วิธีเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้เร็วขึ้นอีก 50% สำหรับคนเพิ่งเรียนจบ โดยคำแนะนำจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ (มีคลิป)


ปัจจัยหลาย ๆ อย่างในปัจจุบันทำให้การแข่งขันของ คนรุ่นใหม่และบัณฑิตใหม่ นั้นท้าทายมากขึ้น การจะประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ย่างเข้าห้องสัมภาษณ์เพื่อหางานทำ ไปจนถึงการพิชชิ่งไอเดียหานายทุนทำสตาร์ทอัพ หรือแม้แต่การไลฟ์สดขายสินค้าทางออนไลน์ ล้วนไม่ง่ายอีกต่อไป เพราะคนรุ่นใหม่มีคู่แข่งที่ทำเหมือน ๆ กันมากมายเต็มไปหมด แล้วพวกเขาจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร

สิ่งที่น่าเหนือความคาดหมาย คือ คุณปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนและมหาเศรษฐีในตำนานวัย 89 ปี กลับเข้าใจปัญหาของคนรุ่นใหม่เป็นอย่างดี และมีคำแนะนำสำหรับคนหนุ่มสาวที่อยากก้าวหน้าหรือได้รับโอกาสที่เร็วขึ้นว่า จงพัฒนา ทักษะการสื่อสาร ทั้ง พูด และ เขียน ให้เชี่ยวชาญ

หากใครมีโอกาสติดตามประวัติของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ อย่างใกล้ชิดจะทราบว่า จุดด้อยของ บัฟเฟตต์ คือ เขาเป็นคนกลัวการพูด จนถึงขั้นรู้สึกป่วยเมื่อจะต้องพูดหรือนำเสนอต่อหน้าคนจำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าทางเดียวที่จะทำให้คน ซื้อไอเดีย ซื้อสินค้า และซื้อบริการใด ๆ ล้วนขึ้นอยู่กับทักษะการสื่อสารและนำเสนอไอเดียนั้น ๆ

บัฟเฟตต์ จึงไม่ยอมให้ความกลัวการพูดมาหยุดยั้งชีวิต และลงทุนเข้าเรียนพัฒนาทักษะการสื่อสารในชุมชมและองค์กร กับ สถาบันพัฒนาตัวเอง Dale Carnegie

บัฟเฟตต์ แนะนำคนรุ่นใหม่ว่า :

“The one easy way to become worth 50 percent more than you are now — at least — is to hone your communication skills — both written and verbal.”

แปลว่า “วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณมีค่ามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อยได้แก่การฝึกฝนทักษะการสื่อสารของคุณ ทั้งในด้านการเขียนและการพูด” —บัฟเฟตต์ กล่าวระหว่างเล่นวีดีโอเซลฟี่ร่วมกับ ไมเคิล ฮู้ด

บัฟเฟตต์ กล่าวต่อไปว่า :

“If you can’t communicate, it’s like winking at a girl in the dark, nothing happens. You can have all the brainpower in the world, but you have to be able to transmit it. And the transmission is communication.”

แปลว่า “หากคุณไม่สามารถสื่อสาร ก็จะเป็นเหมือนการทำตาหวานใส่สาวที่ตรงใจจากในมุมมืด ไม่มีประโยชน์ ต่อให้มีพลังสมองมากมายขนาดไหนก็ยังต้องมีความสามารถที่จะส่งพลังนั้นออกไปได้ด้วย และการส่งพลังที่ว่านั้นก็คือการสื่อสาร”

ในวีดีโอคลิปดังกล่าว ฮู้ด ได้ถาม บัฟเฟตต์ ว่าถ้าจะให้คำแนะนำสักข้อหนึ่งแก่ผู้ที่อยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ หรือคนเพิ่งเรียนจบ คำแนะนำเพียงข้อเดียวที่คุณอยากให้แก่เขาคืออะไร — บัฟเฟตต์ ตอบว่า “จงลงทุนในตัวเอง”

สำหรับวีดีโอคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ ไมเคิล ฮู้ด และ วอร์เรน บัฟเฟตต์ กำลังเดินทางไปร่วมงาน Canadian Walk of Fame Inductee Gala เมื่อปี 2018 โดยวิดีโอดังกล่าวถูกโพสต์ใน LinkedIn ของ ไมเคิล ฮู้ด นักธุรกิจสตาร์ทอัพวัย 24 ปี และผู้ร่วมก่อตั้ง Voiceflow จากเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา

Voiceflow เป็นแอปพลิเคชั่นที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบและป้อนคำสั่งให้แก่ Amazon Alexa และ Google Actions โดยไม่ต้องรู้เรื่องโคดดิ้ง

ทางด้าน ริชาร์ด แบรนสัน แห่ง Virgin Group นักธุรกิจผู้เป็นเจ้าของมากกว่า 400 บริษัทในเครือ ก็มีแนวคิดที่คล้ายกันโดยมิได้นัดหมาย โดย แบรนสัน กล่าวไว้ใน บล็อกส่วนตัว เมื่อปี 2016 ดังต่อไปนี้

“Today, if you want to succeed as an entrepreneur, you also have to be a storyteller. Of course, it is no use being a good storyteller if your product or idea is rubbish. But it is not enough to create a great product; you also have to work out how to let people know about it.”

แปลว่า “วันนี้ หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการ คุณจะต้องเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีด้วย แน่นอน หากผลิตภัณฑ์หรือแนวความคิดของคุณใช้ไม่ได้ การเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่เยี่ยมยอดขึ้นมาได้ก็ยังไม่เป็นการเพียงพอ คุณยังต้องหาวิธีทำให้ผู้คนได้รับทราบเกี่ยวกับมันด้วย”



ข้อมูลอ้างอิง

https://www.cnbc.com/2018/12/05/warren-buffett-how-to-increase-your-worth-by-50-percent.html

https://www.virgin.com/richard-branson/why-entrepreneurs-are-storytellers