ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2017 นี้ ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ของจีน ทำสถิติใหม่เติบโตขึ้นกว่า 33.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดขายสูงถึง 3.1 ล้านล้านหยวน ($470 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ กว่า 16 ล้านล้านบาท)
อาลีบาบา และ Boston Consulting Group ตีพิมพ์บทความซีรีส์เรื่อง “The New Retail: Lessons from China for the West” (ค้าปลีกยุคใหม่ : บทเรียนจากจีนสู่ชาติตะวันตก ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของ ตลาดการค้าในจีน ที่มีวิวัฒนาการมาจากชาติตะวันตก และอะไรที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้ธุรกิจจีนประสบความสำเร็จ
และนี่คือบทสรุปจากบทความนี้
5 สาเหตุที่ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ของจีนเติบโตแบบก้าวกระโดด
เจาะลึกข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้บริโภคชาวจีน เลือกที่จะเข้าใช้แพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ที่พวกเขาชื่นชอบ เพื่อค้นหาสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยม และใหม่ล่าสุด และจะได้รับคำแนะนำหรือข้อเสนอที่เหมาะกับพวกเขาโดยเฉพาะ แม้ว่าเว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์จากฝั่งตะวันตก จะใช้ข้อมูลพื้นฐานอย่าง ประวัติการค้นหา หรือประวัติการสั่งซื้อ แต่จีนไปไกลและลึกกว่านั้น
อาลีบาบา ใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้า อย่างพฤติกรรมออนไลน์บนโซเชียลมีเดีย โดยผสานการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบ Ai ยกตัวอย่างเช่น ในวันวาเลนไทน์ อาลีบาบา ได้โพสแผนที่ ที่ระบุว่า คนโสดอาศัยอยู่ในที่ใดบ้าง และแนะนำสถานที่สำหรับประชาชนให้ไปออกเดทกัน
การจับจ่ายแบบไร้รอยต่อ
ด้วยระบบนิเวศ (Ecosystem) ของจีนที่สร้างขึ้นมาเอง ทำให้ระบบการค้าปลีกออนไลน์ของจีน เชื่อมโยงเข้าถึงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ข่าว หรือการเล่นเกมออนไลน์ ทั้งบนพีซีและบนมือถือ หรือจะเป็นการใช้โซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์, แอปพลิเคชันไลฟ์สตรีม ที่มีเน็ตไอดอลหรือ หว่างหง เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งสามารถนำเสนอสินค้าได้หลากหลายรูปแบบ และผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเว็บไซต์และทำการสั่งซื้อภายในไม่กี่คลิก โดยชำระเงินอย่างสะดวกผ่านระบบชำระเงินอย่าง Alipay หรือ WechatPay
Content is king
Content คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดึงดูดลูกค้า ให้เกิดความสนใจและเชื่อมั่น จนนำไปสู่การสั่งซื้อในที่สุด อาลีบาบา เคยทดลองทำ VR (virtual reality) ให้กับร้านค้า เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ ให้เหมือนเดินเข้าไปในห้างค้าปลีกเสมือนจริง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก สิ่งเหล่านี้เราจะยังไม่เคยเห็นจากเว็บค้าปลีกของฝั่งตะวันตก
นวัตกรรม C2B
C2B คือ Consumer-to-Business ซึ่งต่างจาก B2C แบบดั้งเดิมที่เราเคยรู้จัก โดย C2B นี้จะช่วยให้ผู้บริโภคช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทได้ โดยการใช้ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งจีนกำลังเป็นผู้นำในแนวทางนี้ ที่จะใช้ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในสื่อโซเชียลมีเดีย หรือกิจกรรมต่าง ๆ แม้กระทั่งการเล่นเกมออนไลน์ เพื่อนำเสนอสินค้าให้กับผู้บริโภคได้ตรงตามความต้องการในเวลาที่เหมาะสม
สิ่งนี้จะทำให้บริษัทสามารถทดลองได้มากขึ้น ถ้าเปิดตัวไปแล้วผลิตภัณฑ์ล้มเหลวผู้คนไม่ชอบ ก็สามารถถอนตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเปิดตัวไปแล้วประสบความสำเร็จก็สามารถทำการขยายได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ แทนที่เมื่อก่อนใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะรู้ว่าได้ผลหรือไม่
มีความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และความเร็ว
บริษัทเล็ก ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ จะมีความคล่องตัวในการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา และด้วยตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางครั้งสำหรับบริษัทใหญ่กว่าจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ คนก็เลิกฮิตไปแล้ว แต่สำหรับบริษัทขนาดเล็กสามารถออกผลิตภัณฑ์มาลองตลาดได้คล่องตัวกว่า และหากไม่ได้รับการตอบรับที่ดี ก็มีความยืดหยุ่นมากพอในการเปลี่ยนแปลงสายการผลิต โดยไม่ทำให้เกิดผลเสียมากกับบริษัท
และสุดท้ายก็วัดกันที่ความรวดเร็วในการจัดส่ง ซึ่งอาลีบาบา สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการขนาดเล็กได้อย่างมากมาย
จากบทเรียนของอาลีบาบานี้ ทำให้มองเห็นภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ของจีนได้กว้างขึ้น และได้เห็นถึงการนำเทคโนโลยีมากมายเข้ามาช่วยดันยอดขายให้เติบโต ถึงขณะนี้มียอดรวมที่ 3.1 ล้านล้านหยวนแล้ว หรือคิดเป็นไทยก็ราว ๆ กว่า 16 ล้านล้านบาท
และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้
หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใคร
Resource:
