Kevin Johnson, CEO Starbucks ให้ข้อมูลต่อ CNBC เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2018 ว่าบริษัทฯ ได้ตกลงอย่างเป็นทางการกับ Alibaba Group ในการร่วมกันขยายกิจการกาแฟผ่านเครือข่ายธุรกิจของ Alibaba ได้อย่างเต็มที่
การรุกตลาดจีนผ่านทาง Alibaba ในครั้งนี้จะช่วยให้ Starbucks ได้ใช้ประโยชน์จากเครื่อข่ายและแพลทฟอร์มต่าง ๆ ของ Alibaba ได้แก่ Alipay, Taobao, TMall ซึ่งจะเชื่อมต่อสินค้าเข้ากับผู้บริโภคผ่าน Virtual store ในขณะที่ภาคธุรกิจออฟไลน์จะดำเนินผ่าน Hema
Hema เป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็ก มีจำนวน 735 สาขา (อัพเดท ณ ปี 2017) และกำลังขยายสาขาเพิ่มโดยตั้งเป้าที่ 2,000 สาขาภายในปี 2024 — โดย Starbucks จะเข้าเปิดร้านกาแฟจำนวน 600 สาขา หรือคิดเป็น 81% ของสาขาทั้งหมด
โครงการสาขา Starbucks ใน Hema มีชื่อแนวคิดโครงการว่า ‘Starbucks Delivery Kitchens’ เปิดสเตชั่นขายกาแฟขนาดกะทัดรัดและเน้นความปริมาณการขายให้แก่ ผู้สัญจร (Foot traffic) ในพื้นที่โดยรอบของที่ตั้งร้าน Hema — ในขณะที่อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ คือ Starbucks delivery หรือ บริการจัดส่งที่จะร่วมกับ Ele.me หนึ่งในผู้ให้บริการจัดส่งอาหารรายใหญ่ของจีนซึ่งกิจการถูกเข้าซื้อโดย Alibaba เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในภาพรวม การเติบโตของ Starbucks ในปีนี้มาจากการขยายธุรกิจในจีน แม้ยอดขายแบบ Same-store sales จะชะลอตัว แต่ยอดขายรวมในประเทศจีนเพิ่มขึ้นถึง 17% เป็นผลมาจากการขยายสาขาเพิ่มเป็นปัจจัยสำคัญ และคนจีนก็บริโภค กาแฟ เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวเทียบกับ 4 ปีก่อน Kevin Johnson ผู้บริหาร Starbucks จึงเชื่อมันว่าการร่วมมือกับ Aliaba Group จะผลักดันสินค้าของ Starbucks ให้เข้าถึงคนจีนแบบฉุดไม่อยู่นับจากนี้ไป
Starbucks กำลังจะเปิด 150 สาขาใน Shanghai และ Beijing ก่อนขยายไปอีก 30 เมืองและสะสมให้ถึง 2,000 สาขาภายในสิ้นปี 2018