การสอบถามข้อมูลส่วนตัวช่วยสร้างความสัมพันธ์ในการสนทนาภาษาอังกฤษ บทความนี้รวบรวม 50 ประโยคภาษาอังกฤษ วิธีถามข้อมูลส่วนตัวพร้อมคำแปลภาษาไทย
ในการสนทนาภาษาอังกฤษ การสอบถามข้อมูลส่วนตัวของคู่สนทนาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวันหรือในสถานการณ์ที่เป็นทางการ บทความนี้ได้รวบรวม 50 ประโยคภาษาอังกฤษ วิธีถามข้อมูลส่วนตัวพร้อมคำแปลภาษาไทย เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ในการสนทนากับชาวต่างชาติได้จริงในหลากหลายสถานการณ์
ดูคลังรวมประโยคภาษาอังกฤษทั้งหมด ที่นี่
50 ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสอบถามข้อมูลส่วนตัว:
1. What’s your full name? (คุณชื่อเต็มว่าอะไร)
2. Where are you from? (คุณมาจากที่ไหน)
3. What’s your nationality? (คุณมีสัญชาติอะไร)
4. How old are you? (คุณอายุเท่าไหร่)
5. When is your birthday? (วันเกิดของคุณเมื่อไหร่)
6. Are you married or single? (คุณแต่งงานแล้วหรือโสด)
7. Do you have any siblings? (คุณมีพี่น้องไหม)
8. What do you do for a living? (คุณทำอาชีพอะไร)
9. Where do you work? (คุณทำงานที่ไหน)
10. What’s your job title? (คุณมีตำแหน่งงานอะไร)
11. How long have you been working there? (คุณทำงานที่นั่นมานานเท่าไหร่แล้ว)
12. What are your hobbies? (งานอดิเรกของคุณคืออะไร)
13. What do you like to do in your free time? (คุณชอบทำอะไรในเวลาว่าง)
14. Do you have any pets? (คุณมีสัตว์เลี้ยงไหม)
15. What’s your favorite food? (อาหารโปรดของคุณคืออะไร)
16. What kind of music do you like? (คุณชอบฟังเพลงแนวไหน)
17. What’s your favorite movie? (ภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณคืออะไร)
18. Do you have any special talents or skills? (คุณมีความสามารถหรือทักษะพิเศษอะไรไหม)
19. What’s your educational background? (คุณจบการศึกษาระดับอะไร)
20. Where did you go to school/university? (คุณเรียนที่โรงเรียน/มหาวิทยาลัยไหน)
21. What did you study? (คุณเรียนสาขาอะไร)
22. Do you have any plans for further education? (คุณมีแผนที่จะศึกษาต่อไหม)
23. What’s your dream job? (งานในฝันของคุณคืออะไร)
24. Where do you see yourself in five years? (ในอีก 5 ปีข้างหน้าคุณเห็นตัวเองอยู่ที่ไหน)
25. What are your long-term career goals? (เป้าหมายระยะยาวในอาชีพของคุณคืออะไร)
26. What’s your relationship status? (สถานะความสัมพันธ์ของคุณเป็นอย่างไร)
27. Do you have any children? (คุณมีลูกไหม)
28. What are your religious beliefs? (คุณนับถือศาสนาอะไร)
29. What’s your political stance? (คุณมีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร)
30. What are your views on [topic]? (คุณมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับ[หัวข้อ])
31. What’s your favorite travel destination? (สถานที่ท่องเที่ยวโปรดของคุณคือที่ไหน)
32. Have you ever lived abroad? (คุณเคยอาศัยอยู่ต่างประเทศไหม)
33. What languages do you speak? (คุณพูดภาษาอะไรได้บ้าง)
34. How would you describe your personality? (คุณจะอธิบายบุคลิกของคุณอย่างไร)
35. What are your strengths and weaknesses? (จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณคืออะไร)
36. What motivates you? (อะไรคือสิ่งที่จูงใจคุณ)
37. How do you handle stress? (คุณรับมือกับความเครียดอย่างไร)
38. What’s your biggest achievement so far? (ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณจนถึงตอนนี้คืออะไร)
39. What’s your biggest failure or regret? (ความล้มเหลวหรือความเสียใจที่ใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร)
40. What are your personal values? (คุณค่าส่วนบุคคลของคุณคืออะไร)
41. What’s your philosophy in life? (ปรัชญาในการใช้ชีวิตของคุณคืออะไร)
42. What’s your favorite quote or saying? (คำพูดหรือคำคมที่คุณชอบที่สุดคืออะไร)
43. Who is your role model or inspiration? (ใครเป็นแบบอย่างหรือแรงบันดาลใจของคุณ)
44. What’s the most important lesson you’ve learned in life? (บทเรียนที่สำคัญที่สุดที่คุณได้เรียนรู้ในชีวิตคืออะไร)
45. What’s your biggest fear? (ความกลัวที่ใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร)
46. What’s your favorite childhood memory? (ความทรงจำในวัยเด็กที่คุณชอบที่สุดคืออะไร)
47. What’s the craziest thing you’ve ever done? (สิ่งที่บ้าที่สุดที่คุณเคยทำคืออะไร)
48. What’s on your bucket list? (อะไรคือสิ่งที่คุณอยากทำให้ได้ก่อนตาย)
49. What’s your guilty pleasure? (อะไรคือความสุขที่แอบชอบของคุณ)
50. Is there anything else you’d like to share about yourself? (มีอะไรอีกไหมที่คุณอยากแบ่งปันเกี่ยวกับตัวคุณเอง)
สรุป
บทความนี้ได้รวบรวม 50 ประโยคภาษาอังกฤษ วิธีถามข้อมูลส่วนตัวพร้อมคำแปลภาษาไทย ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน ความสนใจ การศึกษาและอาชีพ ไปจนถึงความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัว เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ในการสนทนากับชาวต่างชาติได้อย่างมั่นใจ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการสื่อสาร
