ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาในวงการ Blogging และ Internet Marketing มีเศรษฐีหนุ่มสาวเกิดใหม่หลายแห่ง ทั้งอเมริกา อังกฤษ อินเดีย จีน ฮ่องกง และไทย ฯลฯ คนเหล่านี้สร้างตัวจากการทำเงินออนไลน์ หรือ Internet Marketing ที่เรียกสั้นๆว่า IM เป็นการทำเงินจากค่าโฆษณาหรือ Ads เช่น Google AdSense, Yengo หรือค่ายผู้ให้บริการ Ads และ Paid Traffic ต่างๆ และอีกประเภทคือ Affiliate Marketing รับเงินจากค่านายหน้าในการทำลิงค์สินค้าไปโปรโมทผ่านเครือข่ายเว็บไซต์ของตนเอง เช่น Amazon Affiliate, Sell Health, Market Health, Click Bank, Link Share, E-Junkie ฯลฯ จากนั้นก็เกิดปรากฏการณ์การระเบิดตัวของบรรดาเว็บไซต์แนว How to Get Rich + Internet Marketing อย่างมากมาย
นักเล่น Internet Marketing ทั้งมือเก่าที่มีแนวทางเฉพาะของตัวเอง และ มือใหม่ที่ส้มหล่นจับถูกเส้นถูกจังหวะเลยเป้าแตก และ มือโบ๋ไม่ได้เคยทำอะไรกับเขาแต่อาศัยกระแสและความรู้มาปะติดปะต่อ ก็หันมาสร้าง “Audience, Build Traffic and Make Money” กับการขายเทคนิค Internet Marketing กันจนลายตาทั่วไซเบอร์สเปซ ประเด็นคืออะไรที่มันมากไปก็ล้น คนทำเว็บแนว How to Get Rich with Internet Marketing ถ้าเยอะไปคนก็งง สุดท้ายอะไรคือความแตกต่างของแต่ละเว็บและแต่ละโปรดักท์ ยิ่งไปกว่านั้นบางคนนอกจากจะไม่ทำเงินในเครื่องมือ Internet Marketing แล้ว ก็ยังไม่ทำเงินจากการขาย Internet Marketing Product อีกด้วย
ปัญหานี้เกิดขึ้นกับทุกชาติ แม้แต่ใน Warrior Forum (เว็บบอร์ด Internet Marketing ของฝรั่ง) ก็มีพูดถึงเจ้าของ Information Product แนว How-To Internet Marketing ไม่สามารถขายผลิตภัณฑ์ของตนได้และอาจต้องเสนอค่านายหน้าสูงจนตัวเองไม่คุ้มคืออัตรา 70% commission เพื่อดึงดูดให้นักโปรโมทสนใจเอาผลิตภัณฑ์นั้นๆไปทำ affiliate ให้ นี่คือปัญหาของการทำ Internet Marketing ในสาขาของการทำเงินด้วย Information Product แนว How-To Internet Marketing (อีกที) เมื่อคนทำสิ่งๆเดียวกันมันเยอะและคนเริ่มเห็นว่ามันง่ายและแค่ทำ Sales Page มาหนึ่งอันแล้วเงินจะไหลมาโดยอัตโนมัติ…. ความจริงคือชีวิตมันไม่ได้สำเร็จรูปขนาดนั้น
อีกครั้งที่ต้องย้ำว่าหัวใจของ Blog คือเนื้อหาที่มีประโยชน์และการส่งต่อประโยชน์ของเนื้อหาไปสู่ผู้อ่าน ถ้าคุณเปิดบล็อกแล้วอัดเนื้อหาคุณภาพต่ำที่ไปขุดๆมาประกอบกันแบบลวกๆ หรือไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เอาแต่ปริมาณ มุ่งปั่น search index ยัดด้วยข้อความ ads, spam link, hardcore sales ฯลฯ มันไม่เวิร์คครับ คนอ่านไม่กลับมายังเว็บแบบนี้และคุณก็ไม่สามารถที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพในสาขาที่คุณ Blog ได้เช่นกัน
Blog Monetization หรือการทำเงินผ่าน Blog มีมากมายหลายสาขานอกเหนือจาก Internet Marketing เพราะ Blog เป็นเวทีเสนอความรู้ นั่นหมายความว่าคนมีความรู้ทุกแขนงสามารถนำมาจัดแสดงผ่านเว็บบล็อกและสามารถทำเงินจากความรู้ของตนเองในรูปแบบของ contract service, consultancy, coaching, membership subscription, online tutor, e-books, seminar & meeting เป็นต้น
Niche site ภาษาอังกฤษ How to Become Translator.Com
ตัวนี้เป็น niche site ที่อยู่นอกสาขา internet marketing โดยสิ้นเชิง มุ่งเน้นที่สายอาชีพนักแปลอิสระโดยนำความรู้จากประสบการณ์จริงที่ผมเคยทำมาตลอด 3-4 ปีมารวบรวมเป็นบล็อกที่เผยแพร่ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานแปลแบบเริ่มจากศูนย์จนถึงร้อย ซึ่งอันที่จริงตอนแรกผมคิดว่าจะทำเป็น Sales Page เพียงหน้าเดียวเพื่อขายอีบุ๊กแต่ผมพอทราบมาว่า Google เองไม่ชอบพวก Sales Page หน้าเดียวและในขณะเดียวกันผมก็จะเพิ่มคุณค่าอะไรลงให้กับนักแปลหน้าใหม่ได้ใช้ประกอบการพิจารณาที่จะซื้ออีบุ๊ก ผมจึงเพิ่ม web page ลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งกลายเป็น 7 pages โดยมี
- About Author: ประวัติเกี่ยวกับผมในเรื่องของการเป็นนักแปลอิสระ
- Beginner Guide x 4 หัวข้อ: สำหรับมือใหม่อยากแปลได้สำรวจตรวจสอบจิตใจตัวเองว่าเหมาะกับงานนี้ไหม
- Start Up Tool Kits: ข้อมูลขั้นที่สองสำหรับคนที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นได้ใช้เตรียมตัวเริ่มก้าวแรก
- Sign Up Free Sample: ผมจะใช้เมนูนี้ในการทำ Email List Building
พอมันออกมาเป็น 7 web pages ดังกล่าวผมจึงเริ่มมองว่านี่มันไม่ใช่แค่ sales page แล้ว แต่มันสามารถเป็น niche site ได้เลย แล้วทำไมผมถึงไม่พัฒนาต่อล่ะ! ผมจึงตัดสินใจที่จะพัฒนาต่อโดยจะเริ่มวางแผนในส่วนของ Email List และโครงสร้างเนื้อหาของ Newsletter วางแผนการป้อนบทความระยะยาวเพื่อสร้าง search index ใน Google
ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์และเรียก traffic ผมจะอาศัย free traffic source โดยการไปพูดคุยและแนะนำบทความผ่าน LinkedIn และจะหาแหล่งสมัครเขียน Guest Post ให้เว็บอื่น ส่วน Facebook Ads นั้นผมมองว่าไม่ค่อยเวิร์คเท่าไรในการโปรโมท Niche Site ที่ค่อนข้างเฉพาะทางแบบนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราไม่มี Facebook Page มารองรับ (ซึ่งผมยังไม่มีโครงการจะทำ Facebook Page ในช่วงนี้)
ส่วนแนวทางทำเงินจะประกอบไปด้วย สินค้าหลักคือ E-Book How to Start Translation Service in 30 Days และ Affiliate Marketing โดยตอนนี้ผมเริ่มกับค่าย One Hour Translation บริษัทนายหน้าจัดหาและแปลงานด่วนที่มีเครือข่ายนักแปลทั่วโลกและให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง 7 วัน
Please visit: www.howtobecometranslator.com
.
เกี่ยวกับผู้เขียน: พรพรหม กฤดากร เริ่มต้น Blog ด้าน Career Development แนะแนวเทคนิคสร้างมูลค่าเพิ่มในสายอาชีพของบุคคลตั้งแต่ปี 2010 ควบคู่ไปกับการล้มลุกคลุกคลานในการสร้างธุรกิจออนไลน์ก่อนค้นพบว่าแนวทางการทำเงินที่มั่นคงอุ่นใจที่สุดคือทำเงินจาก Skill & Knowledge หรือการขายความรู้ ผลงานปัจจุบันได้แก่
www.theceoblogger.com
www.howtobecometranslator.com
E-Book CareerAlive 2011 (Discontinued)
E-Book CareerAlive 2012 (Discontinued)
E-Book CV Writing Academy (Discontinued)
E-Book Merits in A Second
E-Book Awakening Buddha
E-Book Google Survival Guide
E-Book The Art of Blog
E-Book How to Start Translation Service in 30 Days
