jack ma

10 ความล้มเหลวที่ Jack Ma เผชิญก่อนที่จะขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอย่างเฉกเช่นทุกวันนี้

เมื่อใดก็ตามที่เราได้เห็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งประสบความสำเร็จในชีวิต มีชื่อเสียงโด่งดัง มีเงินทองและทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล เราอาจจะคิดว่า นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทำได้ ใน 1 ชั่วอายุคน และคนคนนั้นคงโชคดี ที่สามารถประสบความสำเร็จได้มากขนาดนั้น เขาอาจจะมีโอกาสที่ดี หรือรู้จักเส้นทาง เส้นสายที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจ

แต่เราไม่เคยเห็นอีกด้านของความสำเร็จ ด้านที่อยู่ในมุมมืด ด้านที่อยู่เบื้องหลังของมหาเศรษฐีเหล่านั้น ว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง และสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเบื้องหน้าของความสำเร็จนั้น เบื้องหลังคือความล้มเลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า มากมายนับไม่ถ้วน ยิ่งความสำเร็จมากเท่าไหร่ ความล้มเหลวที่เคยผ่านมายิ่งมากกว่านั้นหลายร้อยหลายพันเท่า แล้วมหาเศรษฐี ล้านล้านบาท อย่าง แจ็ค หม่า มีบาดแผลบนแผ่นหลังมากมายแค่ไหน ผ่านความล้มเหลวขนาดไหนถึงก้าวมาสู่จุดนี้ได้

หากจะหาใครที่รู้จักกับความล้มเหลวได้ดีที่สุด หนึ่งในนั้นคือ แจ็ค หม่า ผู้ที่เกิดในครอบครัวที่ยากจน รายได้ของทั้งครอบครัวเพียง 7 ดอลลาร์ต่อเดือนเท่านั้น

1. แจ็ค หม่า ไม่ใช่คนหัวดีตั้งแต่เด็ก เขาสอบข้อเขียน ในการสอบเข้าเรียนหลายครั้งกว่าจะสอบได้ ทั้งวัยประถม และมัธยม ไม่มีครั้งไหนที่สอบแล้วได้ทันที ต้องมีการสอบแล้วสอบอีกเสมอ ๆ

2. ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในวิชาคณิตศาสตร์ แจ็ค หม่า ทำได้เพียง 1 คะแนน จาก 120 คะแนน ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะไม่มีเวลาเตรียมตัว แต่เพราะเขาไม่ถนัดในการคำนวณ

“ผมไม่เก่งเลข และไม่เคยเรียนด้านการบริหาร แล้วก็อ่านรายงานทางบัญชีไม่เป็นด้วย” แจ็ค หม่า เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ

3. แจ็ค หม่า ถูกปฏิเสธจากมหาวิทยาลัย Harvard 10 ครั้ง นี่เป็นตัวอย่างของความพยายาม ที่ไม่ยอมแพ้ แม้ เขาจะสมัครไปหลายมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะลองสมัครไปที่ Harvard ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในที่สุด เขาก็เข้าเรียนที่ Hangzhou Normal University ซึ่งเป็นที่ที่ทำให้เขาพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ

4. แจ็ค หม่า ถูกปฏิเสธงานถึง 30 ครั้ง หลังจากเรียนจบเขาก็ได้ยื่นสมัครงานไปหลายแห่ง แต่ทุกแห่งปฏิเสธเขาหมด เขายื่นสมัครแม้กระทั่งสมัครเป็นนายตำรวจ และเสียเวลาเฝ้ารอคำตอบทั้งวัน ซึ่งคำตอบที่ได้นั้นคือการปฏิเสธ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือ เขา “ยังไม่ดีพอ” แต่สิ่งที่เขายึดถือไว้เป็นกำลังใจ คือประโยคหนึ่งจากภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump คือ “วันนี้มันจะเลวร้าย พรุ่งนี้มันจะเลวร้ายยิ่งกว่า แต่วันถัดไป ท้องฟ้าจะสดใส มันจะเป็นวันที่งดงาม”

5. แจ็ค หม่า สมัครงานที่ KFC ก็ถูกปฏิเสธ และเป็นการถูกปฏิเสธที่เจ็บปวดที่สุด เนื่องจาก ในวันที่เขาสมัครเข้าทำงานที่ KFC นั้น มีผู้สมัครทั้งหมด 24 คน ซึ่งมี 23 คน ได้รับเข้าทำงาน แต่มีเพียง หม่า คนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ได้รับเลือก

6. แจ็ค หม่า ไปสมัครงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในโรงแรม 4 ดาว พร้อมกับญาติของตัวเอง  แม้ว่าญาติของเขาจะได้รับคะแนนน้อยกว่า แต่กลับได้รับเลือก ส่วน แจ็ค หม่า ที่ได้คะแนนมากกว่า กลับถูกปฏิเสธ

7. แจ็ค หม่า เริ่มต้นธุรกิจคล้าย ๆ สมุดหน้าเหลือง ก่อนที่จะทำอาลีบาบา และล้มเหลวอย่างหนัก แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้เขาหยุดความพยายามได้

8. แจ็ค หม่า เป็นนักระดมทุนที่แย่ที่สุด เขาจัดการระดมทุนขึ้นมาเองเพื่อก่อตั้ง อาลีบาบา ในห้องเช่าในอพาร์ทเม้นท์ โดยชวนเพื่อน ๆ มาทั้งหมด 17 คน และอธิบายวิสัยทัศน์ให้กับทุกคน แต่หลังจากพูดจบ ไม่มีใครฟังสิ่งที่เขาพูดเข้าใจเลย และ เขาได้กล่าวในสิ่งที่คนจะระดมทุนไม่คิดจะพูดคือ “ในห้องนี้ไม่มีใครที่จะเป็นผู้บริหารได้เลย” และเขาก็จะจ้างผู้บริหารจากภายนอก

แม้ว่าจะระดมทุนมาได้ $60,000 ดอลลาร์ก็ตาม แต่อาลีบาบา ในช่วงแรก มีแต่รายจ่าย และไม่สามารถทำกำไรได้เลยตลอด 3 ปีที่ก่อตั้ง

9. แจ็ค หม่า ไม่สามารถ ระดมทุนจาก Silicon Valley ได้ ซึ่งในตอนนั้นบริษัทกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ เขาล้มเหลวมากมาย และบริษัทไม่สามารถทำกำไรได้ และกำลังจะล้มละลายในอีก 18 เดือนข้างหน้า

แจ็ค หม่า กล่าวว่า “ผมยังจำได้ดีในวันที่เราไม่มีรายได้เข้ามาเลย เวลาไปกินอาหารที่ร้าน เจ้าของร้านจะออกมาและบอกว่า คุณหม่าไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าอาหารนี้ เพราะผมเป็นลูกค้าของคุณ ผมทำกำไรจาก อาลีบาบา มากมายเลย แต่ผมรู้ว่าคุณไม่มีรายได้จากกำไรของผมเลย ดังนั้นมื้อนี้คุณไม่ต้องจ่ายก็ได้”

เชื่อว่านักลงทุนใน  Silicon Valley คงเสียดายมาก ที่วันนั้นปฏิเสธแจ็ค หม่าไป

10. แจ็ค หม่า ถูกปฏิเสธจากทุกธนาคารในประเทศจีน ไม่มีใครอยากเข้าร่วมการรับชำระเงินผ่านเว็บไซต์ อาลีบาบา ของเขา เขาจึงต้องคิดหาวิธีการชำระเงินที่ง่ายและสะดวก จึงเกิด Alipay ขึ้นมา ซึ่งในตอนแรกนั้น ใครได้ฟังไอเดียนี้ก็หาว่าเขาบ้า และต้องโง่สุด ๆ แต่ขณะนี้ มีผู้ใช้ Alipay กว่า 800 ล้านคน

ไม่มีใครรู้ว่าความสำเร็จรอเราอยู่ตรงจุดไหน แต่ที่แน่ ๆ เส้นทางสู่ความสำเร็จ มักอยู่ระหว่างการก่อสร้างเสมอ มักจะเป็นทางขรุขระ ที่คุณจะต้องฝ่าไปเท่านั้น เส้นทางที่ แจ็ค หม่า เดินผ่านมา สำหรับคนทั่วไปแล้ว สามารถจอดพัก หรือยอมแพ้ได้ทุกช่วงเวลา ถ้ายอมแพ้กับการสอบเข้าโรงเรียน แล้วไม่เรียนต่อตั้งแต่ประถม หรือถ้ายอมแพ้ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย คงไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษ หากสมัครงานแล้วมีบริษัทรับเขาเข้าทำงาน หรือเขาสอบเป็นตำรวจได้ เส้นทางชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปตลอดกาล หาก KFC รับเขาเพิ่มอีกคน วันนี้เขาคงยืนขายไก่ทอด ไม่สามารถกลับมาซื้อกิจการ KFC ในจีนทุกสาขาได้  หากโรงแรมแห่งนั้นรับเขาเข้าทำงานแทนญาติของเขา เขาก็อาจจะยังเป็นเพียงพนักงานเสิร์ฟ

แต่เพราะเขาสมัครงานก็ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน จึงต้องไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ จนได้รับมอบหมายให้ไปเป็นไกด์นำเที่ยว และเพราะเหตุนี้เอง เขาจึงได้รู้จักกับ Jerry Yang นักธุรกิจหนุ่มชาวจีน ผู้ก่อตั้ง Yahoo ในอเมริกา เขากลับมาเที่ยวประเทศจีน และ แจ็ค หม่า เป็นไกด์นำเที่ยวให้เขา ทั้งสองคนคุยกันด้วยภาษาอังกฤษ และได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน สิ่งที่ Jerry Yang ถ่ายทอดให้ แจ็ค หม่า ได้เปิดโลกใบใหม่ และนำทางไปสู่อาลีบาบา 10 ปีต่อมา Jerry Yang อ่านข่าวการกำเนิดของดาวรุ่งดวงใหม่แห่งวงการอินเทอร์เน็ต ชื่อนั้นคือ อาลีบาบา และเขาประหลาดใจมาก เมื่อผู้ก่อตั้งอาลีบาบานั้น ช่างคุ้นหน้าเหลือเกิน และ Jerry Yang ยิ่งตะลึงมากขึ้นไปอีก เมื่อรู้ว่า เป็นคนเดียวกับ แจ็ค หม่า ไกด์นำเที่ยวเมื่อ 10 ปีก่อน หากเขาระดมทุนได้ที่ Silicon Valley ก็คงไม่ดิ้นรนจนกลับมาพบกับ Jerry Yang จนนำไปสู่ดีลประวัติศาสตร์ ที่ Yahoo เป็นผู้ลงทุนหลักในอาลีบาบา ซึ่งจากการลงทุนนั้นเอง ทำให้มูลค่าหุ้นที่ Yahoo ถืออยู่ในอาลีบาบา มีมากกว่ามูลค่าของ Yahoo ทั้งบริษัท ก่อนที่ Yahoo จะล่มสลายและถูกซื้อกิจการไปในที่สุด ซึ่งหุ้นที่ Yahoo ถืออยู่ในอาลีบาบานั้น ยังมีมูลค่ามหาศาลมากและยังไม่ได้ขายออกไป

Jerry Yang and Jack Ma
Image credit: forbes

ความสำเร็จรอเราอยู่ที่จุดไหน ไม่มีใครตอบได้ แต่สิ่งที่ แจ็ค หม่า แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์คือ เขาไม่เคยยอมแพ้ และไม่เคยละความพยายาม ตั้งหน้าตั้งตาทำ โดยไม่มีข้ออ้าง หรือข้อแม้ ไม่สนใจข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น

“หากคุณไม่ยอมแพ้ คุณยังมีโอกาสเสมอ
การยอมแพ้เป็นความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

Jack Ma


และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ทาง CEO Blog ของเรานั้น ได้เปิดโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content แบบพรีเมี่ยมด้านการค้าปลีกออนไลน์ ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมแล้ววันนี้

หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใคร รับรองได้เลยว่าเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใคร

ceo premium content

Resources: