ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำงานอะไร มั่งคั่งในสินทรัพย์มากน้อยแค่ไหน แต่ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงต่อ 1 วันเท่ากัน แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากโลกนี้มีเครื่องมือในการคำนวณ เวลา ที่เราเชื่อว่าต้องมีจำนวนเท่ากันทุกคนให้เกิดมี ‘มูลค่า’ ไม่เท่ากันและสามารถออกเทรดเวลาได้เหมือน เทรดหุ้น!
ที่ผ่านมาเรารู้ดีว่า เวลา ของแต่ละอาชีพมีมูลค่ามากน้อยต่างกันอยู่แล้ว และเรามักซื้อขายเวลาในรูปแบบของการรับจ้างสั่งซื้อบริการเฉพาะทางจากผู้ให้บริการต่าง ๆ อาทิ รับจ้างแรงงาน รับจ้างถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอ รับจ้างออกแบบกราฟฟิค ฯลฯ ไปจนถึงรับจ้างปรึกษาและวางกลยุทธ์ธุรกิจระดับลึก ๆ ซึ่งอย่างแรกอาจมีมูลค่าน้อย และอย่างหลังมีมูลค่ามาก มูลค่าของการรับจ้างเหล่านี้อาจอยู่ที่ชั่วโมงละไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงชั่วโมงละหลักหมื่นบาท เป็นต้น
ความต้องการในการซื้อขายเวลาในรูปแบบของการรับจ้างจึงนำไปสู่สื่อกลางการซื้อขายบริการเฉพาะทางอย่าง FastWork ของไทย หรือในต่างประเทศได้แก่ Freelancer, UpWork, และ Fiverr เป็นต้น ซึ่งจะมีผู้ให้บริการมาลงประกาศ เช่น
“ฉันจะทำคลิปวีดีโอแบบ Whiteboard Story ของนักธุรกิจที่คุณกำหนด ความยาว 5 นาทีในราคา x,xxx บาท กำหนดส่งภายในระยะเวลา x วัน” หลังจากชำระเงินแล้ว เป็นต้น
แต่ล่าสุดที่ประเทศญี่ปุ่นเปิดตัวแพลตฟอร์มแปลกใหม่และน่าทึ่งในแนวคิดชื่อว่า Timebank ก่อตั้งโดยบริษัท Metaps Inc. บริษัทด้านการเงินยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ที่เชี่ยวชาญธุรกิจการเงินและกำลังรุกตลาด Fintech โดยใช้ AI ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้เปิดตัว Timebank ไปเมื่อปลายปี ค.ศ. 2017
หลักการของ Timebank คือ คุณสามารถกำหนดได้ว่า คุณจะขาย ‘เวลา’ ครั้งละเท่าไหร่ และจะนำเวลาออกขายทั้งหมดกี่ครั้ง เช่น
ขายเวลาครั้งละ 30 นาที เพื่อสอนภาษาจีนผ่าน Skype และจะขายทั้งหมดเพียง 50 ครั้ง เท่านั้น (เวลารวมก็คือ 25 ชั่วโมง หรือ 1500 นาที) ระบบของ Timbank ก็จะประเมินราคาเวลาให้คุณ แต่จะประเมินราคาเป็น ‘วินาที’ เช่น หลังจากวิเคราะห์แล้ว เวลาของคุณมีค่า วินาทีละ 20 เยน ดังนั้น มูลค่าทั้งหมดของคุณคือ 1.8 ล้านเยน นั่นเอง!
การทำงานและทำเงินของ Timebank
หลังจากที่ตกลงการออกเวลาแล้ว ก็จะนำเข้าสู่ตลาดซื้อขายเวลา โดย Timebank จะนำเวลาของคุณไปย่อยให้เป็นหน่วยวินาที โดยหน่วยที่เล็กที่สุดที่สามารถทำการซื้อขายได้คือ 10 วินาที และไม่ใช่ทุกคนที่จะทำการซื้อได้ เพราะระบบจะทำการสุ่ม คนซื้อ และคำสั่งซื้อจะต้องไปจับคู่กับคำสั่งขาย (ต้องมีความต้องการซื้อและขายในจำนวนที่เท่ากัน)
ดังนั้น หากมีคนซื้อเวลาได้มาเพียง 10 นาที เขาก็จะต้องรอสุ่มรอบต่อไป หรือไม่ก็ไปซื้อต่อจากคนอื่นที่ซื้อได้ และจากจุดนี้เอง เวลาที่มีคนต้องการมาก ๆ ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น จาก วินาทีละ 20 เยน ก็อาจจะพุ่งสูงถึงวินาทีละ 500 เยนก็เป็นได้ และในทางกลับกัน มูลค่าของเวลาที่มีคนซื้อไปนั้น ก็มีโอกาสที่จะลดลงได้เช่นกัน มีการปั่นราคา และมีคนติดดอย เช่นเดียวกับการเทรดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทุกประการ แต่ครั้งนี้เป็นการเทรดเวลาในระบบของ Timebank เท่านั้น
หลักการของ Timebank ทำให้เวลาที่มีค่าอยู่แล้ว กลับมีค่ามากขึ้นไปอีก และเพียงคุณเป็นคนที่มีความสามารถ หรือมีชื่อเสียงในวงการของตนเอง ก็สามารถเปิดขายเวลาได้ เหมือนกับนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เปิด IPO ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว โดย Timebank มีรายได้จากเปอร์เซ็นต์จากการ ซื้อ/ขายหน่วยเวลา ส่วนเจ้าของเวลาก็ได้เงินจากการออกขายครั้งแรก (ครั้งเดียวเหมือนตอน IPO) คนที่ซื้อเวลาในตลาด ก็สามารถนำไปขายต่อ หรือจะ hold ถือครองไว้ก็ได้ จนกว่าจะครบอายุสัญญา (แต่ไม่มีปันผลเหมือนหุ้นเท่านั้นเอง)
เสน่ห์ของโมเดลทำเงินจากเวลานี้เองทำให้ Timebank หลังเปิดตัวเพียง 50 วัน มีมูลค่าการซื้อขายเวลาในระบบสูงถึง 5.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจากปริมาณการซื้อขายที่มากมายขนาดนี้ ทำให้ Metaps Inc. เดินหน้าต่อไป โดยการประกาศระดมทุนผ่าน ICO หรือ ‘Timebank Initial Coin Offering’ โดยจะเปิดขาย Token ผ่าน comsa.io แพลตฟอร์มการลงทุน ICO ที่มีผู้ใช้กว่า 2.2 แสนคนทั่วโลก ซึ่งโดยปกติแล้วการออก ICO ไม่จำเป็นต้องชี้แจงรายละเอียดและผลการดำเนินงาน เพราะไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์เหมือนการทำ IPO แต่ Metaps Inc. พร้อมที่จะชี้แจงเพื่อความโปร่งใสในการดำเนินงาน
ไม่ใช่ทุกคนที่ออกขายเวลากับ Timebank ได้
การที่คุณจะสามารถออกขายเวลากับ Timebank ได้นั้น คุณต้องเป็นมืออาชีพในด้านใดด้านหนึ่งจริง ๆ (ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นมีเยอะมาก ที่เชี่ยวชาญในเรื่องเฉพาะทาง) คุณสามารถสมัครได้ แต่อาจจะไม่ได้รับเลือกหรือไม่ได้รับการอนุมัติ ดังนั้นหากต้องการที่จะเป็นผู้ออกเวลา คุณจะต้องมั่นใจว่า ‘มีของ’ พอตัว
ระบบนี้จะพลิกเศรษฐกิจอย่างไร
เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า การทำให้เวลาที่มีค่าอยู่แล้วของกลุ่ม ‘มืออาชีพ’ ให้กลับมีค่ายิ่งขึ้นกว่าเดิม แถมยังหาเปอร์เซ็นต์ได้ทุกครั้งจากการเพิ่มหรือลดมูลค่าของเวลานั้น ๆ ด้วย ช่างเป็นระบบที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง แล้วคนออกเวลาจะได้อะไร ถ้าราคาเวลาในตลาดพุ่งสูงขึ้น?
มันก็ไม่ต่างจากที่คุณนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ เพราะคุณจะมีเวลาที่เหลืออยู่ ที่ยังไม่ได้ขายออกไป แม้ราคาในวันที่ออกขาย (เหมือนวัน IPO) จะมีราคาไม่มาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปมีการเทรด (หรือปั่น) จนราคาพุ่งขึ้น มูลค่าเวลาที่คุณถือครองอยู่ ก็จะพุ่งขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง และการขายระลอกหลังนี้ มันจะมีมูลค่ามากกว่าวันแรกหลายสิบหรือหลายร้อยเท่า
เมื่อมีการเทรด ทุกอย่างก็จะเหมือนตลาดหุ้น มีแมงเม่า มีเจ้า มีการปั่น มีการทุบ มีคนที่ต้องการซื้อไปใช้จริง ๆ กับมีคนแค่ต้องการเข้ามาเทรดเพื่อทำกำไรแล้วจากไป มีข่าววงใน มีข่าวลับข่าวลวง ทุกอย่างเหมือนวงการหุ้นไม่ผิดเพี้ยน
แค่เพียงเปิดขายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ยังมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (165 ล้านบาท) และจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าโมเดลนี้เป็นสากลขึ้นมา และมีการเทรดจากทั่วโลก โดยไร้พรมแดน หากมีดาราฮอลลีวูด นำเวลาส่วนตัวออกขาย ให้ Skype แบบส่วนตัวครั้งละ 10 นาที จำนวน 100 ครั้ง ซึ่งจะเอามาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ จะมีคนแย่งกันเทรดมากมายขนาดไหน หรือหากคุณเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ การที่คุณจะให้คำปรึกษาในช่องทางเดิม ๆ อาจจะทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นได้ไม่มากนัก และมีโอกาสว่ามูลค่าอาจจะน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่หากคุณสามารถออกขายเวลาได้ มูลค่าก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องทำงานหนักมากเหมือนรูปแบบเดิม ๆ
Timebank อาจเปลี่ยนโลกอนาคตของการซื้อขายบริการเฉพาะทาง
จึงนับได้ว่า Timebank จะเป็นระบบที่จะมาปฏิวัติการทำงานในอนาคต ที่ไม่จำกัดว่าจะต้องเข้างาน 9 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็นอีกต่อไป หากคุณเป็นมืออาชีพ คุณสามารถกำหนดเวลาที่จะทำงานได้ และเวลานั้นจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ราวกับคุณสามารถนำตัวคุณเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้เลยทีเดียว จากพนักงานประจำ หรือแค่รับจ้างงานอิสระ จะกลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าโดยไม่ต้องมีสำนักงานหรือไม่ต้องมีหน้าร้านใดๆเลยด้วยซ้ำ
การปรับมุมคิดเพียงนิดเดียวสามารถทำให้เกิดอิมแพคได้อย่างมหาศาล ทั้ง ๆ ที่โมเดลของตลาดหลักทรัพย์นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย การระดมทุนในรูปแบบของการออกขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้นมีมานานมากแล้ว ส่วนการให้มืออาชีพมารับงานฟรีแลนซ์ ก็มีคนทำมานานแล้วเช่นกัน แต่พอจับทั้งสองสิ่งนี้มารวมกัน จนกลายเป็น Ecosystem ใหม่ จากตัวกลางที่เคยจับคู่แค่คนที่ต้องการจ้างกับคนรับจ้าง กลายเป็นตัวกลางในการซื้อขายเวลาอย่างแท้จริง พลิกมุมคิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็ก่อให้เกิดรูปแบบเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ที่อาจจะเขย่าโลกทั้งใบในไม่ช้านี้
Source:
