อ 1 คนนิสัยรวยไม่เสียเวลาคิด ว่าตัวเองคือประชากรฝั่ง 90%

ประชากร 90% คืออะไรต้องมาทำความเข้าใจกันก่อน

คุณน่าจะเคยได้ยินคำว่า ‘คนรวย 1% ครอบครองความมั่งคั่งส่วนใหญ่ของโลก’ และเมื่อไปดูรายงานของ Credit Suisse Global Wealth Databook พบว่า :

  • กลุ่มคนที่มีสินทรัพย์ มากกว่า 1 ล้านดอลล่าร์ เป็นประชากรโลก 1%
  • กลุ่มคนที่มีสินทรัพย์ 1 แสน – 1 ล้านดอลล่าร์ เป็นประชากรโลก 11%
  • กลุ่มคนที่มีสินทรัพย์ น้อยกว่า 1 แสนดอลล่าร์ เป็นประชากรโลก 88%

สองกลุ่มแรก ก็คือ พวกที่มีฐานะดีไปจนถึงมหาเศรษฐี รวมกันแล้วเป็นประชากรโลกเพียง 12% แต่พวกเขาครอบครองความมั่งคั่งในโลกไปแล้วถึง 85% หรือ เท่ากับว่า ความร่ำรวยกว่า 85% ไหลไปอยู่กับคน 12% และที่เหลืออีก 15% ต้องไปตบตีแย่งชิงกันกับคน 88% หรือตัวเลขกลม ๆ ก็คือ 90% ตามที่คุณเคยได้ยินมานั่นเอง

จึงเป็นธรรมดาเมื่อคนทั่วไปเห็นตัวเลขแบบนี้แล้วเกิดความรู้สึกยอมจำนนด้วยเหตุแห่ง ‘สถิติ’

และบางคนก็จะพัฒนาชุดความคิดว่า ความร่ำรวยเป็นของคน 10% เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะรวย ดังนั้น ฉันไม่รวยก็เป็นเรื่องปกติ เพราะฉันเป็นคนฝั่ง 90%

ความคิดทำนองนี้ คุณ Wallace Wattles นำเสนอว่า คนนิสัยรวย จะไม่เสียเวลาคิดเลย แม้จะรับรู้ข้อมูลชุดเดียวกันก็ตาม เมื่อคนนิสัยรวยเห็นสถิติว่า ความมั่งคั่ง 85% ตกเป็นของคน 10% เขาจะเอาเวลาไปคิดว่า ทำอย่างไรเขาจึงจะเข้าไปเป็นคน 10% และทำอย่างไรเขาจึงจะได้ส่วนแบ่ง 85% นั้นมาครอบครอง

ข้อ 2 ไม่เสียเวลาคิดซ้ำเติมชีวิต แต่คิดขอบคุณสิ่งที่ยังมีอยู่

คนบางคนชอบคิดซ้ำเติมชีวิตตัวเอง เช่น ฉันไม่ได้เกิดมารวย, ฉันไม่ได้มีต้นทุนชีวิต หรือ ถ้าฉันต้องมีสิ่งนี้ก่อน ฉันถึงจะทำสิ่งนั้นได้ ที่ฉันยังทำไม่ได้ เพราะฉันไม่มีปัจจัยนี้ ๆ เป็นต้น แต่คนนิสัยรวย ไม่เสียเวลาคิดแบบนี้

คุณ Wallace Wattles นำเสนอว่า คนนิสัยรวยจะโฟกัสในสิ่งที่เข้าต้องการ ปัจจัยที่เขาต้องใช้ และหาวิธีทำให้ได้มาซึ่งเหตุปัจจัยอย่างไม่รีรอโอกาสอยู่เฉย ๆ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขา คือ นักขอบคุณที่ยอดเยี่ยม

พวกเขาจะขอบคุณสิ่งที่เขามีอยู่ ยกตัวอย่างจากเหตุการณ์จริง

มีหญิงสาวคนหนึ่ง มีทักษะด้านกราฟฟิกดีไซน์ติดตัว มีอุปกรณ์ในมือครบ ทั้งโน้ตแพด และปากกาอิเลคทรอนิก และที่สำคัญ เธอเคยหารายได้จากสิ่งที่เธอมีอยู่แล้ว

แต่เธอเทียวบ่นกับเพื่อน ๆ ว่าอุปกรณ์ที่เธอมีมันกระจอก มันสู้ของพวกมืออาชีพไม่ได้ และเธออยากจะหาแหล่งกู้เงินสัก 600 ดอลล่าร์เพื่อนำไปซื้อ ปากกาอิเลคทรอนิกด้ามใหม่ เพื่อน ๆ จึงตำหนิเธอว่า แค่ปากกาด้ามเดียว 600 ดอลล่าร์มันเกินไป ของที่มีอยู่แล้วก็ยังใช้ได้ดี หรืออย่างน้อยก็ยังไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์แพงขนาดนั้น

ในทางกลับกัน คนนิสัยรวย จะขอบคุณสิ่งที่ตัวเองมีอยู่แม้มันจะไม่ใช่ของที่ดีที่สุด แต่ถ้ามันพาเขาไปถึงเป้าหมายได้ ก็จะใช้มันไปก่อน และพวกเขาจะกล่าวขอบคุณสิ่งเหล่านั้นอยู่บ่อย ๆ

คุณ Wallace Wattles เรียกพฤติกรรมนี้ว่า Law of Gratitude หรือ กฏแห่งการขอบคุณ หรือ ทัศนคติแห่งการเห็นคุณค่า โดยเขานำเสนอว่า ยิ่งคุณรู้จักเห็นคุณค่าในสิ่งต่าง ๆ จิตใจของคุณจะยิ่งเปิดกว้าง และชีวิตของคุณจะยิ่งดึงดูดสิ่งที่คุณต้องการ



ข้อ 3 ไม่เสียเวลาใส่ใจคิดถึงความเห็นดูถูก

สมมุติว่า หญิงสาวที่ไม่ยอมทำงานเขียนแบบ เพราะมีคนดูถูกว่าอุปกรณ์ของเธอมันดูไม่แพงเหมือนของพวกมืออาชีพ นั้นแปลว่า เธอใส่ใจกับความเห็นดูถูกจากผู้อื่นมากเกินไป

เช่นเดียวกับอีกหลาย ๆ คนที่มีความฝัน อยากมีบ้านหลังใหญ่ อยากมีรถสปอร์ต อยากมีกิจการต่าง ๆ ทุก ๆ ความฝัน ถ้าคุณเพิ่งเริ่ม จะมีคนดูถูกและหัวเราะทั้งสิ้น ซึ่ง คุณ Wallace Wattles บอกว่า คนนิสัยรวยเขาไม่มาเสียเวลาสนใจ

คนนิสัยรวย โฟกัสถึงสิ่งที่เข้าอยากได้

– ถ้าอยากได้บ้าน เขาจะวาดภาพในหัวอย่างชัดเจน ว่าบ้านมีหน้าตาอย่างไร

– ถ้าอยากได้รถ ก็วาดภาพในหัวอย่างชัดเจน ว่ารถแบบไหน

– รวมไปถึงไลฟ์ไสตล์ต่าง ๆ ที่อยากได้ ก็จะมีภาพในหัวอย่างชัดเจนทั้งสิ้น

คุณ Wallace Wattles ยืนยันว่า สิ่งสร้างสรรค์ที่คุณเห็นทั้งหมดในสังคมมนุษย์ มีจุดเริ่มต้นจากความคิด และเป็นผลผลิตของความคิดทั้งสิ้น เมื่อคุณคิดถึงสิ่งใด สิ่งนั้นปรากฏรอคุณอยู่แล้วในกาลอนาคต ที่เหลือคือ Process หรือ กระบวนการทำให้ได้มา

ข้อ 4 ไม่เสียเวลาคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้

ข้อนี้หลายคนน่าจะเคยประสบ หรืออาจจะเคยได้ยินจากคนรอบตัวอยู่บ่อย ๆ เช่น

– อยากขายของออนไลน์ แต่ ฉันขายของไม่เก่ง

– อยากทำธุรกิจ แต่ ฉันไม่มีความรู้

– อยากทำยูทูบ แต่ ฉันพูดไม่เป็น เป็นต้น

คนเหล่านี้มีความอยาก แต่จะมี ‘แต่’ แล้วตามมาด้วยทัศนคติว่า ‘ฉันทำไม่ได้’ ด้วยข้ออ้างต่าง ๆ นา ๆ ว่าแต่ คนนิสัยรวย เขาคิดอย่างไร

คนนิสัยรวย จะคิดว่าอะไรที่ฉันยังทำไม่ได้ อะไรที่ฉันยังขาด แต่มันต้องใช้ในการเดินทางสู่เป้าหมาย เขาจะหาวิธีทำให้มันเป็นไปให้ได้ ขาดความรู้หาความรู้ ขาดคนเก่งหาคนเก่ง ขาดเงินทุน หาเงินทุน เขาจะเอาพลังงานสมองไปคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้มา

และนี่คือ ความคิด 4 แบบ คนนิสัยรวย ไม่เสียเวลาคิดเด็ดขาด จากการตกผลึกคำแนะนำของ คุณ วอลเลซ วอทเทิลส์ เจ้าของผลงานหนังสือ The Science of Getting Rich