ประวัติ Peter Thiel หนึ่งในแก๊ง Paypal Mafia คู่หู Elon Musk

จะมีสักกี่คนที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงโลกและทำสำเร็จจนกลายเป็นตำนาน สำหรับธุรกิจเกือบทั้งหมดที่กำลังเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ต ทุกอย่างถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันอย่างไม่มีข้อจำกัด ทั้งหมดนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากอะไร ใครกันที่สร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ได้ คงเป็นเพราะการตั้งคำถามที่ดีมักนำไปสู่คำตอบที่ดี นั่นหมายถึงการท้าทายทั้งสติปัญญาและจิตใจ มีเพียงความกล้าเท่านั้นที่ทำให้เกิดความแตกต่าง Peter Thiel ถือเป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ของการเป็นอัจฉริยะตัวจริง

จากนักเรียนกฎหมายก้าวสู่ Silicon Valley

Peter Thiel เกิดที่ประเทศเยอรมนี ด้วยวัยเพียง 1 ขวบครอบครัวของเขาย้ายมาที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากพ่อของเขาเป็นวิศวกรเคมี จึงต้องย้ายตามพ่อและใช้ชีวิตอยู่ที่แอฟริกาช่วงหนึ่ง ย้ายโรงเรียนบ่อยถึง 7 ครั้ง จนท้ายที่สุดครอบครัวของเขาย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเขาอายุ 10ขวบ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

หลังจบการศึกษาระดับมัธยม ได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีสาขาปรัชญา และระดับปริญญาโทด้านนิติศาสตร์จาก Stanford University และหลังจากเริ่มทำงาน เขาเป็นคนที่เปลี่ยนงานบ่อยมาก เริ่มจากการเป็นเสมียนให้ผู้พิพากษาศาลฎีกาในจอร์เจีย เป็นนักกฎหมายการเงินให้บริษัทกฎหมายในนิวยอร์ก ทำงานซื้อขายอนุพันธ์ทางการเงิน จนสุดท้ายรู้ว่างานที่ผ่านมาไม่ตอบโจทย์ชีวิตเลย จึงตัดสินใจกลับแคลิฟอร์เนียในวัยเกือบ 30ปี

ในตอนนั้นเองเขาได้เล็งเห็นแล้วว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอินเตอร์เน็ตกำลังเข้ามามีบทบาทด้านเศรษฐกิจและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จึงตัดสินใจระดมทุนจากครอบครัวและเพื่อนจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ Thiel Capital Management จึงถือกำเนิดขึ้น

จุดเริ่มต้นของ PayPal ที่เปลี่ยนจากการแข่งขันมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ

ผ่านไป 2 ปีกับโครงการต่างๆที่ไม่สำเร็จ ในปี 1998 เขากับเพื่อนจึงตัดสินใจตั้งบริษัทซอฟท์แวร์ที่ชื่อว่า Confinity ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Fieldlink เป็นระบบชำระเงินและเข้ารหัสของเครื่อง Palm Pilot นักลงทุนยุคแรกได้แก่ Nokia Ventures, Deutsche Bank และ Bell Melton

ปลายปี 1999 ระบบชำระเงินออนไลน์อย่าง PayPal ได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยความคิดที่ว่าเงินกระดาษเป็นเทคโนโลยีโบราณ และเป็นการชำระเงินที่ไม่สะดวก เสี่ยงต่อการสูญหายหรือถูกขโมย

ด้วยรูปแบบธุรกรรมที่ล้ำสมัยมากในยุคนั้น ในขณะที่อีกฝั่งอย่าง Zip2 ก็ประสบความสำเร็จ ทำให้สองบริษัทดาวรุ่งอย่าง Confinity และ X.com แย่งชิงความเป็นหนึ่ง จนท้ายที่สุดในปี 2000 จึงตัดสินใจรวมกิจการเข้าด้วยกัน

PayPal เข้าสู่ตลาดหุ้นในปี 2002 และถูกซื้อกิจการไปโดย eBay มูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2003 ก่อตั้ง Palantir ซึ่งเป็นบริษัทด้าน cyber security ขนาดใหญ่ ที่ CIA ได้ให้การสนับสนุนซึ่งมีมูลค่าถึง 20 พันล้านเหรียญ จนกลายมาเป็น Startup อันดับ 3 ของสหรัฐอเมริกา

นอกจากนั้นเขายังเป็นนักลงทุนรายใหญ่กลุ่มแรก ๆ ของ Facebook ด้วยเงินลงทุน 500,000 เหรียญ และมีมูลนิธิ Peter Thiel ถูกก่อตั้งขึ้นมามีวัตถุประสงค์คือการพัฒนาวิทยาการด้านเทคโนโลยี รวมถึงภาคธุรกิจอื่นๆ โดยมองว่าซิลิคอนวัลเล่ย์ไม่ควรเป็นแหล่งเดียวในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ

Peter Thiel เป็นผู้เขียนหนังสือ Zero to One ที่รวบรวมมุมมองและประสบการณ์ของเขาถือเป็นตำราของสตาร์ทอัพทั่วโลก

กุญแจสู่ความสำเร็จในการเริ่มต้นทำธุรกิจให้มุ่งไปที่กลุ่มลูกค้าขนาดเล็กก่อน การทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนน้อย ย่อมง่ายกว่าการเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ โฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมายว่าลูกค้าของเราเป็นใคร อย่าเพิ่งไปคาดว่าว่าทุกคนต้องชอบผลิตภัณฑ์หรือสินค้านี้ และคอยดูว่ามีผลตอบรับอย่างไร จากนั้นจึงค่อย ๆ ขยับขยาย

กุญแจความสำเร็จ

1. อย่าคิดที่จะเลียนแบบใคร

หากทุกคนเดินตามรอยที่คนสำเร็จทิ้งไว้ให้ โลกจะมีการพัฒนาได้อย่างไร ความเก่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลแต่ละคนล้วนมีดีในแบบของตนเอง ไม่มีเหตุผลที่ต้องไปลอกเลียนแบบใคร หาหนทางของตนเองให้เจอ ไม่สำคัญว่าก่อนหน้านี้เรียนอะไรมา มีประสบการณ์หรือไม่ ทุกอย่างอยู่ที่ความคิดและกล้าลงมือทำ

2. ความขยันไม่ใช่โอกาสอีกต่อไป

ความขยันตั้งใจเป็นเรื่องดีแต่ไม่ได้นำไปสู่โอกาสที่ดีเสมอไป ลองนึกดูว่าต้องนั่งทำงานแบบเดิมๆในทุกๆวัน คาดหวังว่าจะมีคนเห็นและหยิบยื่นโอกาสให้ เมื่อรู้ตัวว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ อย่างแรกเลยคือต้องพาตัวเองไปอยู่ให้ถูกที่ และถูกเวลา ประกอบกับการตัดสินใจเลือกอย่างชาญฉลาดจะเป็นการเพิ่มโอกาสมากกว่าเดิม

3. บางครั้งการแข่งขันถือเป็นเรื่องดี

ต้องทำใจยอมรับแต่แรกเลยว่า เมื่อตัดสินใจก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการแล้ว การแข่งขันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะดุเดือดแค่ไหน หากผ่านไปได้นั่นหมายถึงการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ต้องคอยดูว่าคู่แข่งทำอะไร ไปถึงไหนแล้ว อย่าสนใจแค่ธุรกิจของเราอย่างเดียว ยิ่งทิ้งห่างไปเท่าไหร่ยิ่งได้เปรียบมากเท่านั้น

ข้อคิดที่คุณสามารถนำไปปรับใช้

1. มีวิสัยทัศน์ที่มองขาดว่าโลกต้องการอะไร

สินค้าของเราในตอนนี้สามารถครองตลาดได้นานแค่ไหนในอนาคต ต้องคาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มข้างหน้าจะเป็นไปในทิศทางใด จะรับมืออย่างไร มีการเตรียมพร้อมแค่ไหน หากสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้สร้างกระแสได้โดยที่ลูกค้าเป็นฝ่ายที่ต้องปรับตัวตาม ถึงตอนนั้นคงไม่ต้องเหนื่อยกับการวิ่งตามผู้บริโภคอย่างแน่นอน

2. กล้าท้าทายแนวคิดแบบเดิมๆและสร้างสรรค์สิ่งใหม่

ทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนและต้องเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น จากความคิดบางอย่างอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่คาดไม่ถึง ความยากไม่ได้อยู่ที่การคิดแต่อยู่ที่ความกล้าที่จะลงมือทำต่างหาก

Peter Thiel ถือเป็นสุดยอดนักลงทุนผู้อยู่เบื้องหลังบริษัท Tech Startup จำนวนมาก หลังจากที่แยกตัวออกจาก PayPal แล้วก็ยังคงก้าวต่อไปและประสบความสำเร็จเรื่อยมา ด้วยวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลมบวกกับความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงโลกเพื่อไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชายผู้นี้ถึงได้กลายเป็นสุดยอดของตำนานอย่างแท้จริง