ประวัติ Smiley โลโก้ ‘พันล้าน’ ที่ผู้ออกแบบได้ค่าจ้างเพียง 1 พันกว่าบาท

 

Smiley โลโก้วงกลมสีเหลืองสดใส พร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตรที่คนทั่วโลกคุ้นเคย คุณสามารถพบเห็นโลโก้นี้ได้ทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะบนเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และบนแอปพลิเคชั่นสติกเกอร์ในสมาร์ทโฟนของคุณ แต่รู้หรือไม่ว่า โลโก้ ที่แสนเรียบง่ายนี้สร้างรายได้ให้เจ้าของลิขสิทธิปีละหลายพันล้านบาท ในขณะที่ผู้ให้กำเนิดโลโก้นี้ แทบไม่ได้อะไรเลย!

ย้อนกลับไปปี ค.ศ. 1963 บริษัทประกันนามว่า State Mutual Life Assurance Company ได้ว่าจ้างชายนักออกแบบที่มีชื่อว่า ฮาร์วีย์ รอสส์ บอลล์ (Harvey Ross Ball) ช่วยออกแบบโลโก้ที่ช่วยปลุกขวัญและกำลังในการทำงาน

บอลล์ จึงได้ทำการบรรจงวาดรูปวงกลมวงใหญ่ ใส่ลูกตาเล็ก ๆ และรอยอมยิ้มกว้าง ๆ บนแผ่นกระดาษสีเหลือง โดยให้เหตุผลว่า ‘สีเหลืองแทนวันฟ้าใส และรอยยิ้มอารมณ์ดี’ (sunshiny and bright)




โลโก้ในตำนานที่ใช้เวลาสร้างเพียง 10 นาที

บอลล์ ใช้เวลาออกแบบเพียง 10 นาที กับค่าจ้างเพียง 45 ดอลล่าร์ หรือ ประมาณ 1,350 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้สำหรับเกือบ 6 ทศวรรษก่อนอาจมีค่าเทียบเท่าค่าจ้างออกแบบประมาณ 8 – 9 พันบาทในปัจจุบัน

บริษัทประกันผู้ว่าจ้างได้นำต้นแบบไปผลิตเป็นเข็มกลัดแจกจ่ายแก่พนักงานกลัดเสื้อออกไปหาลูกค้า ทำให้โลโก้นี้ถูกพบเห็นและจะเป็นที่หลงใหลออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ แต่ทั้ง ผู้ออกแบบ และ ผู้ว่าจ้าง ต่างไม่มีใครฉุกคิดเรื่องการจดลิขสิทธิ์จนกระทั่ง นักเขียนข่าวชาวฝรั่งเศษนามว่า แฟรงค์ลิน ลูฟรานิ (Franklin Loufrani) ได้เข้ามาฉุบมือเปิปไป

ปี ค.ศ. 1971 แฟรงค์ลิน ลูฟรานิ ได้ทำการจดลิขสิทธิ์ โลโก้ดังกล่าวภายใต้ชื่อยี่ห้อ Smiley พร้อมกับก่อตั้งบริษัท Smiley Company เพื่อขายลิขสิทธิ์การใช้ โลโก้ ดังกล่าวในทางการค้า

ปัจจุบัน Smiley Company ยังคงบริหารงานโดยทายาทตระกูล ลูฟรานิ และมีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์การใช้โลโก้ Smiley จากบริษัทใหญ่ ๆ อาทิ Levi’s, Mars Candy, Zara, และ Fendi เป็นต้น โดยปี 2016 บริษัทมีรายได้สูงถึง 185 ล้านยูโร หรือประมาณ 6,475 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทประกันผู้เสียเงินว่าจ้างออกแบบไม่มีกรรมสิทธิ์ใด ๆ ในโลโก้นั้นเลย

เหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้เคยเกิดขึ้นกับโลโก้ Nike

ปี ค.ศ. 1971; ฟิล ไนท์ (Phil Knight) ว่าจ้างนักศึกษากราฟฟิกดีไซน์นามว่า คาโรลีน เดวิดสัน (Carolyn Davidson) ทำการออกแบบโลโก้ให้ธุรกิจผลิตรองเท้าที่เขากำลังจะเปิดตัว โดยให้โจทย์การออกแบบว่าเขาต้องการ สัญลักษณ์แห่งการเคลื่อนไหว

ผ่านไป 2 สัปดาห์ ฟิล ไนท์ ได้รับแบบโลโก้หลายตัวเลือก แต่ทั้งหมดออกแบบจากทรงเดียวกัน คือ รูปทรงคล้ายเครื่องหมายถูก ซึ่งเขาเรียกมันว่า ทรงสายฟ้าฟาดที่ดูอุ้ยอ้าย ก่อนจะให้ นักศึกษาคนนั้นกลับไปทำมาใหม่

ผ่านไปอีกสัปดาห์ เขาได้แบบใหม่ ๆ กลับมาซึ่งดูดีขึ้น และเขาเลือกรูปแบบ ทรงเครื่องหมายถูกที่ดูดีที่สุดจากตัวเลือกทั้งหมด — หาใช่เพราะเขาชอบมัน แต่เพราะเขาไม่มีเวลาที่จะรอการแก้ไขโลโก้ใหม่อีกแล้ว

แต่ผลปรากฏว่า ตลาดกลับชอบและจดจำโลโก้นั้นได้เป็นอย่างดี และได้กลายมาเป็น สัญลักษณ์สุดคลาสิกของแบรนด์ Nike ถึงปัจจุบัน

วันนี้ Nike มีมูลค่ากิจการสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ และ ฟิล ไนท์ จ่ายค่าออกแบบโลโก้ดังกล่าวไปเพียง 35 ดอลล่าร์ เท่านั้น

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ประวัติ Phil Knight ผู้ก่อตั้ง Nike 

อ้างอิง : CNBC 1, CNBC 2