บริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง เนสเล่ท์ Nestlé จากสวิตเซอร์แลนด์ กำลังเร่งขยายตลาดกาแฟในสหรัฐฯ โดยการเข้าถือหุ้นใหญ่ใน Blue Bottle Coffee ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย มีการประเมินมูลค่าถึงกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 2,300 ล้านบาท
Blue Bottle Coffee คือสตาร์ทอัพร้านกาแฟออแกนิค ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 และตลอดทางสามารถระดมทุนรวม 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากนักลงทุนมากมาย อาทิ Bono นักร้องนำวง U2, ผู้ก่อตั้ง Twitter, ผู้ก่อตั้ง Instagram ฯลฯ ร้านกาแฟของ Blue Bottle นั้นมีสไตล์ที่น่าดึงดูดใจเหล่าฮิปส์เตอร์เป็นอย่างยิ่ง และที่ Blue Bottle ใช้เมล็ดกาแฟออแกนิค ที่ต้องปลูกจากแหล่งที่ได้มาตรฐานโดยไม่ใช้สารเคมี และคั่วบดกันสด ๆ ภายในร้าน โดยจะไม่คั่วไว้นานเกิน 2 อาทิตย์ และเพื่อรักษาคุณภาพ Blue Bottle Coffee จึงไม่ขายส่งเมล็ดกาแฟ และไม่ขายแฟรนไชส์
Blue Bottle มีสาขาในรัฐต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา ทั้งแคลิฟอร์เนีย, นิวยอร์ก, ไมอามี และบางส่วนในโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ เนสเล่ท์จะต้องจ่ายเงินถึง 500 ล้านดอลล่าร์ สำหรับการเข้าถือหุ้น 68% ใน Blue Bottle และตั้งเป้าจะขยายสาขาให้ครบ 50 สาขา ภายในปลายปีนี้
Blue Bottle มองว่า โอกาสที่จะขยายสาขาไปทั่วทุกที่แบบ Starbucks แบรนด์จะต้องดึงดูดลูกค้ามากกว่าคนที่แค่เข้ามาแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว แต่จะต้องให้อยู่ในร้านและดื่มด่ำนาน ๆ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับ Starbucks และทำให้แบรนด์ยิ่งใหญ่ แม้ว่าตอนนี้ Blue Bottle จะครองตลาดได้เพียงส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Starbucks ก็ตาม
“ตอนนี้ Blue Bottle Coffee ถือเป็นแบรนด์กาแฟที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาและญี่ปุ่น” Mike Volpi Co-founder ของ Index Ventures กล่าว
“ความสำเร็จของ Blue Bottle Coffee ถือเป็นการการันตีความฉลาดและความคิดสร้างสรรค์ของ James และ Bryan ที่สร้างแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์และคุณค่าแตกต่างจากแบรนด์อื่น และสามารถขยายไปถึงฐานลูกค้าที่กว้างมากขึ้นได้ พลังของ Blue Bottle Coffee ทำให้เรารู้สึกอยากจะลงทุนด้วย และเรารู้สึกยินดีมาก ๆ ที่ได้เห็นพวกเขาสร้างบริษัทที่มีความมั่นคงขึ้นมาได้”
เนสเล่ท์นั้นได้เคยลงทุนในแบรนด์กาแฟใหญ่ ๆ มาแล้ว 2 แบรนด์ เมื่อ 2 ปีก่อน นั่นคือ Starbucks และ Keurig Green Mountain โดยผ่านกองทุนที่ชื่อว่า JAB ด้วยมูลค่า 13,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้เนสเล่ท์ได้เอาจริงเอาจังกับธุรกิจกาแฟมานานแล้ว ในบ้านเราจะรู้จักกับเนสกาแฟ Nescafé และล่าสุดกับ Nespresso เครื่องชงกาแฟสำเร็จรูป แต่การลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพด้วยมูลค่าสูงขนาดนี้ทำให้เห็นว่าธุรกิจกาแฟสตาร์ทอัพ ไม่ใช่แค่การทดลองทำธุรกิจเล่น ๆ แต่สามารถเข้าถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มองหาตลาดใหม่ ๆ ได้และสามารถทำให้เกิดมูลค่าสูงได้ เพียงแต่ต้องมีเอกลักษณ์และโดดเด่นมากพอ ก็จะสามารถดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนได้เพื่อขยายขนาดไปให้ถึงระดับเดียวกับ Starbucks
ที่มา techcrunch , FT
และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้
หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใคร
