Peter Rahal และ Jared Smith สองคู่หูผู้ร่วมก่อตั้ง ขนมธัญญาพืช RXBAR เริ่มต้นกิจการเมื่อปี ค.ศ. 2012 ด้วยเงินลงทุนคนละ 5,000 เหรียญ รวมเป็นเงินเริ่มต้นกิจการ 10,000 เหรียญ กิจการเติบโตสู่ยอดขาย 131 ล้านเหรียญในปี 2017 และขายกิจการให้บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ Kellogg’s
Peter Rahal เล่าว่าเขาครอบครัวของเขาเป็นธุรกิจครัวเรือนด้านน้ำผลไม้ หลังเรียนจบก็มาทำงานที่กิจการของครอบครัวแต่รู้สึกไม่สนุก อยากสร้างอะไรเป็นของตัวเองโดยมีเงื่อนไขว่า เริ่มต้นไม่ยาก และใช้เงินลงทุนน้อย หนึ่งในสินค้าที่คิดได้คือ Nutrition bar หรือ ขนมธัญญาพืช โดยเขาเลือกช่องทางการขายที่แตกต่าง แทนที่จะขายเข้าห้างค้าปลีก เขาขายเข้าฟิตเนสเซ็นเตอร์และอีคอมเมิร์ซ
RXBAR ก่อตั้งในปี 2012 ด้วยเงินลงทุนระหว่าง Peter Rahal และ Jared Smith คนละ 5,000 เหรียญ รวม 10,000 เหรียญ และสร้างยอดขายสูงถึง 131 ล้านเหรียญ ในปี 2017 ก่อนขายกิจการให้ Kellogg ในปีเดียวกันด้วยมูลค่าสูงถึง 600 ล้านเหรียญ!
1. คุณไม่จำเป็นต้องพึ่ง นายทุน ในการสร้างธุรกิจเงินล้านเสมอไป
Peter Rahal ถามพ่อของเขาว่าทำอย่างไรจึงจะมีเงินทุนมาขยายกิจการ พ่อของเขาบอกว่า “แกก็เลิกพล่าม แล้วถือขนมธัญญาพืชออกไปขายให้ได้สัก 1000 แท่ง”
Peter Rahal จึงลงมือทำขนมธัญญาพืช ซึ่งตอนนั้นเขาและหุ้นส่วนช่วยกันทำขนมด้วยตนเอง บรรจุซอง ใส่เบอร์โทรศัพท์ของพวกเขาลงไป จากนั้นขนขนมออกตระเวนขายตามร้านกาแฟและฟิตเนสในพื้นที่ใกล้เคียง พวกเขาเสนอให้ทางหน้าร้านช่วย Display ขนมให้โดยไม่คิดเงิน พวกเขาแค่ต้องการให้สินค้าเข้าถึงสายตาของผู้คนให้มากที่สุดในช่วงแรก
2. เริ่มให้เร็ว ทำให้ง่าย อย่าเรื่องเยอะ
ช่วงเริ่มต้น เขาใช้พื้นที่ในบ้านแทนสำนักงานและสถานที่ผลิตสินค้า บรรจุภัณฑ์ออกแบบด้วยตนเองและใช้โปรแกรม Power Point ธรรมดา ๆ ในการออกแบบ และอย่างที่บอกไปว่าพวกเขาใส่เบอร์โทรศัพท์ลงไปบนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้าติดต่อพวกเขาได้ทันที เขาต้องการความเห็นและข้อเสนอแนะจากลูกค้า และนั่นคือกุญแจสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ทำให้กิจการเติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา
3. ทำสินค้าให้เลิศที่สุด คือ ปัจจัยสำคัญที่คุณจะอวยสินค้าได้เต็มปาก
การตลาดที่ดีอาจทำให้สินค้าขายดีในระยะสั้น แต่ในระยะยาว สินค้าที่ยอดเยี่ยม จะทำให้คู่ค้าของคุณกล้าพูดถึงสินค้าได้อย่างเต็มปากว่าดีจริง กรณี ขนมธัญญาพืช จุดขายคือส่วนผสมที่มีประโยชน์ และ RXBAR ระบุส่วนผสมอย่างเรียบงานและชัดเจนบนหน้าซองของสินค้า
4. เจ้าของก็เป็นส่วนหนึ่งของพนักงาน
ที่สำนักงาน RXBAR ไม่มีห้องทำงานของเจ้าของ, ทั้ง Peter Rahal และ Jared Smith นั่งทำงานร่วมกับพนักงานทุกคน ทีมงานจะได้สัมผัสสไตล์การทำงาน การพูดคุยขายสินค้า เจรจาธุรกิจ ได้เรียนรู้วิธีการทำงานของเจ้าของ และเกิดความรู้สึกผูกพันธ์เป็นกันเอง
5. ทุกความสำเร็จคือจุดเริ่มต้นใหม่
Peter Rahal และ Jared Smith ไม่ได้มองการขายกิจการเป็นการความสำเร็จสูงสุด แต่พวกเขามองว่า 1 ความสำเร็จคือจุดเริ่มต้นของก้าวใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม หลังขายกิจการไปแล้วพวกเขายังคงทำงานต่อไป และพวกเขายืนยันว่า พวกเขามีความสุขกับการทำงาน
Tips แนวคิดการเลือกผู้ซื้อกิจการ
RXBAR เป็นที่สนใจจากบริษัทนายทุนไม่ต่ำกว่า 10 ราย แต่หลายรายไม่ได้มีความสนใจในธุรกิจอาหารมากนัก พวกเขาสนใจเพียงการเข้าซื้อกิจการเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองอันจะน้อมนำไปสู่การระดมทุนเพิ่มและการผลักดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่ง Peter Rahal และ Jared Smith ไม่ได้ศรัทธาในตัวนายทุนกลุ่มนั้นมากนัก นอกจากนั้นการขายกิจการยังเป็นเรื่องยุ่งยากและกินเวลานาน เขาทั้งสองจึงอยากที่จะขายกิจการออกไปแบบ 100% จบ มากกว่าที่จะขายทีละส่วน กรณีดีลของ Kellogg’s ก็ใช้เวลาทั้งสิ้น 7 เดือนกว่าจะทำการซื้อขายกันเสร็จ
Peter Rahal และ Jared Smith กล่าวต่อ Inc.com ว่า Kellogg มีความเข้าใจในธุรกิจอาหารและเห็นคุณค่าในผลิตภัณฑ์ RXBAR ในขณะเดียวกัน Kellogg ก็เต็มไปด้วยทีมบริหารที่มีความรู้และวิสัยทัศน์ในกลุ่มธุรกิจที่พวกเขาทำ ซึ่งผู้ร่วมก่อตั้งก็จะสามารถเรียนรู้อะไรได้อีกมากจากการได้เป็นผู้ร่วมธุรกิจอย่าง Kellogg’s