SEO คืออะไร : สรุปวิธีทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับ Google แบบเข้าใจง่าย ทำตามได้ทันที

SEO คืออะไร : สรุป 5 ปัจจัยทำ SEO เว็บไซต์ติดหน้าแรก Google

SEO คืออะไร : สรุปวิธีทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับ Google แบบเข้าใจง่าย ทำตามได้ทันที

ผู้ประกอบกิจการ และคนขายของออนไลน์ ที่มีเว็บไซต์ อยากให้ลูกค้าหาคุณเจอบน Google ต้องทำอย่างไร? CEO Channels จะอธิบายอย่างละเอียด วิธีทำ SEO และ วิธีวิเคราะห์คีย์เวิร์ด เพื่อทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับดี ๆ บน Google

SEO คืออะไร ย่อมาจากอะไร

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization แปลว่า การปรับแต่งเว็บไซต์ และคอนเทนต์ของเว็บไซต์ หรือ Optimization เพื่อเอื้อต่อการทำอันดันบน Search engine หรือ ‘เครื่องมือค้นหา’ โดยในบริบทนี้จะหมายถึง Google Search Engine เป็นหลัก

การ Optimize เว็บทำอย่างไร

หลัก ๆ มี 2 วิธี และนิยมทำคู่กันไป ได้แก่ On-page และ Off-page

On-page คือ การปรับแต่ง คอนเทนต์ ต่าง ๆ อาทิ Post content หรือ บทความ และ Page content คือ หน้าเว็บเพจต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ เช่น หน้า About us, Products, และ Category page ต่าง ๆ โดยในส่วนนี้ต้องใช้ Keyword research tools หรือ โปรแกรมวิเคราะห์คีย์เวิร์ดในการทำงาน

Off-page คือ การสร้างปัจจัยการทำอันดับจากหลังบ้าน อาทิ การทำ Link building, การติดตั้ง Theme ที่โหลดเร็ว และโมบายเฟรนด์ลี่ เป็นต้น ฯลฯ

SEO สำคัญอย่างไร

รูปภาพด้านล่างอธิบายความสำคัญของการมีเว็บไซต์หรือเว็บเพจติดหน้าแรก Google ได้อย่างดีที่สุด เป็นการใช้โปรแกรมในกลุ่ม Heat map analytics วิเคราะห์ตำแหน่งที่คนคลิกมากที่สุดบนเว็บไซต์ จุด สีแดง/ส้ม คือจุดที่คนคลิกมากที่สุด

ที่มา : https://www.skipedia.co.uk/2013/03/do-paid-search-results-perform-better-than-organic-search-results/

4 อันดับแรก ครองสัดส่วนการถูกคลิกรวมกัน สูงถึง 76% ส่วนอันดับ 5 เป็นต้นไปในหน้าแรกก็ยังมีโอกาสถูกคลิกเช่นกัน ในขณะที่หน้า 2 และ 3 เป็นต้นไปอาจจะเหลือโอกาสที่คนจะตามไปค้นหาและคลิกเข้าเว็บไซต์เพียง 1-2% หรือน้อยกว่า

กล่าวคือ หากเว็บไซต์ของคุณหลุดจากการติดอันดับหน้า 1 ไปแล้ว โอกาสที่คนจะตามไปหาคุณเจอก็แทบจะเป็นศูนย์ ดังนั้นการทำ SEO เพื่อให้มีสักเว็บเพจในเว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรก Google จึงเป็นสิ่งสำคัญ

และที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน คือ การมีเว็บเพจที่ติดหน้า 1 Google จะติดอันดับด้วยคีย์เวิร์ดที่มีคนค้นหาจำนวนมากพอต่อการผันจำนวน ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ไปเป็นผู้ซื้อ หรือ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Traffic conversion โดยกระบวนการนี้เรียกว่า Keyword research หรือ การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด

Google คืออะไร

บนโลกออนไลน์มีผู้ให้บริการ Search engine หลายราย อาทิ Google, Bing, Yahoo, Baidoo, Yandex เป็นต้น หรือแม้แต่ Amazon และ Skyscanner ก็เป็น Search engine เช่นกัน! เพียงแต่ 2 รายหลังเป็น Search engine เฉพาะทาง ได้แก่ อีคอมเมิร์ซ และ ท่องเที่ยว ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี Google เป็น Search engine ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลกเพราะทาง ผู้ร่วมก่อตั้ง Google ได้แก่ Larry Page และ Sergey Brin พัฒนาเทคโนโลยีในการค้นหาข้อมูลให้มีประสิทธิภาพอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานเป็นอย่างดี

ผู้ร่วมก่อตั้ง Google

เจ้าของเว็บไซต์และนักการตลาดใด ๆ ที่พยายามจะแทรกแซงหรือโกงอันดับบน Google ด้วยลูกเล่นต่าง ๆ ก็จะถูก Google ตรวจพบ และพัฒนาระบบเพื่อป้องกันพฤติกรรมเหล่านั้นให้หมดสิ้นไปจาก ‘หน้าแสดงผลการค้นหา’ หรือ Search result page คงเหลือไว้แต่ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานจริง ๆ ให้มากที่สุดเสมอมา

Google จึงได้รับความนิยมอย่างเหนียวแน่นเสมอมา โดยในปี 2020 มีผู้คนใช้ Google สูงถึงกว่า 4,200 ล้าน การค้นหาต่อวัน!

Google Search Engine ทำงานอย่างไร

สำหรับกลไกการทำงานของ Google ในการผลักดันเว็บไซต์และบทความต่าง ๆ เข้าสู่อันดับใด ๆ บน Google search result มีรายละเอียดค่อนข้างมาก ท่านสามารถชมกลไกการทำงานอย่างละเอียดได้ที่วีดีโอนี้ซึ่งนำมาจากตอนหนึ่งของหลักสูตรออนไลน์ที่สอนโดยเจ้าของ CEO Channels ชื่อว่า คอร์ส Google Web Traffic

 

5 ปัจจัยในการทำอันดับบน Google มีอะไรบ้าง

อ้างอิงจากเว็บไซต์ backlinko.com เผยว่า Google มีปัจจัยในการทำอันดับสูงถึง (และอาจมากกว่า) 200 ปัจจัย แต่ผู้ประกอบกิจการ และคนค้าขายออนไลน์ทั่วไปไม่ต้องกังวลกับตัวเลขนี้ เพราะสำหรับคนทำธุรกิจทั่วไป โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นศึกษาเรื่อง SEO สามารถทำเว็บไซต์ติดหน้าแรก Google ได้ไม่ยากโดยใช้เพียง 5 ปัจจัย ได้แก่

1. Domain age

Domain name คือ ชื่อเว็บไซต์ที่คุณสามารถจดทะเบียนผ่านเว็บรับจดโดเมน อาทิ GoDaddy.com และ NameCheap เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถจดโดเมนผ่านผู้ให้บริการโฮสติ้งของคุณอีกด้วย

อย่างไรก็ดี โดเมนเหล่านั้นเป็นโดเมนมือหนึ่ง หรือโดเมนใหม่ ซึ่งจะมีค่า Domain rating เริ่มต้นที่ศูนย์ และต้องใช้เวลาในการทำอันดับในช่วงแรกค่อนข้างนาน เช่น 15 – 30 วัน สำหรับการทำอันดับบน Google ในตำแหน่งที่คนหาไม่เจอ

ต่างจากเว็บไซต์อย่าง Thairath.co.th, และ Pantip.com เป็นต้น ที่มีอายุโดเมนเกิน 10 ปี และบทความใหม่ ๆ สามารถติดอันดับหรือแม้แต่ติดหน้าแรก Google กันภายใน 5 – 10 นาที! นี่คือพลังของโดเมนเนมที่มีอายุ และคุณมี 2 ทางเลือก ได้แก่

1. ประมูลซื้อโดเมนมือสองจากเว็บขาย Expired domain อาทิ www.domcop.com และ www.dynadot.com ข้อเสีย คือ อาจมีราคาสูง และชื่อโดเมนไม่ถูกใจ หรือไม่ใช่แบรนด์ของคุณ

2. ทางเลือกที่สองจึงเป็นการเฟ้นหา โดเมนเนมมือหนึ่ง โดยหาชื่อที่ถูกใจที่สุดและอยู่กับชื่อนั้นตลอดไป โดยกรณีของ CEO Channels มีบทเรียนที่ผิดพลาดนั่นคือการใช้เวลาในการหาชื่อน้อย รีบจดชื่อโดเมนเร็วเกินไป ทำให้ได้ชื่อไม่ถูกใจและต้องเปลี่ยนชื่อถึง 3 ครั้ง แม้จะทำเว็บไซต์มา 7 ปี แต่การเปลี่ยนชื่อทำให้ Domain age และ Damain rating ต้องกลับไปเริ่มนับ 1 กันใหม่

2. Site speed

ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บเพจมีผลอย่างมาก เพราะหากหน้าเว็บเพจของคุณโหลดช้าเกินไปจนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ไม่รอและกด Back ออกจากเว็บไซต์ Google จะมองว่าเว็บไซต์ของคุณไม่มีคุณภาพและส่งผลต่อการทำอันดับในอนาคต

วิธีแก้ปัญหาเว็บไซต์โหลดเบื้องต้นช้า ได้แก่

เลือกโฮสติ้งที่เหมาะสม เป็นการเลือกแพ็กเกจบริการโฮสติ้งที่มีศักยภาพสอดคล้องกับปริมาณผู้เยี่ยมชมของเว็บไซต์ โดยกรณี CEO Channels มีผู้เยี่ยมชม 400,000 – 600,000 Unique visitors ต่อเดือน และใช้ Cloud hosting ของ Cloudways เซิร์ฟเวอร์ Digital Ocean สเปก RAM 8GB, Processor 4 Core, Storage 160GB, Bandwidth 5TB ก็สามารถรองรับปริมาณผู้เยี่ยมชมดังกล่าวได้อย่างราบรื่นดี

Cloudways มีให้เลือกหลายแพกเกจและหลายเซิร์ฟเวอร์รวมไปถึง Amazon Web Service และ Google Cloud Platform ราคาเริ่มต้นเพียง 10 ดอลล่าร์ต่อเดือนซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับคุณภาพและเจ้าหน้า Live Chat ตลอด 24 ชั่วโมง

เปรียบเทียบแพกเกจต่าง ๆ ของ CloudWays ที่นี่ 

เลือก Theme ที่โหลดเร็ว ได้แก่ Newspaper สำหรับเว็บข่าวโดยเฉพาะ และ Avada สำหรับเว็บไซต์บริษัท หรือเว็บขายสินค้าและบริการต่าง ๆ โดยทั้งสอง Theme เป็นกลุ่ม Theme ที่ขายดีที่สุดบนเว็บไซต์ Themeforest.net

ฝากไฟล์ ‘รูปภาพและวิดีโอ’ บนเซิร์ฟเวอร์อื่น บทความต่าง ๆ มักประกอบไปด้วยรูปภาพ หรือวีดีโอ การอัพโหลดไฟล์เหล่านี้เข้าไปในเซิร์ฟเวอร์ของโฮสต์จะทำให้โฮสต์ของคุณทำงานหนัก ทางเลือกที่ดีกว่า คือ กรณีไฟล์อื่น ๆ ให้ฝากไว้ที่เซิร์ฟเวอร์เฉพาะทาง อาทิ รูปภาพฝากไว้ที่ Flickr.com และ วีดีโอ ฝากไว้ที่ YouTube.com และนำ Embeded links มาแปะในเว็บไซต์แทน เหล่านี้เป็นแนวทางเบื้องต้นในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทันทีเพื่อลดภาระการใช้ทรัพยากรของเว็บตนเอง และเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นบ้าง

3. Mobile optimized

ช่วยให้หน้าเว็บเพจต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ปรับขนาดการแสดงผลตามประเภทอุปกรณ์มือถือ เช่น สมาร์ทโฟน, โน๊ตแพ็ด ต่าง ๆ ซึ่ง Premium theme ในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็น Mobile optimized ในตัวอยู่แล้ว รวมถึง Newspaper และ Avada

4. Keyword

คือ คำค้นหาที่ผู้ใช้งานคีย์ลงใน Google search tool bar หากคุณรู้ว่าผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณพิมพ์คำว่าอะไรลงใน Google ให้คุณใช้ คำศัพท์ หรือ รูปประโยค เหล่านั้นไปใส่ลงในบทความต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์อย่างเป็นระบบ ก็จะทำให้หน้าเว็บเพจที่เกี่ยวข้องไปแสดงผลใน Google search result

การจะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณค้นหาคำว่าอะไรนั้นไม่สามารถคาดเดาหรือคิดเอาเองได้ คุณจะต้องทำผ่านเครื่องมือ Keyword research อย่างเป็นกิจลักษณะโดยมีอธิบายวิธีทำที่บทความ Keyword Research ทำยังไง

5. Backlinks

คือ การที่มีคนนำลิงค์ของหน้าเว็บเพจหนึ่ง ๆ ของคุณไปแปะหรือแชร์ต่อภายใน เว็บไซต์ต่าง ๆ ก็ดี เว็บบอร์ดก็ดี และในโซเชียลมีเดียก็ได้ เหล่านี้เรียกว่า Backlinks เพราะนอกจากมี Keywords ที่ติดอันดับแล้ว จะต้องมี Backlinks เข้ามาเสริมทัพเพื่อเป็นการบอก Google ว่าบทความของคุณมีคุณภาพมากพอจนมีผู้คนนำลิงค์ไปแนะนำต่อ ๆ กันไปบนโลกออนไลน์

อย่างไรก็ดี คุณสามารถสร้าง Backlinks เองได้โดยการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาอีกอันเพื่อทำบทความคุณภาพและไม่ซ้ำกันกับบทเว็บไซต์หลัก และแปะ Backlinks ลงไป หรือ เข้าไปตอบกระทู้เว็บบอร์ดที่เกี่ยวข้องและตอบอย่างมีคุณภาพพร้อมแนบ Backlinks ลงไป เหล่านี้คือกระบวนการสร้าง Backlinks ด้วยตนเองโดยมีข้อเสีย คือ กินเวลามาก

สรุป

นี่คือสรุป SEO คืออะไร และ 5 ปัจจัยพื้นฐานในการทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับดี ๆ บน Google search engine ทวนอีกครั้งได้แก่ อายุโดเมนเนม, ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์/เว็บเพจ, การแสดงผลบนมือถือแบบ โมบายเฟรนด์ลี่, คีย์เวิร์ด, และแบ็กลิงค์

คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดคอร์ส Google Web Traffic หลักสูตรออนไลน์สอนวิเคราะห์คีย์เวิร์ดแบบละเอียดยิบ และวิธีทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบน Google