สร้างรายได้ออนไลน์ไร้ต้นทุนกับ E-book และ Audiobook

หลายคนคุ้นเคยกับหนังสือเล่มเป็นอย่างดีแล้ว และตอนนี้จะเล่าไอเดีย หาเงินออนไลน์ แบบไร้ต้นทุนกับ E-book และ Audiobook โดย 2 ผลิตภัณฑ์นี้เป็นคนละรูปแบบกัน แต่มาจาก ‘ต้นกำเนิด’ เดียวกัน จึงจะนำมาเล่าพร้อมกัน

E-book คืออะไร?

E-book ย่อมาจาก Electronic book หรือ หนังสืออิเลคทรอนิกส์ ตัดกระบวนการผลิตแบบหนังสือเล่มออกไปเกือบทั้งหมด เหลือเพียง เขียน และ แปลงไฟล์เป็น E-book ต้นทุนการผลิตจึงต่ำมาก และต้นทุนในการทำซ้ำก็ไม่มี

แต่ในขณะเดียวกัน E-book บางหัวข้อ โดย นักเขียนบางคน สามารถขายได้ในราคา ‘เท่ากับหนังสือเล่ม’ หรือ อาจจะราคาสูงกว่าหนังสือเล่มในกรณีที่เป็น How-to ที่นิชมาก ๆ ส่วน E-book ที่ขายบนเว็บไซต์ Amazon.com จะตั้งราคาต่ำกว่าหนังสือเล่มเล็กน้อย

E-book รายได้เท่าไร?

บางคนอาจจะรู้แล้วว่าการขายหนังสือเล่มผ่านระบบสำนักพิมพ์แบบดั้งเดิมเพื่อเข้าไปวางขายหน้าร้าน ตัวนักเขียนจะได้ส่วนแบ่ง 10% แต่หากเป็น E-book ทำขายเองตรง ๆ ไม่ผ่านระบบใครเลย คุณอาจมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 90%

ในกรณีที่ขายผ่านแพลทฟอร์มขาย E-book อาทิ Ookbee.com ที่มีเทคโนโลยีป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ในระดับหนึ่ง คุณจะได้รับส่วนแบ่ง E-book สูงสุด 67.20% และ Audiobook สูงสุดที่ 40% – ซึ่งก็นับว่าสูงมาก ๆ เมื่อเทียบกับการมีระบบดูแลผลประโยชน์ให้คุณ

ปัจจุบันมีคนไทยสร้างรายได้จากการเขียน E-book เดือนละหลักแสนบาท ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น่าทึงมาก ๆ และในอเมริกาสร้างรายได้จาก E-book มานานแล้ว และบางคนทำเงินกันเป็นหลักล้านบาทจาก E-book ที่ทำขึ้นง่าย ๆ เพียงเขียนลง Microsoft word และแปลงเป็น PDF

กรณีศึกษาในต่างประเทศ

Pat Flynn เจ้าของเว็บไซต์ GreenExamAcademy.com ขาย E-book เกี่ยวกับการติวข้อสอบสถาปนิกในรูปแบบไฟล์ PDF ง่าย ๆ เปิดขายครั้งแรก เดือน ตุลาคม ปี 2008 เนื่องจากตอนนั้นระบบ Amazon Kindle E-book เพิ่งจะเกิดใหม่ ๆ ก็ยังไม่แพร่หลาน ใครจะขาย E-book ก็ทำเป็นไฟล์ PDF ขายกันตรง ๆ

เดือนแรก Pat Flynn ขายได้ 7906.55 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยตอนนี้ก็ประมาณ 2.4 แสนบาท และในปี 2009 เขาผลิต E-book ขายอย่างจริงจัง มีหลายซีรีย์ และขายเป็นแพกเกจ อาทิ E-book บวก Audiobook เป็นต้น

พอมีผลิตภัณฑ์หลายประเภท ปี 2009 ทั้งปีเขาทำเงินจาก E-book และ Audiobook รวมกัน 203,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6 ล้านกว่าบาท

ปัจจุบันเว็บไซต์ GreenExamAcademy.com ก็ยังคงดำเนินกิจการอยู่ และสร้างรายได้ Passive income ให้เขาเดือนละ 1200 – 1700 ดอลลาร์ ซึ่งอาจจะไม่ได้เยอะ แต่มันเป็นรายได้ Passive น่าจะเกือบ 100%

หรือส่วนตัวผมเองก็เริ่มต้นสร้างรายได้ออนไลน์จาก E-book เช่นกัน และทำเป็นไฟล์ PDF เช่นกัน ขายเล่มละ 290 – 390 บาท สร้างยอดขายสะสมประมาณ 5 แสนบาท ถามว่าโดนละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ คำตอบ คือ โดนแน่นอน! แต่ตอนนั้นผมเน้นโฟกัสที่ผลลัพธ์มากกว่า คือ อยากทำสำเร็จ และการลดความเสี่ยงของผมตอนนั้น คือ เปิด Pre-sales

ปัจจุบันมีวิธีป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่

ตอบแบบไม่ต้องคิดนาน ว่า มี! – แต่ต้องบอกก่อนว่าที่สุดแล้วโลกนี้ยังไม่มีเครื่องมือป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์แบบ 100% เพราะแม้แต่ระบบที่ดีที่สุดอย่าง Amazon Kindle ถ้าคนมันจะละเมิด เขาก็แค่ ‘ถ่ายรูป’ หนังสือคุณทีละหน้าแล้วเอาไปปล่อยแชร์ ฉะนั้น อย่ากังวลเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์จนไม่เป็นอันทำอะไร

ส่วนช่องทางการขาย E-book ที่ช่วยป้องกันได้ ในไทยได้แก่ Ookbee.com, Mebmarket.com, Ebooks.in.th, และ 4dbook.com เป็นต้น

จริง ๆ มีอีกหลายเจ้า แต่บางรายก็เล็กมากจนทราฟฟิกอาจไม่มากพอที่จะสร้างยอดขาย รวมไปถึง เว็บไซต์โพสต์นิยาย อาทิ Tunwalai.com และ Fictionlog.co ก็สร้างรายได้ให้คุณได้เช่นกัน

แพลทฟอร์มเหล่านี้มีนักเขียนที่สร้างรายได้กันเดือนละหลักแสนบาท ไปจนถึงเดือนละหลักล้านบาท – อ้างอิงจากที่ คุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Ookbee.com เล่าไว้ในคลิป BCM EP. 8 Digital Business Planning ณ ชั่วโมงที่ 01.00.00 เป็นต้นไป

 

รายได้จากการขาย หนังสือ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือเล่ม หรือ E-book จะไม่ได้มากมายอะไรในช่วงแรก จนกระทั่งคุณเขียนเนื้อหาและสร้างฐานแฟนคลับถึงระดับหนึ่งจึงจะสามารถทำเงินจำนวนมากจากงานเขียน

อีกกรณี คือการใช้กลยุทธ์ Outsource แล้วเอาปริมาณเข้าชนโดยไม่สนใจเรื่อง Branding ซึ่งวิธีนี้มีกรณีศึกษาทั้งคนไทยและฝรั่งที่ลงทุนจ้าง Ghost writer เขียน E-book ฮาวทู หรือ นิยาย บาง ๆ ความยาว 40 – 50 หน้า หรือไม่เกิน 100 หน้า ทำออกมาเยอะ ๆ แล้วโพสต์ขายบน Amazon.com

กลยุทธ์นี้ใช้กับเว็บไซต์ Amazon.com และสามารถช่วยให้คนโนเนมทั่วไปมีโอกาสมีรายได้ Passive income ประมาณ หมื่นห้า ถึง สามหมื่นบาท ต่อเดือนถ้าขยันพอ แต่ถ้าจะเอาหลักแสนหลักล้านบาทนั้น ยังไงก็ต้องเป็นสายสร้างแบรนด์ที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก

ซึ่งโดยส่วนตัวผม หากลงทุนก้อนหนึ่งแล้วมีผลตอบแทน หมื่นห้า ถึง สองหมื่น ต่อเดือนโดยไม่ต้องทำอะไรต่ออีกแล้ว แล้วมีช่องทางทำเงินแบบนี้สัก 5 – 10 ช่องทางก็ปิดเกมส์ได้เช่นกัน

สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปลงเป็น Audiobook

E-book มีราคาไม่สูงมาก แต่สามารถเพิ่มมูลค่าด้วยการแปลงเป็น Audiobook เพื่อช่วยให้คนขี้เกียจอ่านสามารถซื้อไปฟัง และเงินที่เขาจ่ายเพิ่ม คือ ‘ค่าอ่านให้ฟัง’ นั้นเอง

เว็บไซต์ที่ขาย Audiobook ในไทย ไดแก่ Ookbee.com และต่างประเทศได้แก่ Audible.com เจ้าของเดียวกับ Amazon.com หรือ คุณจะทำเองแล้วอัพโหลดขึ้นระบบออนไลน์ก็ได้ โดยของผมใช้ระบบของ Teachable.com

เปรียบเทียบราคาสินค้าโดย ยกตัวอย่าง The 4-Hour Work Week ของ ทิม เฟอร์ริส

หนังสือเล่มปกแข็ง ราคา 14.49 ดอลลาร์
ปกอ่อน ราคา 14.63 ดอลลาร์
E-book ราคา 9.99 ดอลลาร์
Audiobook ราคา 23.07 ดอลลาร์

อีกตัวอย่าง Rich Dad Poor Dad ของ โรเบิร์ต คิโยซากิ

หนังสือเล่มปกแข็ง ราคา 23.80 ดอลลาร์
ปกอ่อน ราคา 13.41 ดอลลาร์
E-book ราคา 5.12 ดอลลาร์
Audiobook ราคา 24.99 ดอลลาร์

กลายเป็นว่า ‘พออ่านให้ฟัง’ ก็มีราคาขึ้นมาทันที

ขั้นตอนผลิต Audiobook ง่าย ๆ ด้วยตนเอง

บันทึกเสียงอ่านจากหนังสือที่คุณเขียน หรือจ้างเขียน – เพราะถ้าคุณจ้างเขียน ลิขสิทธิ์เป็นของผู้ว่าจ้างทุกประการ แต่ก็แนะนำว่าทำสัญญาเรื่องลิขสิทธิ์ป้องกันไว้อีกชั้นก็ดี

ค่าใช้จ่ายในการบันทึกเสียงอ่านนั้น แพงที่สุด คือ ค่าจ้างคนอ่าน คิดเป็นรายนาที กว่าจะจบเล่มเชื่อว่าหมดหลายแสนบาท แต่ถ้าอ่านเองจะประหยัดเงินได้มาก เหลือแค่ค่าห้องอัดมีราคาตั้งแต่ หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาทต่อชั่วโมง รวมค่าตัดต่อเสียง

แต่ถ้าคุณอัดเองที่บ้าน สรุป ค่าทำ Audiobook แทบไม่มีต้นทุนอะไรเลย ขอแค่ระวังเรื่อง เสียงรบกวน ถ้าคุณอัดเองที่บ้าน

รวมบทความเกี่ยวกับ หาเงินออนไลน์ทั้งหมด ที่นี่