Facebook ซื้อกิจการ ‘เครื่องอ่านคลื่นสัญญาณสมอง’ ผู้ใช้งานเฟสบุ๊คหวั่นถูกเก็บดาต้าจากสมองโดยตรง

23 กันยายน 2019 Facebook Inc. ผู้ให้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์ครายใหญ่ของโลก ยี่ห้อ เฟสบุ๊ค (Facebook) ประกาศแผนเข้าซื้อ CTRL-Labs ธุรกิจสตาร์ทอัพอายุ 4 ปี ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภท Brain-computing ด้วยมูลค่าดีลยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วงมูลค่าประมาณ 500 – 1000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่สังคมบางกลุ่มหวั่นใจว่าอาจถูกนำมาใช้เก็บข้อมูลผู้ใช้งานเฟสบุ๊คในอนาคต

CTRL-Labs ร่วมก่อตั้งและบริหารโดย Thomas Reardon โดยได้รับเงินลงทุนจำนวน 67 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนายทุน อาทิ Google, Amazon’s Alexa Fund, และ Lux Capital เพื่อพัฒนาและผลิตอุปกรณ์ที่สวมติดกับข้อมือ

Andrew Bosworth รองประธานบริษัท เฟสบุ๊ค อธิบายว่า อุปกรณ์ดังกล่าวจะทำหน้าที่ดักจับสัญญาณไฟฟ้าที่ส่งออกมาจากสมองและวิ่งผ่านมายังกล้ามเนื้อแขน ข้อมือ และนิ้วมือ จากนั้นจะแปลงและส่งสัญญาณดิจิทัลที่อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ คอมพิวเตอร์ และ โน้ตบุ๊ค สามารถเข้าใจได้ และทำตามคำสั่งโดยที่เจ้าของไม่ต้องสัมผัสกับอุปกรณ์ หรือ สรุปเป็นประโยคเดียวว่า

‘สั่งคอมพิวเตอร์ให้ทำงานจากความคิดในสมองโดยตรง’

หลังมีประกาศดังกล่าวออกไป สังคมมีการตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาธุรกิจหลักของ เฟสบุ๊ค ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าอิเลคทรอนิกส์สักเท่าไร เฟสบุ๊คดำเนินกิจการโซเชียลมีเดีย และมีรายได้หลักจากการให้บริการ โฆษณาออนไลน์ และอาศัยฐานข้อมูลผู้ใช้งานเป็นทรัพยากรสำคัญในการให้บริการระบบโฆษณาดังกล่าว จึงเกรงว่าการซื้อกิจการ CTRL-Labs อาจเป็นพาหนะไปสู่การสะสมฐานข้อมูลในรูปแบบใหม่ ๆ อาทิ การสะสมผ่านจากการอ่านความคิดผู้ใช้งานโดยตรง

ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ในสหรัฐฯ เริ่มแสดงความเห็นเป็นกังวล โดยบางคนใช้คำว่า น่ารังเกียจ (Gross) กับการกระทำลักษณะนี้ แต่อย่างไรก็ดี มีผู้เห็นต่างแสดงความเห็นว่า อุปกรณ์นี้ไม่ได้เชื่อต่อกับสมองโดยตรงเสียหน่อย — ทางด้าน Facebook งดให้ข้อมูลต่อสื่อในประเด็นวิพากษ์วิจารณ์จากชาวทวิตเตอร์

I mean honestly who do y'all think you are. Don't you own enough of our data already? Holy shit this is gross.

— Erin Biba (@erinbiba) September 24, 2019