ขาลง SnapChat โดน Instagram ไล่ยึดส่วนแบ่งตลาดแบบกู่ไม่กลับ

SnapChat แอปพลิเคชั่นสายโซเชียลเน็ตเวิร์คยอดนิยมในหมู่วัยรุ่นกำลังประสบปัญหาการเติบโตหลังจาก Instagram และ Facebook จับมือกันเปิดตัวบริการแบบเดียวกับ SnapChat

SnapChat แอปพลิเคชั่นประเภท โซเชียลเน็ตเวิร์ค เน้นการถ่ายรูปหรือวีดีโอสั้น ๆ และโพสต์เข้าไปในระบบสังคมเครือข่าย SnapChat โดยโพสต์ต่าง ๆ จะมีอายุ 24 ชั่วโมงก่อนจะถูกลบโดยอัตโนมัติออกจากระบบ เปิดตัวในปี 2011 ความง่ายในการเล่น และอาศัยหลัก Sense of Urgency ที่บังคับให้เพื่อน ๆ ในเครือข่ายต้องรีบดูก่อนโดนลบ จึงเป็นที่ถูกใจของวัยรุ่นและเติบโตอย่างรวดเร็ว และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NYSE ในเดือน มีนาคม 2017 ด้วยฐานผู้ใช้งาน Monthly active user ประมาณ 166 ล้านบัญชี ในเวลาดังกล่าว 

แต่ในปีเดียวกัน Instagram แอปพลิเคชั่นโซเชียลเน็ตเวิร์คแชร์รูปถ่าย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Facebook และมีฐาน Monthly active user ประมาณ 700 ล้านบัญชี ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันก็เปิดตัว IG Story (ซึ่งพัฒนามาตั้งแต่ปี 2016) และด้วยพลังของ User ที่มากกว่าทำให้ IG Story ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ Facebook จะเปิดตัว Facebook Story ในเวลาต่อมา ส่งผลให้ธุรกิจ SnapChat สะเทือนอย่างหนักนับแต่นั้นมา

ล่าสุด Anthony DiClemente นักวิเคราะห์จาก Evercore ISI ได้ให้ความเห็นต่อสื่อ Investopedia ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ SnapChat เสียศักยภาพในการแข่งขันแบบกู่ไม่กลับ Instagram ได้พลังจาก Facebook ส่งผลให้การเติบโตของคนที่เข้ามาเล่น IG Story โตเร็วกว่า Snapchat ถึง 6 เท่าตัว ในขณะที่ Engagement ของผู้ใช้งาน Snapchat ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 7%

ผลการดำเนินงานที่แย่ลงนับตั้งแต่ Facebook และ Instagram เปิดตัวบริการดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในอนาคตของธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของ Snapchat ส่งผลให้ราคาหุ้น Snapchat เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2018 ร่วงลงมาที่ 7 เหรียญเศษ ๆ ต่อหุ้นเทียบกับราคาหุ้นในวัน IPO ที่ 17 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะลงมาปิดที่ 9 เหรียญ

ตลอดปี 2018 มูลค่ากิจการ Snapchat ลดลงไปกว่า 46%