Abu Dhabi ลงทุน 100 ล้านดอลล่าร์ พัฒนาเทคโนโลยี ‘เกษตรกรรมแนวดิ่ง’ เตรียมลดการนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ

Abu Dhabi ลงทุน 100 ล้านดอลล่าร์ พัฒนาเทคโนโลยี ‘เกษตรกรรมแนวดิ่ง’ เตรียมลดการนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ

วันที่ 4 เมษายน.ค.ศ. 2020 องค์กร Abu Dhabi Investment Office หรือ ADIO หน่วยงานของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการลงทุนใน รัฐอาบูดาบิ เผยว่าจะมีการลงทุนจำนวน 100 ล้านดอลล่าร์ ในกลุ่มธุรกิจ Agriculture Technology หรือ AgTech จำนวน 4 บริษัท เพื่อพัฒนารัฐฯ สามารถทำการเกษตรแนวดิ่ง หรือ Vertical farming เพื่อลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

อาบูดาบิ รวมไปถึงรัฐอื่น ๆ ใน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งอยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง โดยประมาณ 80% เป็นทะเลทราย อันมีทรัพยากรธรรมชาติที่แสนจำกัด ส่งผลให้เครือรัฐต้องนำเข้าสินค้าและอาหารจากต่างประเทศสูงถึง 80%




ทั้งนี้เครือรัฐต่างตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ เครือรัฐจึงเริ่มหันมาพัฒนา เทคโนโลยีการเกษตร หรือ AgTech อย่างจริงจัง เพื่อให้สามารถผลิตอาหารภายใต้ทรัพยากรอันแสนจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสำหรับงบประมาณ 100 ดอลล่าร์แรกของ อาบูดาบิ รอบนี้ — ADIO จะนำไปลงทุนยัง 4 บริษัท ดังนี้

  • Madar Farms เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการปลูกมะเขือเทศในร่ม
  • Aerofarms เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรโดยรวม
  • RDI เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการปลูกพื้นบนดินทราย
  • RNZ เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาปุ๋ยประสิทธิภาพสูงสำหรับเพาะปลูกในพื้นที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยแต่ละบริษัทจะนำงบประมาณไปพัฒนาธุรกิจของตนต่อไปเพื่อทำให้ อาบูดาบิ สามารถพึ่งพาการผลิตอาหารภายในรัฐของตนเองได้ โดยไฮไลท์ของการพัฒนานี้ คือ เทคโนโลยี Vertical + Indoor farming หรือ การปลูกพืชแนวดิ่ง และเป็นการปลูกในร่มโดยใช้แสงสังเคราะห์จาก LED แทนแสงอาทิตย์ เป็นต้น

เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ แต่ยังจะช่วยประหยัดทรัพยากรน้ำได้อย่างมาก รวมไปถึงการลดการใช้ทรัพยากรปลูกสร้าง เพราะรัฐ มีแนวคิดที่จะใช้ โรงงานและอาคารรกร้างมา รีโนเวท ใหม่สำหรับทำ Vertical farming อีกด้วย

อ้างอิง : Fast Company