Salman Khan ชี้อาจใกล้หมดยุคเรียนหนังสือครึ่งชีวิต เอกชนจะผลิตนักศึกษาป้อนเข้าตลาดเอง

Salman Khan นักธุรกิจด้านการศึกษาชื่อดัง และเป็นผู้พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์กลุ่มแรก ๆ ของโลก ผู้ก่อตั้ง Khan Academy โรงเรียนสอน คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ แบบออนไลน์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเอกชนรายใหญ่อย่าง Microsoft และ Google ได้พยากรณ์รูปแบบการศึกษาที่จะเปลี่ยนไปในปี ค.ศ. 2026 ผ่านทางเว็บไซต์ Quora อย่างน่าสนใจ 

Salman Khan เขียนมุมมองผ่าน Quora ว่า…

“…First, mastery-learning will become much more mainstream. It is an old idea that you shouldn’t have to learn a more advanced topic until you have proficiency in a more basic one.

As intuitive as that may seem, when mass public education was introduced about 200 years ago, it was not practical to allow every student to progress in a personalized way.

Instead, students got pushed ahead even when gaps were identified in their learning. (“Got a “C” on that basic exponents exam, too bad. We now have to learn negative exponents.”) That process caused students to accumulate gaps until it was debilitating in an upper-level class.

Now we have the technology to meet every student where they are and provide teachers with real-time data so that it is practical to do mastery learning in a normal sized classroom…”

อธิบายโดยสรุปคือ…

การศึกษาจากอดีตถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย ยังคงเป็นการบังคับเรียนวิชาจำนวนมากและเกิดระบบคัดเกรดและแบ่งแยกนักศึกษา นักศึกษาที่เรียนไม่ดี (อันเกิดจากความไม่ถนัดโดยธรรมชาติของปัจเจกบุคคล) อาจจะเสียโอกาสในการศึกษาระดับต่อไปจวบจนกระทบไปยังเส้นทางอาชีพหลังเรียนจบ

แต่วันนี้เป็นต้นไป เทคโนโลยีเริ่มมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนรู้ และพัฒนารูปแบบการศึกษาในอนาคตให้มีความ Personalize มากขึ้น

3 แนวโน้มการศึกษาที่ Salman Khan พยากรณ์

1. การศึกษาในอนาคตมีแนวโน้มจะยกให้ ‘ผู้เรียนเป็นตัวตั้ง’

Khan เล่าว่าระบบการศึกษาในระบบปัจจุบันยังยึดตามกฏเมื่อ 200 ปีก่อน คือ สถาบันเป็นตัวตั้ง บังคับเรียนวิชาจำนวนมาก ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถพัฒนาความถนัดให้ถึงที่สุด เพราะต้องไปเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ได้ถนัดจากการบังคับเรียน

แต่เพราะเทคโนโลยีก่อเกิดแพลทฟอร์มการศึกษาทางเลือกมากมาย ทำให้คนสามารถมุ่งไปเรียนสิ่งที่อยากเรียน อยากรู้ และอยากเป็นได้ทันทีแล้วเอาให้สุดในจุดที่ยืน ยกตัวอย่าง ที่กูเกิ้ลประกาศหลักสูตร Google IT Support Professional Certificate ที่ชูจัดเด่นว่า ผู้เรียนไม่ต้องมีพื้นฐานใด ๆ ก็เรียนได้ ออกใบรับรอง สมัครงานได้ เป็นต้น

2. องค์กรเอกชนในภาคธุรกิจจะออกวุฒิเองได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะใช้แทนใบปริญญาบัตรจากสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิม

Salman Khan บอกว่า รูปแบบการศึกษาแบบดั้งเดิมเน้น ปริมาณ ได้แก่ เรียนเยอะ ๆ เรียนหลาย ๆ แขนง และเน้นจำนวนชั่วโมงเรียนมาก ๆ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้เป็นผลดี และเป็นเหตุผลที่บริษัทเอกชนหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา (รวมถึงไทย) ต้องให้ผู้สมัครงานทำแบบทดสอบวัดผลของบริษัทอีกครั้งก่อนพิจารณาเข้าทำงาน เพราะ เพราะวุฒิจากการศึกษาแบบดั้งเดิมไม่ตอบโจทย์นายจ้างงในทางปฏิบัติ (แค่เป็นเอกสารประกอบสมัครงานเท่านั้น)

Khan พยากรณ์ว่าในอีก 10 ปี บริษัทเอกชนที่ได้รับการนับถือระดับสากล (อาทิ Google, Microsoft เป็นต้น) จะกลายเป็นสถาบันการศึกษาเสียเอง พวกเขาสร้างจะหลักสูตร และออกใบวุฒิบัตร เป็นผู้ผลิตผู้เชี่ยวชาญป้อนบริษัทต่าง ๆ และ วุฒิบัตร จากบริษัทเอกชนเหล่านั้นจะได้รับการยอมรับจากเอกชนด้วยกันมากกว่าจากสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิม

3. ในอนาคต คนจะมีอิสระในการพัฒนาความเชี่ยวชาญและพัฒนาเส้นทางอาชีพของตน

Khan ผู้สำเร็จจากสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิมมีแนวโน้มตกงานเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง จากนี้ไปวุฒิการศึกษาอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ประสบการณ์ทำงาน ประวัติผลงาน หรือ พอร์ตโฟลิโอในการทำงานจริงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า

ดังนั้น รูปแบบการศึกษาในอนาคตจะมีความยืดหยุ่นสูง โดยอาจไม่จำเป็นต้องเรียน 4 ปีรวดแล้วค่อยไปหางานทำภายหลัง แต่จะสามารถ Personalize การเรียน และ การทำงาน คู่กันไป อาทิ เรียนวิชาเฉพาะทางที่สนใจและถนัดผ่านหลักสูตรเข้ม 12 เดือน ได้ใบรับรองไปสมัครทำงานเก็บประสบการณ์ และทยอยเรียนวิชาในระดับต่อ ๆ ไป

การทำเช่นนี้จะทำให้ วัยวุฒิ, คุณวุติ, ประสบการณ์ และประวัติผลงาน หรือเรียกรวม ๆ ว่า Career path ของบุคคลเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

Salman Khan คือใคร?

Salman Khan เป็นนักศึกษาอัจฉริยะ ผู้แตกฉานหลากหลายศาสตร์ที่มีสอนในสถาบันการศึกษาและเขานำมันมาสอนต่อแบบเร่งรัดในเว็บไซต์ชื่อ Khan Academy และที่สำคัญเขาสอนฟรี แต่หลังจากสอนฟรีไปเป็นปี ๆ โดยไม่มีรายได้ เขาก็เริ่มจะไปต่อไม่ไหว แต่เพราะสิ่งที่เขาทำมันดีมากจนปล่อยให้ตายไปไม่ได้ ผู้คนที่ติดตามเขาจึงเริ่มบริจาคเงินเพื่อให้แพลทฟอร์มของเขาสามารถดำเนินการต่อได้

ผู้สนับสนุน กลุ่มแรก ๆ คือ Bill Gates แห่ง Microsoft บริจาคเงิน คิดเป็นเงินไทยประมาณ  50 ล้านบาท และตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา Bill Gates สนับสนุนเงินให้เขาแล้วมากกว่า 300 ล้านบาทนอกจากนั้น Google ก็ยังเข้ามาร่วมสนับสนุนเงินและให้ใช้ระบบ Google Cloud ในการโฮสต์เว็บไซต์และข้อมูลต่าง ๆ

ปัจจุบัน Salman Khan เติบโตกลายเป็นเจ้าของธุรกิจการศึกษาสมัยใหม่เต็มตัว และเปิดโรงเรียน Off-line ของตัวเองชื่อ Khan Lab School