เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ลดลงอย่างหนัก ส่งสัญญาณบ่งบอกว่าตลาดกระทิงกำลังจะกลับมาอีกครั้ง นักลงทุนเตรียมตัวให้พร้อม
ประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลงมาก มักนำไปสู่ตลาดกระทิงหลายปีใน S&P 500 และครั้งนี้ก็น่าจะไม่แตกต่างกัน
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีหน้าที่รักษาเสถียรภาพเงินเฟ้อ โดยดูแลไม่ให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบี่ยงเบนจากเป้าหมาย 2% ต่อปีมากนัก การเปลี่ยนแปลง CPI ที่สูงหรือต่ำกว่า 2% มากจะทำให้เฟดปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งกระทบการใช้จ่ายผู้บริโภค กำไรบริษัท และราคาสินทรัพย์อย่างหุ้นและอสังหาริมทรัพย์
ในปี 2022 CPI พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี บังคับให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเพื่อชะลอเศรษฐกิจ ซึ่งเห็นผลชัดเจน เพราะเงินเฟ้อลดลงมากในปี 2023 และข้อมูลล่าสุดชี้ว่ายังคงทิศทางนี้ต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2024
การลดลงของเงินเฟ้อระดับนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งครั้งนั้นก็จุดประกายให้ S&P 500 ทำสถิติรอบชนะติดต่อกันยาวนานที่สุดครั้งหนึ่ง 9 ปีซ้อน และมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกในครั้งนี้
ย้อนกลับไป ในปี 2009 อัตราเงินเฟ้อดิ่งลงจาก 3.8% ในปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ติดลบ 0.4% หรือลดลงถึง 4.2% ขณะที่ในปี 1982 เงินเฟ้อก็ร่วงจาก 13.5% ในปี 1980 มาอยู่ที่ 6.1% หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเด็ดขาด โดยในทั้งสองกรณี ดอกเบี้ยลดลงตามเงินเฟ้อ และ S&P 500 ก็ปรับตัวขึ้นแรง 26.5% ในปี 2009 และ 21.5% ในปี 1982
ล่าสุด S&P 500 ได้เข้าสู่ตลาดกระทิงรอบใหม่แล้ว และหากดูจากประวัติศาสตร์ รอบนี้น่าจะยืดเยื้อ ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ยังทรงตัวที่ 3.1% ต่อปี นับว่าใกล้เคียงกับเป้าหมาย 2% ของเฟด ซึ่งหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ดอกเบี้ยจะลดลงตาม
S&P 500 ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในปี 2023 ด้วยการปรับตัวขึ้นถึง 26.3% และนั่นอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชัยชนะอันยาวนาน โดยในปี 2024 นี้ ดัชนีก็เปิดตัวได้สวยหรูด้วยการพุ่งขึ้นไปแล้ว 9%
อ้างอิง The Motley Fool
คุณอาจสนใจ
