Dean Graziosi (ดีน เกรซิโอสี) ชายผู้ป่วยเป็นสมาธิสั้น จนพ่อแม่และคุณครูต่างเป็นกังวลใจต่อชีวิตในอนาคตของเขา และมันทำให้เขาพลอยสูญเสียความมั่นใจในตัวเองตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ในที่สุด เขาก็ค้นพบวิธีพัฒนาตัวเองให้เติบโตมาเป็นทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน นักพูด และนักเขียนหนังสือที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และออกเดินทางสอนผู้คนให้กล้าเริ่มต้นทำตามความฝันของตัวเอง
เขาถ่ายทอดประสบการณ์ลงในหนังสือที่มีชื่อว่า Millionaire Success Habits โดย CEO Channels ได้กลั่นข้อคิด 4 ข้อจำง่าย เอาไปใช้ได้ทันที ดังนี้
1. ห้ามปรึกษาคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ
คุณดีน เสนอว่า ถ้าคุณอยากที่จะกล้าเริ่มต้นทำตามความฝัน คุณจะต้องปรึกษาคนที่ประสบความสำเร็จจากการทำสิ่งที่เขารัก และถ้าจะให้ดี เขาควรเป็นบุคคลตัวอย่างในเรื่องเดียวกับที่คุณอยากจะทำ
ถ้าคุณยังหาบุคคลต้นแบบตัวเป็น ๆ ไม่ได้ ให้หาอ่านจากบทความสัมภาษณ์คนสำเร็จตามเว็บไซต์ หรือคลิปยูทูบ เป็นต้น ฯลฯ
พร้อมกับเสนอว่า ห้ามขอคำปรึกษาจากคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อให้คน ๆ นั้นจะเป็นเพื่อนสนิท หรือแม้แต่คนในครอบครัวของคุณก็ตาม
ไม่ได้บอกว่าคนเหล่านั้นไม่ดีนะครับ เขาอาจเป็นเพื่อนที่ดี เป็นพ่อเป็นแม่ และคู่รักที่แสนดี เพียงแต่เขาอาจไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำแนะนำในเรื่องเฉพาะทางนั้น ๆ แก่คุณ
และนอกจากจะให้คำแนะนำดี ๆ ไม่ได้แล้ว ยังมีความเสี่ยงที่พวกเขาจะเป็นห่วงคุณมากเกินไป จนเผลอพูดจายับยั้งคุณด้วยถ้อยคำดับฝันต่าง ๆ นา ๆ จนทำให้คุณหมดกำลังใจ
2. จงระวังสิ่งที่คุณคิดเห็นกับตัวเอง
จากประสบการณ์โค้ชผู้คนมาเป็นจำนวนมากทำให้เขาพบว่า ทุกคนมีความฝัน แต่คนส่วนใหญ่ติดหล่มความคิดลบ เช่น ฉันไม่มีต้นทุนชีวิต, ฉันไม่พูดไม่เก่ง, ฉันไม่มีความรู้ เป็นต้น ฯลฯ
เขาบอกว่า ต่อให้เป็นความจริงก็ตาม แต่การโฟกัสที่ความคิดลบ คือ ตัวขัดขวางเจริญก้าวหน้าอย่างร้ายกาจ
หากคุณเคยศึกษาเรื่อง พลังจิตใต้สำนึก และกฏแห่งแรงดึงดูด สองศาสตร์นี้จะสอนว่า ความคิดมนุษย์นั้นทรงพลังที่สุด คุณคิดเห็นอย่างไร คุณจะเป็นอย่างนั้น ความคิดภายใน สร้างโลกภายนอกของคุณ
และคุณดีน เองก็พบว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ…
เมื่อโรคสมาธิสั้นของเขา ทำให้ถูกครอบครัวและโรงเรียนเพ่งเล็งว่าเขาเป็นเด็กมีปัญหาในสังคม มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกด้อยค่า สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง และโลกของเขาก็เศร้าหมองไปหมด
กระทั่งวันหนึ่ง คุณดีน ได้พบกับ คุณเนด ฮาโลว์เวล ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้ป่วยสมาธิสั้นที่ได้ติดตามประวัติผู้ป่วยสมาธิสั้นมาเป็นเวลานาน เขาได้พลิกวิธีคิดให้กับ ดีน ว่า…
“ผู้ใหญ่บางคนแค่ไม่ชอบพฤติกรรมบางอย่างในตัวคนมีสมาธิสั้น จึงเหมารวมว่าคุณเป็นเด็กมีปัญหาในสังคม แท้จริงแล้วคุณเป็นคนมีศักยภาพในตัวเองสูง และสามารถประสบความสำเร็จชีวิตได้เช่นคนทั่วไป”
เมื่อเขาหยุดคิดลบ และเปลี่ยนมาคิดถึงความปรารถนาในชีวิต เขาก็เริ่มที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวที่เขาต้องทำจากวันนี้ เพื่อให้เดินทางไปยังเป้าหมายที่เขาปรารถนา
3. จงชัดเจนต่อความปรารถนาสูงสุดในชีวิต
ทุกคนอยากประสบความสำเร็จและร่ำรวย แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ทำสำเร็จ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ทำไม่สำเร็จ เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น?
สิ่งที่ คุณดีน ค้นพบจากการโค้ชผู้คนจำนวนมาก คือ คนส่วนใหญ่ไม่ชัดเจนต่อความปรารถนาสูงสุดในชีวิต
ทุกคนพูดเหมือน ๆ กันว่าอยากรวย แต่รวยแล้วอย่างไรต่อ คำถามง่าย ๆ ที่ลูกศิษย์ของเขาตอบไม่ได้ พอตอบไม่ได้ ความปรารถนาของคุณจึงเป็นความปรารถนาที่เลื่อนลอย เขาจึงหมดสงสัยว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงไม่สำเร็จสมปรารถนา
และเกิดเป็นแบบฝึกหัดที่เรียกว่า ‘7 Levels Deep’
เพื่อให้คุณไปถามตัวเองว่าอยากรวยเพราะอะไร ประโยชน์อะไรของการมีเงินเยอะ ๆ ฯลฯ จำนวนอย่างน้อย 7 ข้อเจาะลึกลงไปเรื่อย ๆ
คุณดีน บอกว่าเมื่อนำคำถาม 7 Levels Deep มาใช้กับลูกศิษย์คนหนึ่ง แล้วพบคำตอบที่น่าซาบซึ้งใจ
ลูกศิษย์ คนนี้หากฟังโดยผิวเผิยก็เป็นเพียงคนอยากรวยคนหนึ่ง แต่เมื่อถามเจาะลึกปรากฏว่าเขาต้องการอิสระภาพทางเวลาที่ได้จากความร่ำรวย ไปทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม
เมื่อถามว่าทำไมจึงอยากทำเช่นนั้น เขาตอบว่า แม่ของเขาเสียชีวิตในวันที่เขาเป็นคนติดยา เขารู้สึกเสียใจมากที่แม่มีภาพจำแบบนั้นในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เขาอยากจะสร้างภาพจำใหม่ของเขา ไม่ใช่แค่ให้กับแม่ แต่ให้กับคนทั้งโลก
4. รู้จักเขียน Not-to-do list
คุณอาจจะคุ้นเคยกับการเขียน To-do-list หรือสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันเพื่อให้เกิดความคืบหน้าสู่เป้าหมายใหญ่ของคุณ แต่คราวนี้ คุณดีน ภูมิใจเสนอให้เขียน ‘Not-to-do list’
คือ สิ่งที่ไม่ควรทำ สิ่งที่ควรคัดออกไปจากตารางชีวิต ได้แก่ กิจกรรมอะไรก็ตามที่ไม่ก่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้า หรือเป็นตัวทำให้เสียเวลาชีวิตของคุณโดยเปล่าประโยชน์
Not-to-do list ขั้นพื้นฐาน อาทิ การลดจำนวนเวลาในการเล่นโซเชียลมีเดีย การลดหรือจำกัดเวลาในการดูซีรีย์ เป็นต้น และขั้นแอดวานซ์ อาทิ การลดกระบวนการทำงานที่คุณไม่ถนัด ทำแล้วยิ่งทำให้กระบวนการพัฒนาล่าช้า ถ้าเป็นคนทั่วไปอาจจะแนะนำว่าไม่เก่งเรื่องไหนก็ไปฝึกเรื่องนั้น ข้อนี้อาจจำเป็นในกรณีที่คุณไม่เก่งอะไรสักอย่างเลย
แต่หากคุณมีความเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งอย่างชัดเจนแล้ว สิ่งที่ คุณดีน เสนอคือไปให้สุดในจุดแข็ง ส่วนจุดอ่อนหาคนที่เก่งอยู่แล้วมาช่วยงาน
และนี่คือ วิธีคิดและหลักปฏิบัติ ที่จะช่วยให้คุณกล้าตัดสินใจเริ่มต้นก้าวแรกในการทำตามความฝัน เช่น เริ่มอาชีพใหม่ เริ่มทำธุรกิจที่คุณสนใจ ฯลฯ ที่กลั่นมาจากหนังสือ Millionaire Success Habits โดย Dean Graziosi