ช่วงเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา เรามักคุ้นเคยกับคนทำเงินออนไลน์ผ่านการเขียนบทความลงเว็บไซต์จนเกิดผู้ติดตามและดึงดูดแบรนด์ให้มาลงโฆษณา เราเรียกพวกเขาว่า Blogger ต่อมาเราเริ่มเห็นคนทำเงินจากวีดีโอคลิปยูทูป เราเรียกพวกเขาว่า Youtuber กระทั่งปัจจุบัน แนวทางที่กำลัง In-Trend คือกลุ่มคนที่โพสต์รูปลง Instagram จนเกิดคนติดตาม หรือ Follower จำนวนมากและดึงดูดแบรนด์ให้มาลงโฆษณา ผู้คนมักเรียกพวกเขาว่า Instagramer — Jessica Hirsch เป็นหนึ่งในนั้น

Jessica Hirsch มีผู้ติดตามบน Instagram มากกว่า 350,000 Followers และสามารถทำเงินอย่างงดงาม รวมไปถึงได้รับการเชิญให้ไปท่องเที่ยว ดื่มกิน และพักผ่อนยังสถานที่หรูหราตามประเทศต่าง ๆ ฟรี ๆ เพื่อแลกกับการประชาสัมพันธ์สถานที่เหล่านั้น โดยเดิมที เธอมีอาชีพเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทำอาชีพครูมานานถึง 7 ปีและเพิ่งลาออกเมื่อกลางปี 2017 นี้เพื่อผันตัวสู่ Instagrammer เต็มเวลา

เธอให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ Entrepreneur.com ว่า ครอบครัวของเธอเป็นครู ทำให้เธออยากเป็นครูตามไปด้วย และแม้จะมีความสุขดีกับอาชีพของตน แต่สิ่งที่หลงใหลจริง ๆ คือการถ่ายรูปอาหาร

จุดเริ่มต้น

Jessica Hirsch เล่าว่าได้รู้จักกับ Instagram ผ่านกลุ่มเพื่อน ๆ เมื่อหลายปีก่อนจึงลองสมัครใช้งานและพบว่าเจ้า Instagram คือ ‘จิ๊กซอว์’ ที่จะมาเติมเต็มความหลงใหลในการถ่ายรูปของเธอให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเพราะ 3 คุณสมบัติ ได้แก่…

• เทคโนโลยีการถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟนที่คมชัดและง่ายในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
• ผนวกกับความง่ายในการแชร์รูปภาพขึ้น Instagram ที่มีความเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คในตัว 
• และผสานกับ Facebook, Twitter และ Tumblr ซึ่งเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คเช่นกัน ทำให้เธอสามารถเล่าเรื่องผ่านรูปถ่ายและแชร์ให้คนเห็นได้ทันที

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเริ่มต้นจากศูนย์นั้นไม่ง่าย ต้องอาศัยความต่อเนื่องและอดทนอย่างมาก โดยในปีแรกนั้นการขยายตัวของ ผู้ติดตาม ช้ามาก จนกระทั่งเมื่อแตะ 10,000 ผู้ติดตามจึงเริ่มเกิดปรากฏการณ์ Snow-ball effect คือการหมุนตัวของลูกหิมะจะใหญ่ขึ้นและเร็วขึ้น โดยหลังแตะ 10,000 ผู้ติดตาม — ก็กระโดดไปที่หลักแสนในปีเดียวกัน

ช่วงสร้างฐาน

อย่างที่ Jessica Hirsch บอกไปว่าการสร้างฐานผู้ติดตามบน Instagram นั้นยากและช้ามากในช่วงเริ่มต้น เธออาศัยความสม่ำเสมอในการโพสต์ ได้แก่ โพสต์ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2-4 ครั้ง ในวันหยุดเธอจะเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้มีรูปภาพอาหารและบรรยากาศใหม่ ๆ เพื่อนำมาลงใน Instagram

เธอบอกว่าการ Tag ชื่อแบรนด์อื่น ๆ ช่วยได้ อาทิ เมื่อไปร้านอาหารใด ๆ หรือไปท่องเที่ยวที่ไหน เธอจะโพสต์รูป ใส่ข้อความชื่นชมดี ๆ เกี่ยวกับแบรนด์นั้น ๆ และโพสต์รูปพร้อม Tag ชื่อแบรนด์ลงใน Instagram ของเธอ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนเห็น เช่นเดียวกับการติด Hashtag — หมั่นเสาะหา Hashtag ที่กำลังได้รับความนิยมและมีความเกี่ยวข้องกันในระดับหนึ่งแล้วโพสต์พร้อม Hashtag นั้น ๆ

Tag ชื่อคน ชุมชน และแบรนด์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

โพสต์จะไปปรากฏอยู่ในอัลบั้ม Tag ของแบรนด์และชุมเหล่านั้น 

ปัจจุบัน

Jessica Hirsch เป็นเจ้าของบัญชี Instagram ชื่อ @CheatDayEats จำนวนผู้ติดตามเดือน กรกฏาคม ปี 2017 มากกว่า 350,000 Followers และ @YourRoomService จำนวนผู้ติดตามเดือน กรกฏาคม ปี 2017 มากกว่า 9,000 Followers

แบรนด์ที่เธอร่วมงานด้วยล้วนเป็นแบรนด์ระดับโลก ได้แก่ Hilton Hotels & Resorts, Hyatt, Kellogg’s, American Express, Delta Airlines, Uber, Samsung, Oreo, Godiva และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงเป็น Sony Camera Brand Ambassador ในหมวด ช่างภาพอาหาร และปีนี้เธอกำลังจะพัฒนาไปสู่การมี Blog และ Youtube Channel

ตัวอย่างคนอื่น ๆ ที่คล้ายกัน

Instagrammer และ IG Influencer เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในต่างประเทศและในไทยเริ่มมีคนหนุ่มสาวหันมาใช้ Instagram ในการลงรูปไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สินค้า และอาหารจนเกิดผู้ติดตามและดึงดูดแบรนด์ต่าง ๆ ในการขอทำ Paid-Post หรือการโพสต์รูปภาพแบบจ่ายเงิน

หนึ่งในตัวอย่างของ บุคคลธรรมดา (ไม่ได้เป็นดารามาก่อน) และสามารถพัฒนา Instagram จนมีฐานผู้ติดตามและรับงาน Paid-Post ที่คล้ายกับ Jessica Hirsch ได้แก่ Athena Calderone กับ @EyesWoon  ซึ่งโพสต์อาหารเช่นกัน แต่แตกต่างกันตรงที่ Athena C. สร้างสรรเมนูและประกอบอาหารเองด้วย ทำให้เธอสามารถผลิตหนังสือแนว Cook Book ขายผ่านฐานผู้ติดตามของเธอ นอกเหนือจากการรับงานจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Estée Lauder, Club Monaco, และ Cointreau

คุณจะทำอย่างเธอได้อย่างไร?

สิ่งที่บุคคลตัวอย่างในบทความนี้ทำ จัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจสื่อ หรือ Media platform อันได้แก่ รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ สิ่งพิมพ์, เว็บไซต์/Blog, Youtube channel, Facebook page, Instragram ฯลฯ

ตัวอย่างสื่อออนไลน์ในรูปแบบ Corporate brand รุ่นแรก ๆ ได้แก่ Yahoo, Sanook, Kapook, Forbes Thailand, Pantip รุ่นใหม่ ๆ (แต่ทีมงานอาจมาจากสื่อดั้งเดิม) ได้แก่ The Standard, The Cloud, และ Mango Zero เป็นต้น

ส่วนในรูปแบบ Personal brand หรือ แบรนด์บุคคล ได้แก่ Boy’s Thought, Cookie Coffee, I Roam Alone, อีเจี๊ยบเลียบด่วน เป็นต้น กรณีของ Jessica Hirsch และ Athena Calderone ก็อยู่ในกลุ่มนี้ เริ่มต้นจากความชอบและทำต่อเนื่องจนกลายเป็นอาชีพ หากคุณสนใจอยากพัฒนา Media platform ของตนเองในรูปแบบ ‘แบรนด์บุคคล’ มี 3 ข้อคิดดังนี้

1. มีสไตล์ของตนเอง

โลกนี้มี Instagrammer หลายคนและกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับ Youtuber และ Blogger ในขณะที่ แบรนด์ ที่พร้อมจะจ่ายให้กับ Paid-Post เหล่านี้มีอยู่อย่างจำกัด แบรนด์ใหญ่มีความระมัดระวังในการเลือก Influencer ที่จะนำสินค้าไปลง ดังนั้นการมีคนรับโพสต์จำนวนมากไม่ได้แปลว่า แบรนด์มีตัวเลือกมากตามไปด้วย เพราะสุดท้าย แบรนด์ใหญ่มักจ้างคนที่มีสไตล์เป็นตัวของตัวเอง มีเนื้อหาและฐานผู้ติดตามที่มีคุณภาพ และจะอยู่กับคนเหล่านั้นแบบระยะยาว

2. มีความซื่อสัตย์ต่อ Followers

จริงอยู่ที่แบรนด์เป็นผู้จ่ายเงินให้คุณ แต่เขาซื้อพื้นที่ของคุณเพราะ สไตล์และฐานผู้ติดตาม ที่คุณพัฒนามาด้วยตัวคุณเอง หากปราศจากสองสิ่งนี้ คุณก็จะไม่มีคนจ้าง ดังนั้นจงรักษาจุดยืนของคุณและซื่อสัตย์ต่อ Followers ที่ตามคุณมาด้วยใจ

กรณีของ Jessica Hirsch เล่าว่า ในวันที่ฐานผู้ติดตามทะลุ 3 แสนคน แบรนด์ติดต่อมาอย่างล้นหลาม แต่เธอจะไม่รับทุกแบรนด์ เธอจะเลือกร่วมงานกับแบรนด์ที่ ชื่นชอบนับถือ เคยมีประสบการณ์ในสินค้าและบริการมาก่อน และที่สำคัญ ‘แบรนด์ต้องเคารพ’ สื่อที่เธอปั้นมากับมือโดยการมอบความไว้วางใจในการให้เธอเล่าเรื่องบนพื้นที่ของเธออย่างเป็นธรรมชาติ

3. มีความสม่ำเสมอ

การสร้างพื้นที่สื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องโทรทัศน์ Blog, Youtube, Facebook ฯลฯ รวมไปถึง Instagram ล้วนมีอุปสรรคเดียวกันคือ ‘ออกตัวช้าในช่วงแรก’

ไม่มีใครรู้จักคุณ ไม่มีใครสนใจเนื้อหาของคุณ ไม่มีคนติดตาม ไม่มีแบรนด์ไหนอยากมาลงโฆษณาในพื้นที่อันรกร้าง คุณต้องอดทนและป้อนเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลาหลายเดือนก่อนที่จะเริ่มเกิด Momentum และอาจะใช้เวลาเกือบปีกว่าที่จะเริ่มมีงานไหลเข้ามา นี่คือความแตกต่างของ อาชีพ Media platform เมื่อเทียบกับ E-Commerce ที่ซื้อมาขายได้และได้เงินทันที

จงจำไว้เสมอว่า การสร้างพื้นที่สื่อเปรียบเสมือนการสร้าง อสังหาริมทรัพย์บนโลกออนไลน์ ไม่อาจเห็นผลในวันเดียว แต่ในวันที่ประสบผล คุณจะมีอสังหาฯ ไว้เก็บเกี่ยวดอกผลอย่างมั่นคงตลอดปี