SC ASSET จับตาเทรนด์คนเมือง กับแนวโน้มการลงทุน Luxury Home Office เพื่ออยู่อาศัยและทำธุรกิจในหนึ่งเดียว

ปัจจุบันตลาดมีความหลากหลายทางด้านอาคารสำนักงานและพื้นที่ประกอบกิจการเพื่อตอบสนองความต้องการหลายรูปแบบสำหรับเจ้าของธุรกิจแต่ละลำดับขั้นของกิจการที่พวกเขาทำอยู่

เราสามารถพบเห็นสถานที่ทำงานแบบ Co-Working Space เกิดขึ้นมากมายในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเพื่อรองรับผู้ประกอบการใหม่โดยเฉพาะธุรกิจลักษณะ Startup ที่เริ่มต้นธุรกิจแบบ Lean หรือ ประหยัด ใช้คนน้อย เน้น Outsource กลุ่มนี้ต้องการสถานที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่นสูงและราคาไม่แพง

ต่อมาคือ อาคารสำนักงานให้เช่า เหมาะกับ SMEs ขึ้นไปที่ธุรกิจกำลังไปได้สวย อาคารสำนักงานให้เช่า นิยมตั้งในย่านธุรกิจต่าง ๆ เน้นตำแหน่งที่ใกล้กับ ระบบรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ซึ่งมีตั้งแต่ระดับราคาถูก ไปจนถึงราคาสูงแบบ Luxury office building 

อย่างไรก็ดี มีเจ้าของธุรกิจอีกจำนวนไม่น้อยที่ประกอบธุรกิจถึงจุดที่ต้องการลงหลักปักฐาน มุ่งเน้นขยายกิจการควบคู่ไปกับการสร้างและสะสมสินทรัพย์เป็นของตน พวกเขาจะเริ่มมองหาโอกาสการซื้อสำนักงานเป็นอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท และ ณ จุดนี้ อาคารสำนักงานประเภท โฮมออฟฟิศ เป็นรูปแบบที่มีโอกาสตอบโจทย์พวกเขา

โฮมออฟฟิศ นอกจากจะสามารถซื้อเพื่อลงทุนเป็นอสังหาริมทรัพย์แล้ว ยังสามารถสร้างรายได้จากการใช้เป็นสถานประกอบธุรกิจ และเป็นที่อยู่อาศัยอันหรูหราสไตล์ Penthouse ในชั้นบนของอาคาร

เสน่ห์ของการลงทุนใน โฮมออฟฟิศ

ปัจจุบัน อาคารสำนักงานให้เช่า มีสภาวะกระจุกตัวอยู่ใจกลางศูนย์ธุรกิจของกรุงเทพมหานคร (CBD) แม้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และขนส่งมวลชนเพียบพร้อม แต่ความแออัดนั้นได้เกินกำลังของพื้นที่ในเมืองจะรองรับไหว ระยะเวลาที่เจ้าของธุรกิจ และพนักงานใช้ไปกับเดินทางเฉลี่ยวันละ 2-3 ชั่วโมงในการไปกลับระหว่างที่ทำงานและที่พัก กลายเป็นความเสียโอกาสในการทำประโยชน์อื่นอย่างประเมินค่าไม่ได้

ข้อชวนตระหนักต่อมา คือ ค่าเช่าสำนักงานมีการปรับตัวขึ้นตลอดเวลา โดยในปี พ.ศ. 2550 ค่าเช่าสำนักงานในย่านธุรกิจเฉลี่ยประมาณ 670-680 บาทต่อตารางเมตร และได้ขยับขึ้นมาเป็น 770-780 บาทต่อตารางเมตรในปี พ.ศ. 2557 และล่าสุดในปี พ.ศ. 2560 ค่าเช่าสำนักงานเกรด A-B ในย่านธุรกิจขึ้นมาที่ไม่น้อยกว่า 900-1,000 บาท ต่อตารางเมตร

ยิ่งกิจการขยายตัวใหญ่ขึ้นเท่าไร ค่าเช่าจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนโตที่ขยับตัวตามมากขึ้นเท่านั้น โดยที่ผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่นั้นไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของสินทรัพย์ใด ๆ

นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่กิจการเติบโตและมีศักยภาพทางธุรกิจสูง จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเริ่มพิจารณาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเเภทอาคารสำนักงาน ได้แก่ โฮมออฟฟิศ บนทำเลศักยภาพ เพื่อเป็นสินทรัพย์ โดยมีจุดเด่นคือ เป็นสินทรัพย์ ที่มีรายได้เพราะใช้เป็นสถานประกอบการ และเป็นที่อยู่อาศัยในตัว —– SC ASSET ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury


 

สำหรับบทความนี้เว็บไซต์ CEOblog พาทำความรู้จัก

โครงการน่าสนใจสำหรับ เจ้าของธุรกิจ ที่กำลังต้องการยกระดับไปอีกขั้น ที่ได้ทั้งภาพลักษณ์อันหรูหราทางธุรกิจ ความสะดวกสบายในการคมนาคมที่เชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญต่าง ๆ และความเป็นที่อยู่ศัยไปในตัวกับโครงการ HEADQUARTERS เอกมัย-ลาดพร้าว Super Luxury โฮมออฟฟิศหรูหรา ใจกลางกรุงเทพฯ บริเวณต้นทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา มุ่งสู่ CBD (Central Business District) เอกมัย-ทองหล่อ เพียง 5 กิโลเมตร

โครงการ HEADQUARTERS เอกมัย-ลาดพร้าว เจ้าของโครงการโดย บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ ณ ถนนอินทราภรณ์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ 6-2-38.6 ไร่ แบบอาคารดังนี้

  • President พื้นที่ใช้สอย 479 ตร.ม.
  • Chairman พื้นที่ใช้สอย 693 ตร.ม.

แต่ละแบบจะมีจำนวน 5 ชั้น มีห้องน้ำ 4-5 ห้อง จอดรถได้ 6-8 คันต่อหลัง รองรับธุรกิจขนาด 30-50 คน โดยชั้นบนสุดของอาคาร คือ ชั้น 5 เป็นที่อยู่อาศัยขนาด 78 ตารางเมตร จุดเด่น คือ ชั้นบนสุดของอาคาร ชั้น 5 ออกแบบฟังก์ชั่น Luxury Penthouse เพื่อรองรับการอยู่อาศัยครบครัน เป็นโฮมออฟฟิศที่ตอบรับทั้งการทำงานและพักผ่อน อย่างลงตัวบนทำเลเมือง ทุกอาคารมีลิฟต์ในตัว มีระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัย และทางหนีไฟเสมือนในคอนโดมีเนียมสมัยใหม่ทุกประการ

ความคุ้มค่าของโฮมออฟฟิศ HEADQUARTERS เอกมัย-ลาดพร้าว

โครงการ HEADQUARTERS เอกมัย-ลาดพร้าว มีพื้นที่ใช้สอยรวม ระหว่าง 479 ตร.ม. และ 693 ตร.ม. ราคาอยู่ระหว่าง 30 – 50 ล้านบาท หรือเฉลี่ย ตารางเมตรละ 62,000 – 72,000 บาท ซึ่งหากเทียบกับราคาพื้นที่คอนโดมิเนียมหรูในใจกลางสุขุมวิทปัจจุบันขยับขึ้นไปที่มากกว่า 110,000 – 150,000 บาทต่อตารางเมตร หรือมากกว่า ซึ่งเรียกว่าได้ความหรูหราในราคาที่คุ้มกว่า 43-52%

นอกจากนั้น อัตราค่าผ่อน HEADQUARTERS เอกมัย-ลาดพร้าว อยู่ที่ประมาณ 170,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียง, หรืออาจจะมากกว่าการเช่าพื้นที่สำนักงานในย่าน CBD แต่ที่ต่างกันอย่างไม่ต้องสืบ คือ คุณจะได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์อย่างโฮมออฟฟิศบนทำเลเมือง

ตำแหน่งที่ตั้งและการคมนาคม

สถานที่ตั้งโครงการ HEADQUARTERS เอกมัย-ลาดพร้าว ตั้งอยู่บน ถนนอินทราภรณ์ ซึ่งเป็นถนนย่อยของถนนเส้นเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา นับว่าตั้งอยู่บนพื้นที่ที่สามารถตัดผ่านไปยังถนนสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครฯ ได้อย่างสะดวก

โดยหากออกจากปาก ถนนอินทราภรณ์ แล้วกลับรถขึ้นไปทางทิศเหนือ จะตัดเข้าเส้นลาดพร้าว โดยจะสามารถเลือกที่จะไปต่อยังเส้นถนนรัชโยธิน หรือรามอินทราก็ได้

กรณีออกจากปาก ถนนอินทราภรณ์ เลี้ยวซ้ายมุ่งใต้จะสามารถเดินทางไปยัง ถนนรามคำแหง ถนนพระราม ๙ ถนนเพชรบุรี ต่อไปยัง เอกมัย ทองหล่อ อโศก ตัดเข้าสุขุมและสีลมตามลำดับ

นอกจากนั้น สถานที่ตั้งโครงการ HEADQUARTERS เอกมัย-ลาดพร้าว ยังอยู่ใกล้กับโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ที่เชื่อมเส้น รัชดาภิเษก ลาดพร้าว รามคำแหง และบางกะปิ เข้าด้วยกัน เรียกว่าเป็นสุดยอดทำเลศักยภาพอีกแห่งในกรณีที่ไม่นับ CBD Area (Central Business District อาทิ สุขุมวิท สยาม สีลม)

สถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงโครงการ

การคมนาคม

  • จุดขึ้นลงทางด่วน เอกมัย–รามอินทรา 1.5 กิโลเมตร
  • ถนนเอกมัย-ทองหล่อ 5 กิโลเมตร
  • ถนนรามคำแหง 1.6 กิโลเมตร
  • ถนนลาดพร้าวและแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (โครงการอนาคต) 1.8 กิโลเมตร
  • สี่แยกห้วยขวาง 5.9 กิโลเมตร
  • MRT ลาดพร้าว 6.5 กิโลเมตร
  • สี่แยกพระราม 9 7.6 กิโลเมตร

ศูนย์การค้า

  • @Park 0.5 กิโลเมตร
  • The Scene 0.7 กิโลเมตร
  • ต้นซุง อเวนิว 1.1 กิโลเมตร
  • Big C ลาดพร้าว 4.5 กิโลเมตร
  • Central Eastville 4.8 กิโลเมตร
  • The Crystal 5.4 กิโลเมตร
  • CDC 5.6 กิโลเมตร
  • Central พระรามเก้า 7.6 กิโลเมตร

สถานศึกษา

  • รร.อุดมศึกษา 0.3 กิโลเมตร
  • รร.บดินทร์เดชา 0.5 กิโลเมตร
  • รร. นานาชาติเดอะรีเจ้นท์ 2.8 กิโลเมตร
  • รร. นานาชชาติ KIS 3.7 กิโลเมตร
  • ม.รามคำแหง 2.4 กิโลเมตร
  • ม.อัสสัมชัญ (ABAC) 4.2 กิโลเมตร

โรงแรม

  • โรงแรม TOWN IN TOWN 0.9 กิโลเมตร
  • โรงแรม SC PARK 1.7 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • รพ.ลาดพร้าว 5.8 กิโลเมตร
  • รพ.พระราม9 7.7 กิโลเมตร

สรุป

HEADQUARTERS เอกมัย-ลาดพร้าว เป็น โฮมออฟฟิศสไตล์ Modern Classic เรียบง่ายแต่หรูหรา สะท้อนภาพลักษณ์เหนือระดับของผู้เป็นเจ้าของ เหมาะแก่การลงทุนทำธุรกิจในระยะยาวด้วยทำเลศักยภาพสูง เพราะตั้งอยู่เส้นถนนเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา ที่เชื่อมโยงกับถนนสายสำคัญมากมายของกรุงเทพมหานครฯ แลใกล้ทางด่วนอย่างมาก

ที่ตั้งของโครงการยังรายล้อมไปด้วยศูนย์การค้าใหม่ ๆ ที่ทันสมัย อาทิ Central Eastville, The Crystal, CDC Crystal Design Centre, Central พระราม ๙ ซึ่งแต่ละเแห่งใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์เพียง 15-30 นาทีเท่านั้น (กรณีการคมนาคมคล่องตัว)

ส่วนภายใน ถนนอินทราภรณ์ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร และวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างในระยะเดินถึง และเส้นทางรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ (มีนาคม พ.ศ. 2561) จะเปิดให้บริการประมาณปี พ.ศ. 2564 ก็จะยิ่งทำให้บริเวณพื้นที่โครงการเป็นทำเลทองอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมาหนครฯ