วิเคราะห์แนวทางสร้างรายได้อินเตอร์เน็ตแบบ Passive Income

passive income beach

ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่หันมาสนใจ IM (Internet Marketing) เพราะต้องการหาช่องทางรายได้ไม่ว่าจะเป็นรายได้เสริมนอกเวลางาน side-income หรือรายได้หลัก full-time ผ่านทางอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องลงแรงทำงานเพิ่มเป็นทวีคูณแบบในสมัยก่อนที่คนอยากมีรายได้เสริมก็ต้องไปรับงานเสิร์ฟอาหารหรือขับแท็กซี่หรือทำโอที ฯลฯ การมีรายได้เพิ่มโดยไม่ต้องลงแรงทำงานเพิ่มแต่ใช้เครื่องมือหรือระบบเข้าทำงานและทำเงินแทนเรานี้เรียกว่า Passive Income

เจ้า Passive Income นี้มีคุณลักษณะเด่นในความสามารถทำงานทำเงินโดยตัวมันเองและทำงาน 24 ชั่วโมงแม้แต่ตอนเราหลับใหล พักผ่อน หรือลาพักร้อนยาวๆ อาทิ

  • การลงทุนในหุ้น 
  • การลงทุนแต่งห้องชุดให้เช่า
  • การลงทุนติดตั้งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ 
  • การลงทุนติดตั้งตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ
  • หรือแม้แต่การปล่อยเงินกู้ เหล่านี้เป็นตัวอย่างของ passive income

แต่จากตัวอย่างที่เห็น passive income หาใช่การไม่ต้องทำอะไรเลย แต่การจะเริ่มต้นสร้างระบบการทำเงินแบบ passive income ต้องอาศัยทุนเป็นรากฐาน เอาเงินต่อเงิน ส่งเงินไปทำงาน ให้เงินและสินทรัพย์ผลิตผลตอบแทนกลับมาหาเงินต้นผ่านช่วงระยะเวลาหนึ่ง

วิธีสร้างรายได้ Passive Income แบบดั้งเดิม (Traditional Ways)

หลักการสร้างรายได้แบบ passive income อยู่ที่เครื่องมือที่เราใช้ซึ่งให้ผลตอบแทนมากน้อยไม่เท่ากันรวมไปถึงระยะเวลาก็ต่างกันไป

Passive income จากการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน:
ได้แก่ หุ้น, หุ้นกู้ หรือ สินเชื่อเงินกู้ ให้ผลตอบแทนเป็น เงินปันผล ส่วนต่างราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่า และ/หรือ ดอกเบี้ย ผลตอบแทนจากหุ้นคุณภาพดีจ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ผลตอบแทนประมาณ 5-10% ต่อปีและอาจมีโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่า 100% ไปจนถึง 1000% ก็มีขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยผ่านระยะเวลานับสิบๆปี การลงทุนในหุ้นที่เรียกว่า Value investing จะมีความเป็น passive สุดๆ คือวิเคราะห์บริษัทที่สนใจเป็นอย่างดีแล้วเข้าซื้อหุ้นและถือยาวไปเลย อาทิ Warren Buffer เซียนหุ้นเบอร์หนึ่งของโลกที่ถือหุ้นบริษัทกันคราวละไม่ต่ำกว่า 10 ปีขึ้นไป แต่การลงทุนกับสินทรัพย์ทางการเงินก็ใช่ว่าจะไม่ต้องทำอะไรเลย การบ้านของคนคิดจะทำ passive income ด้านนี้คือการศึกษากิจการให้เป็น เข้าใจหลักการเงิน เศรษฐกิจ และติดตามข่าวสารสม่ำเสมอ

Passive income จากการลงทุนในสินทรัพย์จับต้องได้:
ได้แก่ ซื้อที่ดิน ให้เช่าที่ดิน แต่งห้องชุดแล้วปล่อยเช่า รวมไปถึงการลงทุนติดตั้ง Vending Machine เช่น เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ตู้ขายขนม ตู้ขายน้ำอัดลม เหล่านี้เป็นการลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์แล้วปล่อยให้มันทำงานโดยเราเข้าไปดูแลจัดการ เติมเต็ม และบำรุงรักษา รายได้ passive income จากสินทรัพย์จับต้องได้เหล่านี้เริ่มให้ผลตอบแทนเร็ว ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญหาที่ลงได้ก็ได้เงินแทบจะทันที ห้องชุดหาคนเช่าได้ก็ได้รับเงินก้อนทันที่เช่น ค่ามัดจำและล่วงหน้ารวม 2-3 เดือน ค่าเช่าที่ดินก็เช่นกัน แต่การลงทุนแนวนี้ค่อนข้างจุกจิกกว่าการลงทุนทางการเงินเพราะคุณต้องเข้าไปดูแลเครื่องมือค่อนข้างเยอะ เช่น ห้องชุดให้เช่า เวลาหมดสัญญาเช่าคุณอาจต้อง renovate ห้องใหม่เป็นเงินเยอะหากเจอผู้เช่าที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเป็นต้น

วิธีสร้างรายได้ Passive Income ยุคอินเตอร์เน็ต

หัวข้อก่อนหน้าเป็นการทำเงินโดยไม่ต้องลงแรงทำงานเพิ่มในแบบดั้งเดิม ซึ่งปัญหาคือถ้าคนไม่ค่อยมีต้นทุนชีวิต คือไม่ได้รวย ไม่ได้มีเงินออม ไม่ได้ทำงานเก็บเงินมานานแล้ว ก็คงไม่มีสตางค์ไปลงทุนอะไรขนาดนั้น แต่ในยุคอินเตอร์เน็ตได้ก่อให้เกิดแนวทางการสร้างรายได้สไตล์ passive income แบบใหม่ที่ใช้เงินลงทุนน้อย นั่นคือ IM (Internet Marketing)

การทำเงินทางอินเตอร์เน็ตแบบ IM ในที่นี้ผมขอไม่นับกิจการพาณิชย์แบบ Commercial Website ที่เป็นบริษัทเอกชนจดทะเบียนพาณิชย์ทำการค้าเป็นเรื่องเป็นราวแล้วเปิดเว็บไซต์เพิ่มเพื่อขยายช่องทางการตลาด แต่ผมจะขอจำกัดวงในการเล่าถึงส่วนที่เป็น บุคคลทั่วไป เช่น มนุษย์เงินเดือน ที่ทำงานประจำและทำรายได้เสริมแบบ passive income ผ่านเว็บส่วนบุคคลที่เรียกว่า Blog

บล็อก (Blog) โดยแรกเริ่มเดิมทีเป็นเสมือนไดอารี่ออนไลน์ที่คนใช้เขียนและแชร์เรื่องราวต่างๆ ในสหรัฐฯ มีการเรียกบล็อกเกอร์ (Blogger) รุ่นบุกเบิกว่า Mommy Blogger หรือ Daddy Blogger เพราะสมัยหนึ่งบรรดา พ่อบ้านเกษียณอายุ หรือ แม่บ้านลาออกจากงานประจำมาเลี้ยงลูก มีเวลาอยู่บ้านเยอะก็เล่นบล็อก เขียนแชร์เรื่องราว และแบ่งปันภาพถ่ายครอบครัวหรรษา ต่อมาก็เริ่มบ่นของปัญหาการดูแลลูกๆ ปัญหาการจัดการงานบ้าน นู่นนี่นั่น และต่อมาการพัฒนาไปสู่การแบ่งปันเทคนิคจัดการกับคุณลูกตัวแสบ วิธีเลี้ยงลูก วิธีซ่อมประตู วิธีจัดสวน ฯลฯ จนกลายเป็น quality contents blogging และเมื่อระบบ Search engine พัฒนาขึ้นมา (นำโดย Google) เจ้า quality contents พวกนี้ก็ติด SERPs (Search Engine Result Pages) เกิด traffic ที่ไม่ได้มาจากเพื่อนบ้านแต่มาจากผู้อ่านทั่วโลก (ที่อ่านภาษานั้นๆออก) เจ้า traffic เหล่านี้ดึงดูดเจ้าของสินค้าให้อยากลงโฆษณาซึ่งก็นำทีมโดย Google อีกครั้งที่สร้างระบบโฆษณาสากลนานาชาติชื่อ Google AdSense เปิดให้บล็อกเกอร์สมัครและรับ banner โฆษณาไปติดในเว็บสร้างรายได้จาก CPC (Cost per Click) เมื่อเกิด traffic ภายในเว็บบล็อกของคุณพ่อบ้านแม่บ้านและเกิด Click บนป้ายโฆษณาและได้เงินค่าคอมมิชชั่นจากการ Click ซึ่งมันทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

Affiliate Marketing แนวทางการสร้างรายได้ทางอินเตอร์เน็ตที่พัฒนาจากระบบ “นายหน้า”

IM แบบ Affiliate Marketing ใช้หลักการเดียวกับระบบนายหน้า หรือ เซลส์ หรือ โปรโมทเตอร์ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นต้องสร้างหรือเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ หน้าที่คุณเป็นคนกลางระหว่างเจ้าของสินค้าและว่าที่ลูกค้า (potential customer) และคุณใช้เว็บไซต์เป็นสถานที่ในการประชาสัมพันธ์สินค้านั้นๆ โดยมี Link ที่เรียกว่า Affiliate Link ในการส่งผู้เยี่ยมชมไปยังหน้าซื้อสินค้า หรือ Sales Page ถ้ามีการซื้อขายเกิดขึ้นจากการส่งต่อโดย Link ID ของคุณ คุณจะได้ค่านายหน้าตามแต่เปอร์เซ็นต์ที่เจ้าของสินค้ากำหนด

Affiliate marketing เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศและกำลังเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆมากกว่าการทำเว็บติด Ads อาจเป็นเพราะค่านายหน้าที่ดึงดูดใจอีกทั้งความหลากหลายของสินค้า ลูกเล่น และผู้ให้บริการ ต่างจาก Ads อย่าง Google AdSence ที่ค่อนข้างผูกขาด หากถูกแบนคือจบช่องทางทำกินกับ AdSense ไปเลย คนทำ IM จึงอาจมองว่ามีความเสี่ยงสูง ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ให้เปิดระบบ affiliate เป็นจำนวนมาก ที่ได้ยินบ่อยๆได้แก่

  • Aff ครอบจักรวาลสินค้าและบริการ อาทิ Amazon, Viglink, National Geographic
  • Aff เฉพาะทางสวยสุขภาพ อาทิ Sell Health, More Niche, Market Health
  • Aff ดิจิตอลดาวน์โหลดและบริการออนไลน์ อาทิ Click Bank, Commission Junction, E-Junkie
  • Aff ฉายเดี่ยวตามยี่ห้อของตัวเอง อาทิ Blue Host, oDesk, One Hour Translation, Page Line WP Theme, Unconventional Guides by Chris Guillebeau

Affiliate แบบครอบจักรวาลอย่าง Amazon, Viglink และ Nat Geo จะมีค่านายหน้าค่อนข้างต่ำ ประมาณ 4-5% ในขณะที่สินค้าสุขภาพจะสูงขึ้นมาพอสมควรระหว่าง 20-50% สินค้าดาวน์โหลดอย่าง E-Book จาก Click Bank ส่วนมาก 50% ขึ้นไปจนถึง 70% และถ้าเป็นพวก Affiliate ที่เจ้าของแบรนด์ทำเองก็จะสูงเช่นกัน อย่างเช่น oDesk หากแนะนำผู้ประกอบการมาเปิดบัญชี คุณได้ทันทีหัวละ $50 หากแนะนำ freelancer มาเปิดบัญชีคุณจะได้หัวละ $5 ส่วน Blue Host เป็นบริการ web host ที่มีชื่อเสียง บล็อกเกอร์ชื่อดังอย่าง Pat Flynn ทุกวันนี้ได้ค่านายหน้าจากการโปรโมท Blue Host เดือนละ 2-3 หมื่นเหรียญกันเลยที่เดียว! แต่น่าเศร้าที่ Affiliate มียี่ห้อเหล่านี้ไม่ค่อยเปิดสิทธิให้ประเทศไทย

สร้างเว็บทำ Passive Income ต้องใช้เงินเท่าไร

IM เป็นธุรกิจที่มี barrier of entry ต่ำมาก คือใครจะมาจะไปก็ทำได้ง่าย ใช้เงินลงทุนน้อยมาก ถ้าคุณจะเปิดเว็บบล็อกสำหรับเริ่มเขียนบทความติด Google AdSense หรือทำ review สินค้าเพื่อการทำ affiliate ถูกสุดๆคือเริ่มกับ Blogspot ซึ่งมันฟรี หรือจดโดเมนก็ $10 หากอยากอัพเกรดขึ้นมาหน่อยก็เช่า Host แล้วใช้แพลทฟอร์มของ WordPress อันนี้ก็มีค่าใช้จ่ายหลักพัน อาทิ ผมใช้ Blue Host ปีละ 2 พันกว่าบาท จดโดเมนเว็บ+Security package ประมาณ 600 กว่าบาท รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 3000 บาทสำหรับการเริ่มต้นครั้งแรก ต่อไปหากจะเปิดเว็บไซต์เพิ่มก็เสียแต่ค่าจดโดเมน จริงๆจะมีวิธีจดโดเมนที่ถูกกว่านี้สำหรับคนที่ต้องทำเว็บปั่น แต่สำหรับผมทำแค่ 2-3 เว็บก็เน้นทำกับเจ้าที่คุ้นเคยไป ส่วน Theme มีให้ใช้ฟรี แต่ถ้าพร้อมลงทุนก็ซื้อ Theme หรูๆที่มี feature หลากหลายมาได้ในราคาหลักพันบาทครับ

Passive Income ทางอินเตอร์เน็ตไม่เหนื่อยจริงหรือไม่

ไม่จริงครับ…ผมคิดว่าเป็นความเชื่อผิดๆที่ไม่รู้ว่ามันตกทอดมาจากไหนที่ว่า ธุรกิจอินเตอร์เน็ตรวยง่ายไม่เหนื่อย รวยแล้วไม่ต้องทำอะไร เงินจะไหลเข้ามาเอง …Gimmick รวยโครตๆรวยเร็วๆพวกนี้ส่วนมากมาจากคนขายเครื่องมือ ขายสูตร ขายคอร์ส ชื่อแนวคิด สูตรเปลี่ยนชีวิต ความลับทำเงินอัตโนมัติ เทคนิครวยข้ามคืน Gimmick พวกนี้ฮิตมากในโลก IM จนทำให้วงการ IM ติดภาพลักษณ์ของพวก Scam หรือ หลอกลวง เพราะบางรายอาศัยจุดอ่อนเรื่องทัศนคติผิดๆและความอยากรวยของคนอื่นมาขายเครื่องมือที่อ้างว่าใช้ทำเงินได้เร็วในราคาแพงๆแต่อาจใช้ไม่ได้ผลจริงอย่างยั่งยืนในทางปฏิบัติ

ไม่มีความสำเร็จใดได้มาโดยไม่ต้องทำอะไร และเราไม่สามารถมีรายได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องทำอะไร ในโลกนี้(ยัง)ไม่มีระบบอะไรที่จะอัตโนมัติขนาดว่าคุณซื้อไปติดตั้งครั้งเดียวแล้วเงินจะไหลมาเอง แม้แต่ MLM ที่ว่ากันว่า Up-Line คือเทพแห่ง Passive Income แต่กว่าจะก้าวสู่การเป็นยอด Up-Line ในห่วงโซ่ MLM เขาต้องทำงานหนักมากในการระดมคนมาเป็น Down-Line และต้องสร้าง Down-Line ให้เชื่อ ให้ซื้อของได้ ให้ขายของเป็นและให้ทำให้คนอื่นซื้อของต่อจาก Down-Line ในสายงานเป็น ฯลฯ

คนที่มีประสบการณ์ในการบล็อกมายาวนานและผ่านการลองผิดลองถูกมามากจะตอบได้ดี นี่คือคำนิยามหนึ่งย่อหน้าจาก Robert Farrington บล็อกเกอร์ที่ประสบความอย่างสูงคนหนึ่ง มีบล็อกในสังกัดไม่ต่ำกว่า 5 บล็อก และเป็นบล็อกเกอร์อาชีพที่จดทะเบียนบริษัทด้วย เขาเขียนไว้ในบทความชื่อ The Biggest Problem with the Ease of Internet Business ดังนี้:

..The Internet mindset almost makes things too easy, and tricks entrepreneurs into thinking that success will happen overnight. However, I can attest from experience that it takes years to build traction online. Yes, some people do it much faster, but most of the ones who make things happen quickly also have years of failures behind them that they don’t really talk about..

ธุรกิจอินเตอร์เน็ตในสาขาของการบล็อกเพื่อ passive income หรือที่บริษัท Google เรียกการทำเงินแบบนี้ว่า Blog Monetization นั้น คุณต้องมีการทำงานมากครับ ถ้าบล็อกคุณภาพก็หนักเรื่องการสร้างเนื้อหาและการสร้างผู้ติดตาม ส่วนเว็บปั่นก็หนักเรื่องวางระบบปั่นซึ่งมีขั้นตอนเยอะรวมไปถึงการรักษาตารางปั่นซึ่งต้องวน loop การทำงานเดิมตลอดไป (เพราะอายุเว็บปั่นสั้น) โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นเป็นอะไรที่หนักสุดแล้วสำหรับการทำเว็บบล็อก ต้องสร้างเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิด Index ใน Google SERP อย่างต่อเนื่อง ต้องพัฒนา SEO ต้องศึกษา Keyword ต้องสร้าง Community และเมื่อผ่านจุดเริ่มไปแล้วก็ต้องพัฒนาบล็อกอยู่เสมอเพื่อให้เป็นที่น่าติดตามและเกิดกิจกรรมและธุรกิจต่างๆขึ้นมาหมุนเวียนภายในบล็อกนั้นๆ

ผมเชื่อว่าจากนี้และต่อไปเราเปิดบล็อกลงบทความอัด Keyword แล้วทิ้งแล้วหวังว่ามันจะทำเงินจาก Ads เหมือนเมื่อ 5 ปีก่อนคงไม่ได้ บล็อกเกิดใหม่ทุกวัน การแข่งขันสูงขึ้น ผู้อ่านมองหาข้อมูลที่สดและมีประโยชน์ ถ้าบล็อกไหนเข้าไปแล้วพบว่าบทความครั้งสุดท้ายคือเมื่อ 6 เดือนก่อน แบบนี้จบครับ แม้ Index มันจะค้างเติ่งอยู่ใน Google SERP เพราะได้คีย์เวิร์ดดีแต่คงไม่มีใครกลับมาเยี่ยมเยียน

สรุปว่าด้วยการสร้างรายได้ทางอินเตอร์เน็ตแบบ Passive Income

E-Book Epic Blogger Facebook Release01อย่าหันมาทำ IM ด้วยวิธีคิดว่ามันคือประตูลับหรือทางลัดสู่อิสรภาพทางการเงินโดยไม่ต้องทำงาน ธุรกิจอินเตอร์เน็ต ก็คืองาน ฉะนั้นคุณคงไม่ได้แค่นั่งอยู่เฉยๆเป็นแน่! เพียงแต่มันเป็นงานอีกรูปแบบที่มีคุณเป็นนายตัวเอง มีระบบการทำงานทำเงินต่างจากการทำงานรับจ้างประจำด้วยแรงงาน แต่ไม่ใช่ว่าไม่เหนื่อยหรือไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคอะไร ถ้าจะทำ IM ควรสร้างวิธีคิดใหม่ว่าอยากทำอะไรที่ท้าทายกว่างานประจำและอยากลุยทำอะไรเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเหนื่อยอย่างไรเพื่อผลตอบแทนความเหนื่อยยากด้วยอิสรภาพในการเลือกทำในสิ่งที่รัก เงินคือสิ่งสำคัญที่สุดแต่ถ้าหากคุณดึงดันจะเอาเงินเป็นตัวตั้งคุณกลับจะพบว่าคุณมีความสุขในเส้นทางนั้นน้อยที่สุด การทำงานทุกชนิดมองที่คุณค่าและความท้าทายในการเดินทาง ส่วนเงินจะเป็นผลิตผลตอบแทนตามคุณค่าหรือคุณภาพที่คุณสร้างครับ

หากคุณต้องการสัมผัสกับชีวิตจริง Full-time blogger ที่เริ่มตั้งแต่เป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่รู้จัก IM จนถูกปลดออกจากงาน ตกงาน เริ่มทำ IM จนกลายมาเป็น Internet Entrepreneur มีรายได้ passive income เดือนละล้านกว่าบาท ผมแนะนำ E-Book Epic Blogger Pat Flynn ผมติดตามเรื่องราวและสไตล์การทำงานอินเตอร์เน็ตของเขามานานและรวบมาถ่ายทอดเพื่อความเข้าใจว่า IM รวยได้แต่ไม่ใช่รวยข้ามคืนอย่างที่เคยเข้าใจและเพื่อเป็นแนวทางและพลังใจในการทำ IM อย่างยั่งยืน สนใจซื้อ E-Book ได้ที่นี่ครับ ราคา 197 บาท