uber london ban

“อูเบอร์เป็นเหมือนมะเร็ง” เสียงสะท้อนจากแท็กซี่ ลอนดอน

Uber – ไม่ใช่เฉพาะแท็กซี่เมืองไทย ที่ประท้วงและขับไล่อูเบอร์ แต่แท็กซี่ที่ลอนดอนก็คิดเช่นเดียวกัน รถแท็กซี่สีดำทั้งคันรูปทรงคลาสสิก เป็นเหมือนเอกลักษณ์ที่อยู่คู่กับกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษมาช้านานแล้ว หากใครมาเที่ยวลอนดอนแล้วไม่ได้มานั่ง Black cab ก็เหมือนมาไม่ถึงลอนดอนเลยทีเดียว ด้วยบริการของแท็กซี่ลอนดอนที่นักท่องเที่ยวต่างประทับใจ และยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวได้ด้วย แต่คนลอนดอนเองกลับคิดว่าค่าแท็กซี่ Black cab บางทีก็แพงเกินไป และนั่งอูเบอร์ราคาถูกกว่า

Image credit: flickr.com

เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา TfL (Transport for London) หรือกรมการขนส่งของลอนดอน ปฏิเสธคำร้องในการต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจของอูเบอร์ ในลอนดอน ส่งผลให้เหล่าคนขับแท็กซี่ลอนดอน ออกมาแสดงความยินดีกันยกใหญ่ พร้อมส่งข้อความถึงอูเบอร์มากมาย

Sean Paul Day เป็นคนขับรถแท็กซี่ในลอนดอนมา 18 ปี กล่าวว่า “อูเบอร์กำลังทำลายวัฒนธรรมท้องถิ่นและความภาคภูมิใจที่มีค่าทางประวัติศาสตร์” เขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแอปเรียกแท็กซี่ท้องถิ่น TaxiApp ด้วย

Image credit: cnet.com

George Vyse ขับรถแท็กซี่มา 47 ปี ได้ขายรถ Black cab ของเขาที่ใช้มา 40 ปี และมาขับอูเบอร์ รู้สึกเจ็บแค้นมาก และบอกว่าเขารู้สึกเป็นเหมือนแรงงานทาสของอูเบอร์ “ถ้าเราซื้อรถ Black cab และเป็นเจ้าของมันเอง ทุก ๆ วันที่เราขับ เราจะได้รายได้ 100% เป็นของเราทั้งหมด แต่การที่มาขับอูเบอร์ต้องถูกบริษัทหักส่วนแบ่งไป ทำให้มีรายได้น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำเสียอีก”  Vyse ยังเรียกอูเบอร์ว่า เป็นเหมือน “มะเร็งทางเศรษฐกิจของลอนดอน” และยังกล่าวว่า แท็กซี่ Black cab มีปัญหาด้านอาชญากรรมที่ต่ำมากในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ในขณะที่มีคนขับอูเบอร์ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนหรือทำร้ายร่างการ, ล่วงละเมิดทางเพศ มากถึง 32 คดี ในปีที่ผ่านมา โดยที่ Uber ไม่สามารถรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ และยิ่งเป็นสาเหตุให้ TfL ตัดสินใจไม่ต่ออายุใบอนุญาตให้กับ Uber

มาฟังเสียงจากลูกค้ากันบ้าง

Massa Bruce หนุ่มลอนดอน บอกว่า “ผมเกลียด Black cab ราคาแพงยังกับปล้นแถมคุณภาพยังห่วยอีก 2 วันก่อนครับ พ่อแม่ผมนั่งจาก Stratford กลับบ้าน โดนไป 11 ปอนด์ ถ้านั่งอูเบอร์เสียแค่ 5 ปอนด์เท่านั้น #saveuber“

Yvonne White “ผมมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับแท็กซี่ลอนดอนเลย ทั้งหยาบคายและก็แพง แต่ผมได้รับบริการที่ดี สุภาพมากจากคนขับอูเบอร์” Yvonne กล่าว”ผมสามารถรู้ราคาค่าโดยสารได้ล่วงหน้า แล้วก็ไม่ต้องมาหาเงินสดมาจ่ายด้วย”

สาเหตุที่อูเบอร์สามารถคิดค่าโดยสารได้ถูกกว่าแท็กซี่ลอนดอนก็คือ อูเบอร์ยอมขาดทุน เพราะเพียงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ อูเบอร์ขาดทุนสะสมไปแล้วกว่า 645 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในลอนดอน และในอีกทางหนึ่งอูเบอร์ก็กดรายได้ของผู้ขับอูเบอร์ลงไปอีก เพื่อทำให้ค่าโดยสารถูกสุด ๆ

เมื่อความเห็นไม่ตรงกันระหว่างผู้โดยสารที่รักอูเบอร์ และเกลียด Black cab กับแท็กซี่ลอนดอนที่บอกว่าตนเองบริการดีและสุภาพ (เหมือนอยู่กันคนละประเทศ) จึงเป็นจุดที่ TfL ต้องตัดสินใจ

ผู้โดยสารเกือบ 850,000 คนร่วมลงนามสนับสนุนให้อูเบอร์อยู่ต่อ พร้อมกล่าวว่า อูเบอร์เป็นรูปแบบการเดินทางเดียวที่เขาจะจ่ายไหว Daniel Clover กล่าวว่า “อูเบอร์มีค่ามากกว่าเงินทอง และผู้คนมีสิทธิ์ที่จะเลือก”

ทางฝั่งผู้ขับแท็กซี่ลอนดอนกล่าวว่า “กว่าจะสอบใบอนุญาตขับขี่รถแท็กซี่ในลอนดอนได้ คุณรู้ไหมว่ามันยากแค่ไหน คุณต้องอ่านแผนที่และต้องจำมันให้ได้ทุก ๆ จุดในระยะ 6 ไมล์ใจกลางกรุงลอนดอน “

Paul Luchford กล่าว “การจะเรียนรู้จนสามารถนำทางไประหว่างจุดสองจุดได้ในลอนดอน คุณอาจจะต้องใช้เวลา 2-4 ปี โดยไม่ต้องอิงกับแผนที่หรือ GPS และยังต้องผ่านการสอบใบขับขี่อย่างเข้มงวดจาก TfL อีก ที่ทั้งยากและโหดไม่เหมือนที่ไหนในโลก”

“ถ้าจะแข่งทำไมไม่แข่งให้มันแฟร์ ๆ ไปสอบใบขับขี่มาสิ”

“คุณต้องมีจุดอ้างอิงมากกว่า GPS” “ผมไม่เอาแต่มองหน้าจอหรอก”

ออกแอปท้องถิ่นมาสู้

กลุ่มเพื่อนแท็กซี่ของ Sean Paul Day มีแอป TaxiApp ที่ใช้เรียกแท็กซี่ได้ และคิดค่าบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ผ่านมิตเตอร์ สามารถจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านแอป ไม่ต้องใช้เงินสด และไม่หักส่วนแบ่งรายได้จากคนขับ แต่มีค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ซึ่งเงินที่ได้ก็จะหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจของลอนดอน นอกจากนี้ยังมีอีก 2 แอป ชื่อว่า Gett และ MyTaxi ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนในลอนดอนนั่นเอง

เกมยังไม่จบ อูเบอร์ยื่นอุทธรณ์

Dara Khosrowshahi CEO คนใหม่ของ Uber บินตรงสู่ลอนดอน ไปเจรจายื่นอุทธรณ์ด้วยตนเอง ทำให้เกมนี้อาจยืดเยื้อออกไปอีก เพราะอูเบอร์ได้รับเสียงสนับสนุนจากฐานลูกค้ากว่า 850,000 ราย ที่ร่วมลงชื่อเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้ชาวแท็กซี่ดำของลอนดอนก็ยังไม่วางใจนักว่า TfL จะกลับลำอีกหรือไม่

“เขาไม่น่ามอบใบอนุญาตให้อูเบอร์ตั้งแต่แรกแล้ว” ลุงแท็กซี่คนหนึ่งกล่าว “อูเบอร์เป็นปิศาจที่ควบคุมไม่ได้”

ต่อให้ไล่ Uber ไปได้ Lyft ก็เข้ามาอยู่ดี

ด้วยแนวคิด Sharing Economy ทำให้แอปอย่าง Uber เกิดขึ้นได้ง่ายดาย ถึงแม้จะไล่อูเบอร์ออกไปจากลอนดอนได้ แต่สุดท้ายก็จะมีแอปอย่าง Lyft หรือแอปอื่น ๆ ดาหน้าเข้ามาถล่มแท็กซี่ลอนดอนอยู่ดี แล้วทางออกที่ดีที่สุดคืออะไร แท็กซี่ลอนดอนบางคนมีคำตอบ

Uber ทำให้แท็กซี่ลอนดอนบางคนปรับตัวดีขึ้น

George Shipton ขับรถแท็กซี่ลอนดอนมากว่า 14 ปี บอกว่า “ผมจะไม่ยอมให้อูเบอร์มาทำลายชีวิตของผมเด็ดขาด” ในความเป็นจริงเขากลับขอบคุณอูเบอร์ด้วยซ้ำที่เข้ามาทำให้เขารู้สึกตื่นตัว และปรับปรุงบริการให้ดีขึ้น เขาเพิ่มรายได้ให้ตัวเองด้วยการติดโฆษณาของแบรนด์ระดับโลกบนรถของตัวเอง นอกจากนี้เขายังรับเป็นไกด์นำเที่ยวที่มีใบอนุญาตนำเที่ยวในกรุงลอนดอนด้วย “ผมมีความหลากหลายกว่า”

ไม่ใช่แค่ลอนดอน แต่ Uber มีปัญหากับทุกประเทศทั่วโลก

หากได้อ่านข่าวทั้งหมดด้านบนแล้วอาจจะคิดว่าทำไมแพทเทิร์นนี้ถึงช่างละม้ายคล้ายคลึงกับประเทศไทยเหลือเกิน แค่เปลี่ยนคำว่าลอนดอนเป็นประเทศไทย ก็แทบจะไม่มีความแตกต่าง สาเหตุหนึ่งเพราะว่า กฎหมายของกรมการขนส่งทั่วโลกนั้น แบ่งใบขับขี่ไว้ 2 แบบคือ แบบรถยนต์ส่วนตัว และรถยนต์สาธารณะ ซึ่งความยากง่ายในการสอบต่างกันและกฎระเบียบรวมถึงความรับผิดชอบก็ต่างกัน ไหนจะเรื่องการจดทะเบียนของรถยนต์สาธารณะ ที่แท็กซี่จะมีค่าต่อทะเบียนและตรวจสภาพที่แพงกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลอีก และปัญหาในด้านการประกันภัย ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุประกันจะไม่จ่ายชดเชย ฐานนำรถไปใช้ผิดประเภทด้วย การเข้ามาของอูเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม ก็จะติดขัดข้อกฎหมายนี้ทั้งสิ้น

เพราะมันไม่ใช่ Car pool หรือทางเดียวกันไปด้วยกัน แต่เป็นการเอารถส่วนบุคคล มาเป็นรถสาธารณะเพื่อใช้ทำมาหากิน ดังนั้นหากประเทศไหนอนุญาตให้อูเบอร์ประกอบกิจการได้ ก็หมายความว่า รถยนต์สาธารณะก็ไม่จำเป็นต้องต่อใบอนุญาตอีกต่อไป แต่หากกฎหมายยังบังคับให้รถยนต์สาธารณะต้องต่อใบอนุญาต อูเบอร์ก็ไม่สามารถประกอบกิจการได้

Image credit: mgronline.com

ปัญหาของแท็กซี่ก็เหมือนกันทั่วโลกเช่นกัน

มีจำนวนเยอะ วิ่งเต็มถนน แต่ไม่ยอมรับคน อ้างไปส่งรถและเติมแก๊ส จ้องจะรับแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ไกล ๆ ไม่ไป ชอบวิ่งใกล้ ๆ ไม่ชอบรถติด หยาบคายกับผู้โดยสาร โกงมิเตอร์ ฯลฯ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้โดยสารไม่ชอบแท็กซี่ และเป็นความอัดอั้นมาช้านาน เมื่อมีอูเบอร์เข้ามา และบริการดีกว่า แม้จะแพงกว่าเล็กน้อยก็ยินดีจ่าย

 

แนวทางแก้ปัญหา ต้องแยกเป็น 3 ส่วน

แท็กซี่ไทยดี ๆ ก็มีให้เห็นมากมาย รู้หรือไม่ว่า แท็กซี่ที่บริการดีนั้น แทบจะไม่ต้องวิ่งหาผู้โดยสารเลย เพราะเขามีคิวงานแน่นตลอดเวลา เพราะอะไร? คนไทยยึดหลักไว้เนื้อเชื่อใจ ถ้าใช้บริการใครแล้ว รู้สึกสบายใจ ปลอดภัย อบอุ่น ก็จะขอเบอร์โทรเก็บไว้ เพื่อเรียกใช้บริการแบบประจำในภายหลัง ซึ่งแท็กซี่ที่บริการดี ๆ ทำแบบนี้มานานแล้วก่อนจะมีอูเบอร์ เมื่ออูเบอร์เข้ามาจึงไม่เคยเดือดร้อน “ผมไม่กลัวอูเบอร์หรอกครับ มีแต่แท็กซี่แย่ ๆ เท่านั้นแหละครับที่ต้องกลัว” ลุงแท็กซี่คนหนึ่งได้กล่าวไว้ 

ในฝั่งของผู้โดยสาร จริง ๆ แล้วไม่ได้สนใจว่า จะเป็น Sharing Economy หรือไม่ ใครจะเป็นเจ้าของรถ จะมีใบขับขี่สาธารณะไหม หรือเป็นรถสาธารณะหรือรถส่วนตัว ผู้โดยสารสนแค่เรียกแล้วต้องไป และราคาเป็นมาตรฐาน รู้ราคาก่อนขึ้นไปนั่ง หรืออย่างน้อยก็เห็นมิเตอร์ที่ขึ้นตามจริงไม่โกง ดังนั้น หากเจอคนขับแท็กซี่ที่คุณภาพดี จึงมักจะขอเบอร์ไว้ติดต่อกันภายหลัง ซึ่งแท็กซี่ประเภทนี้หายากกว่าอูเบอร์เสียอีก

ในฝั่งของผู้ขับอูเบอร์ อย่างที่ได้อ่านเนื้อหาด้านบนไปแล้ว หลายประเทศทั่วโลก คนขับอูเบอร์ได้รับค่าตอบแทนต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเนื่องจากอูเบอร์ต้องการทุ่มตลาดก่อน เพื่อ Disrupt หรือทำลายอุตสาหกรรมเดิม คือแท็กซี่ท้องถิ่น เพื่อให้เหลือแต่ อูเบอร์ แล้วค่อยขึ้นราคา แต่กว่าจะถึงวันที่ว่านั้น คนขับอูเบอร์เองจะทนได้นานแค่ไหน บางคนขับเป็นงานอดิเรก แต่บางคนลงทุนไปออกรถเพื่อมาขับเต็มเวลา หากเป็นแบบที่สองนี้ ก็ควรขับแท็กซี่แบบจริงจังโดยสอบใบอนุญาตขับขี่สาธารณะจะดีกว่า และหากบริการดี ก็จะมีลูกค้าเรียกใช้บริการประจำเอง แท็กซี่บางคนมีคิวยาวตลอดทั้งปีเลยทีเดียว


และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้

หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใครceo premium content

Resource: