ประวัติ Pierre Omidyar แห่ง eBay

หากย้อนกลับไปสักประมาณ 20 กว่าปี ใครกันจะคาดคิดว่าอินเตอร์เน็ตจะพาเรามาได้ไกลถึงจุดนี้ จุดที่โลกทั้งใบถูกเชื่อมต่อผ่านหน้าจอขนาดเท่าฝ่ามือ และดูเหมือนว่าจะไปได้ไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดและมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตมากที่สุดอย่างหนึ่งคือการซื้อขายสินค้า เช่นเดียวกับ Pierre Omidyar จากความชื่นชอบส่วนตัวที่ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐี ยังส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติการค้าขายสินค้าบนโลกไปตลอดกาล เขาทำได้อย่างไร

เส้นทางชีวิตที่เรียบง่ายกับความชื่นชอบในวัยเด็ก

Pierre Omidyar เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 1967 กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต่อจากนั้นได้ย้ายตามครอบครัวมาอาศัยที่รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา ในช่วงวัยรุ่นเขาสนใจด้านคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก จุดเริ่มต้นของการเขียนโปรแกรมครั้งแรกเกิดขึ้นตอนอายุ 14 ปี มาจากการที่เขาหนีเรียนวิชากายภาคเพื่อไปเล่นคอมพิวเตอร์ เมื่อถูกจับได้จึงได้รับการว่าจ้างจากครูใหญ่ให้เขียนโปรแกรมเพื่อจัดทำรายชื่อหนังสือให้ห้องสมุดโรงเรียนด้วยค่าแรง 6 เหรียญต่อชั่วโมง

จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจาก St.Andrew’s Episcopal School และในปี 1988 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จาก Tufts University หลังจากเรียนจบเขาทำงานในบริษัทที่พัฒนาซอฟท์แวร์ให้ Macintosh จากนั้นทำงานให้กับ Claris ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Apple งานอดิเรกของเขาคือการทำเว็บไซต์ส่วนตัว

จุดเริ่มต้นจากงานอดิเรกที่เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล

ปี 1991 ผู้ที่หลงใหลในซอฟท์แวร์อย่าง Pierre Omidyar ได้ร่วมกับเพื่อนอีกสี่คนก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Ink Development Corp. ซึ่งสองปีต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น eShop และถูกซื้อโดย Microsoft ในปี 1996 เขาได้ใช้เวลาว่างในการทดลองเขียนโปรแกรมในเว็บไซต์เพื่อให้ผู้คนสามารถติดต่อซื้อขายและทำการประมูลสินค้า ในตอนนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Echo Bay Technology Group ซึ่งเขาเป็นเจ้าของ โดยสินค้าที่ Pierre ประเดิมขายเป็นชิ้นแรกคือ เครื่องชี้เลเซอร์ที่เสียแล้วของเขาในราคา $14

ในเดือน กันยายน 1995 ได้เปิดเว็บไซต์อย่างเป็นทางการชื่อ AuctionWeb.com สำหรับทำการประมูลและขายสินค้า หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายใน 5 เดือนจากงานอดิเรกเล็กๆกลายเป็นอาณาจักรที่มีมูลค่าถึง 3 ล้านเหรียญ ต่อมาในปี 1997 AuctionWeb.com เปลี่ยนชื่อเป็น eBay เริ่มมีการขยับขยายและมองหาผู้บริหารฝีมือดีเข้ามาช่วยด้านธุรกิจ

และในปี 1998 eBay เป็นเว็บไซต์ประมูลออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จมาก มีผู้ใช้งาน 2.1 ล้านบัญชี มีรายได้ 750 ล้านเหรียญ และเข้าตลาดหุ้นในปีนั้น ซึ่ง Omidyar ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธาน และ Meg Whitman ดำรงตำแหน่ง CEO ในตอนนั้น

eBay เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีการเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ รวมถึงการซื้อกิจการและร่วมทุนต่างๆ คาดการณ์กันว่าในช่วงเริ่มต้นของเว็บไซต์สามารถขายสินค้าได้เฉลี่ยถึง 800,000 ชิ้นต่อวัน

กุญแจของความสำเร็จ

1. วิสัยทัศน์ที่ดี

ในตอนแรกที่เริ่มจากงานอดิเรกกลายเป็นว่าได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลาม ทำให้เขากลับมานั่งทบทวนว่าควรจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร การได้รับความสนใจไม่ได้นำมาซึ่งเรื่องดีเพียงอย่างเดียว ยังมีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงแรกที่ต้องจัดการให้ได้ วิสัยทัศน์ที่ดีจะนำมาซึ่งการสร้างรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ ทำให้คนทั่วไปได้รับประโยชน์จากการมีส่วนร่วมนี้

2. ความซื่อสัตย์

การค้าขายบนโลกออนไลน์มีสิ่งที่หลายคนกังวลคือเรื่องของความไว้วางใจกัน เป็นสิ่งที่ eBay พยายามแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของพวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากแค่ไหน แน่นอนว่าย่อมต้องเกิดปัญหาที่นอกเหนือจากการควบคุม อยู่ที่ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

3. ความเพียรพยายาม

ไม่มีใครสามารถเดาได้ถึงการเติบโตและความสำเร็จในอนาคต ระหว่างทางที่ต้องแบกรับกับปัญหารวมถึงอุปสรรคต่างๆ ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้เกิดความผิดพลาดของ eBay จากการที่ระบบไม่สามารถให้บริการได้นานถึง 22 ชั่วโมง เมื่อโลกกำลังเฝ้าดูความล้มเหลวที่กำลังเกิดขึ้น ในขณะที่อีกมุมหนึ่งถือเป็นความท้าทายเช่นกัน สิ่งเดียวที่ช่วยให้ยืนหยัดอยู่ได้คือความพยายามในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง

4. ความรับผิดชอบ

จากปัญหาใหญ่อย่างกรณีระบบล่ม ทางผู้บริหารและพนักงานกว่า 400 ชีวิตได้โทรหาลูกค้ามากกว่า 10,000 รายเพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาจนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นการรับมือกับปัญหาที่ชนะใจลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม

แนวคิดที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจและชีวิต

1. ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูกค้า

ปัญหาเกิดขึ้นได้เสมอกับทุกๆเรื่อง ในส่วนของธุรกิจเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นการรีบแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาแสดงให้เห็นถึงการมีความรับผิดชอบที่ดี ถือเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์จะเป็นไปในทิศทางใด นั่นแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเอาใจใส่ต่อลูกค้า เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรอีกด้วย

2. เงินอาจไม่ใช่ตัวแปรสำคัญเสมอไป การสร้างสรรค์สิ่งที่ดีย่อมมาพร้อมโอกาสที่ดี

ไม่ว่ารูปแบบธุรกิจจะเป็นแบบใดย่อมต้องมีการพัฒนาและปรับตัวอยู่เสมอ แรงบันดาลใจที่ดีย่อมนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆที่สร้างทั้งโอกาสและอาจสร้างมูลค่ามหาศาลได้ในอนาคต มากกว่าการที่จะโฟกัสในเรื่องของตัวเงินจนมองไม่เห็นช่องทางอื่นที่นำไปสู่จุดหมายที่ดียิ่งขึ้น

จากความชื่นชอบส่วนตัวจนกลายมาเป็นการสร้างตลาดใหม่แหล่งรวมผู้คนในการซื้อขายสินค้า เรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของ E-commerce แม้แต่ตัวของ Pierre Omidyar ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาได้ไกลถึงขนาดนี้ เป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อทำในสิ่งที่รักและถนัด บวกกับการมีวิสัยทัศน์อันชาญฉลาดจะเป็นใบเบิกทางไปสู่ความสำเร็จและไม่แน่ว่าคุณเองก็อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีแบบนี้ได้เช่นกัน