สำรวจ ยอดขายค้าปลีกผ่านหน้าร้านลด ออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ผลสำรวจตลาด FMCG (Fast Moving Consumer Goods) ปีนี้เติบโตลดลง สาเหตุผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย หนึ่งในพฤติกรรมที่มีรายงานคล้ายกรณี ธุรกิจร้านอาหารยอดตกกันระหว่าง 20-50% คือ คนจับจ่ายทางหน้าร้านน้อยลง

เว็บไซต์ BrandAge เผยข้อมูลสำคัญ  ที่เก็บตัวเลขโดย บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ KWP บริษัทที่ทำหน้าที่วิจัยพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเชิงลึก พบว่า ไตรมาส 2 ของปี 2017 ตลาด FMCG มีการเติบโตค่อนข้างต่ำเพียง 1.0% เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่เติบโต 2.4% และคาดว่าจะให้เติบโตโดยรวมของปีนี้เท่ากับปีที่แล้วคือประมาณ 1.7% +/- ซึ่งถือว่าต่ำมาก

พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีต่อหน้าร้าน (สรุปโดย BrandAge)

  • ผู้บริโภคไปสโตร์ในความถี่ที่น้อยลง
  • ใช้จ่ายต่อบิลลดลง
  • จำนวนสินค้าน้อยลง
  • ลดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จะซื้อให้น้อยลง รวมถึงลดขนาดแพ็กไซส์ลง
  • ผู้บริโภคจะเลือกซื้อตอนที่มีโปรโมชั่น
  • ผู้บริโภคจะเปลี่ยนร้านค้าปลีกหันไปหาร้านที่ขายสินค้าถูกกว่ามากขึ้น

แนวโน้มพฤติกรรมจากนี้ไป (สรุปโดย กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล)

  • นักช้อปยังคงประหยัดการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องและไม่ซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น
  • ประโยชน์ที่ได้รับจากสินค้าเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้า
  • เงื่อนไขด้านขนาดบรรจุ ราคา และช่องทางจัดจำหน่าย มีความแตกต่างอย่างยิ่งต่อการทำตลาด
  • พฤติกรรมการบริโภคระหว่างนักช้อปที่เป็นคนเมืองและผู้บริโภคตามเขตชนบท
  • ร้านค้าขนาดเล็กผ่านการค้าทางอีคอมเมิร์ช (E-commerce) จะมีแนวโน้มยอดขายเพิ่มขึ้นใน

ออฟไลน์ลด ออนไลน์รุ่ง

จาก Bullet point ข้อสุดท้ายที่สรุปโดย กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล มีความสอดคล้องกับข้อมูลสถิติจากบริษัท Temasek Holding และ Google Inc. ที่พบว่าการซื้อสินค้าออนไลน์ในกลุ่ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เติบโตขึ้น โดยการประมาณการณ์นับตั้งแต่ปี 2015 เผยให้เห็นว่าจากนี้ไปจนถึงปี 2025 ตลาดมีแนวโน้มเติบโตถึง 12 เท่า มูลค่าตลาดซื้อขายออนไลน์จาก 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2015 ไปแตะ 88,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2025

ผู้เล่นรายใหญ่บุกเอเชีย

ก่อนหน้านี้ Jack Ma ยักษ์อีคอมเมิร์ซแห่ง Alibaba ได้รุกพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านแพลทฟอร์ม Lazada ซึ่งมีทั้งใน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย

และล่าสุดยักษ์ใหญ่จากอเมริการอย่าง Amazon ก็เข้ามาลงพื้นที่อย่างจริงจัง ปักหมุดในสิงคโปร์ด้วยแบรนด์ Amazon Prime Now อีคอมเมิร์ซซื้อของออนไลน์ที่รวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่ชูศักยภาพการจัดส่งแบบเกือบจะ Real-time คือตั้งเป้าส่งภายในวันเดียว หรือแม้แต่ภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังสั่งซื้อ

ซึ่งหากทำสำเร็จและระบบนี้ขยายไปทั่ว เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ค้าปลีกออฟไลน์หลาย ๆ แม้แต่รายใหญ่อาจกระทบเป็นอันมาก เพราะการจัดส่งที่เร็วขนาดนี้ อาจเร็วกว่าการที่คนเดินทางออกไปซื้อที่ห้างร้านด้วยตนเอง

รูปภาพโดย https://asia.nikkei.com/magazine/20170803/On-the-Cover/Amazon-and-Alibaba-square-off-in-Southeast-Asia
รูปภาพโดย https://asia.nikkei.com/magazine/20170803/On-the-Cover/Amazon-and-Alibaba-square-off-in-Southeast-Asia