บรรดาผู้ประกอบการจำหน่ายสมาร์ทโฟนยี่ห้อ Apple’s iPhone ในจีนทั้งหน้าร้านและออนไลน์ต่างพากันลดราคา iPhone หวังกระตุ้นยอดขาย สืบเนื่องจากยอดขาย iPhone ในจีนลดลงอย่างมาก ประกอบชาวจีนหันไปสนับสนุนยี่ห้อ Huawei ของคนจีน และยี่ห้อ Samsung ของเกาหลีใต้อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อต้นเดือน มกราคม ค.ศ. 2019 — Tim Cook, CEO บริษัท Apple เจ้าของสมาร์ทโฟนยี่ห้อ iPhone รายงานผลการดำเนินกิจการประจำไตรมาสสุดท้ายของปี ค.ศ. 2019 เผยว่าผลประกอบการของ Apple ในไตรมาสดังกล่าวต่ำกว่าที่คาดหวังไว้
โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้บริษัท Apple ประมาณ 91,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ CEO Apple คาดว่าจะตัวเลขจริงจะได้ประมาณ 84,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนประมาณ 5% การรายงานในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาหุ้น Apple ลดลงทันที 9% หลังจากราคาหุ้นลดลงสะสมมากกว่า 30% ตลอดช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี ค.ศ. 2018
การลดราคา iPhone นำโดย Suning หนึ่งในห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของจีนที่มีมากกว่า 1500 สาขาในกว่า 700 เมืองของประเทศจีน Suning ลดราคา iPhone XR 128GB จาก 6,999 หยวน (1,036 เหรียญสหรัฐฯ) ลงมาที่ 5,799 หยวน (858 เหรียญสหรัฐฯ) หรือ ลดราคาลงมากกว่า 17%
นอกจากนั้น ผู้จำหน่าย iPhone บางรายลดราคาขายปลีกต่ำกว่าร้าน Apple’s Official Store ในจีน โดย CNBC มีรายงานว่าร้านค้าบางแห่งขาย iPhone XS Max 256 GB ซึ่งเป็นหนึ่งในรุ่นพรีเมี่ยมในราคาเพียง 9,699 หยวน (1,436 เหรียญสหรัฐฯ) ในขณะที่ Apple’s Official Store ตั้งราคาขายที่ 10,999 หยวน (1,628 เหรียญสหรัฐฯ) — อย่างไรก็ดี ราคาที่ลดแล้วก็ยังนับว่าสูงกว่าราคาขายโดย Apple’s Official Store ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งขายในราคา 1,249 เหรียญฯ
เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่ โดยยังไม่นับผู้ค้าปลีกรายย่อย และออนไลน์ที่ต่างพากันลดราคาเพื่อแข่งขันกันระบายสินค้าด้วยส่วนลดที่แตกต่างกันไปตามกำลังของแต่ละร้านค้า
เกิดอะไรขึ้นกับตลาด iPhone ในจีน
Tim Cook, CEO ของ Apple ให้เหตุผลการถดถอยของยอดขายเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจของจีน และปัญหาสงครามภาษีระหว่าง สหรัฐฯ และ จีน ที่ดุเดือดมาตั้งแต่ปี 2018
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มีความเห็นต่อสาเหตุที่แท้จริงของการถดถอยของ iPhone ในจีนอาจเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก ได้แก่ 1) ราคา iPhone นั้นสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น และ/หรือ 2) Apple ไม่สามารถนำเสนอจุดเด่นให้คนเห็นมูลค่าเพิ่มเท่าที่ควร — โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งราคาขายในจีนที่สูงกว่า Apple’s Official Store ในสหรัฐฯ ถึง 26 – 28% ทำให้ชาวจีนอาจรู้สึกว่าพวกเขาจ่ายส่วนต่างสูงเกินควร
ลูกค้าชาวจีนเก่า ๆ ของ iPhone ให้สัมภาษณ์ต่อ CNBC ว่า iPhone รุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมามีคุณสมบัติที่ไม่แตกต่างไปจากรุ่นก่อนมากนัก พวกเขาจึงยังไม่เห็นความพิเศษที่ iPhone รุ่นใหม่มีให้เมื่อเทียบกับราคาที่เสนอขาย
ยอดขาย Huawei แซง iPhone
เมื่อไตรมาสที่ 2 ปี 2018, ยอดขายสมาร์ทโฟนยี่ห้อ Huawei ซึ่งเป็นบริษัทของชาวจีนทะยานขึ้นสู่อันดับ 2 ของโลกแทนที่ Apple’s iPhone ด้วยยอดจัดส่งสินค้าจำนวน 54.2 ล้านชุด เติบโต 40.9% ครองส่วนแบ่งตลาด 15.8% ในขณะที่ iPhone มียอดจัดส่ง 41.3 ล้านชุด เติบโต 0.7% ครองส่วนแบ่งตลาด 12.1% — ส่วนผู้ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 คือ Samsung ที่ 20.9%
ลูกค้าชาวจีนให้ความเห็นต่อสื่อถึงเหตุผลที่เริ่มหันไปสนับสนุนสมาร์ทโฟนยี่ห้อ Huawei ว่า — หากไม่นับเหตุผลที่เป็นสมาร์ทโฟนสัญชาติจีน — ทางผู้ผลิตมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว คุณภาพสูง ในขณะที่ราคานั้นถูกมากเมื่อเทียบกับ iPhone รุ่นใหม่ ๆ
และที่สำคัญ Huawei มีเทคโนโลยี Triple-Lens Camera และกำลังจะสามารถรองรับสัญญาณอินเตอร์เน็ต 5G ที่ทางการจีนกำลังจะเปิดตัวในปี 2019 ในขณะที่ทางฝั่ง Samsung เองก็มีเทคโนโลยี Foldable Phone สมาร์ทโฟนพับได้ และ Quad Camera รวมไปถึงการรองรับ 5G เช่นกัน ในขณะที่ iPhone จะยังไม่รองรับ 5G ภายในปี 2019 นี้ พวกเขาจึงมองว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากทั้ง 2 ค่ายนี้ตอบโจทย์ความต้องการเขาได้มากกว่า ในราคาที่สมเหตุสมผล
สรุป
เมื่อ ผู้บริโภค ออกมาพูดเองว่าคู่แข่ง iPhone มีอะไรที่พวกเขาต้องการและ iPhone ยังไม่มี — Tim Cook, CEO ของ Apple ก็อาจลองทบทวนว่ายอดขายที่ลดลงนั้นเกิดจาก ปัญหาเศรษฐกิจ จริง ๆ หรือไม่
Source:
https://www.cnbc.com/2019/01/11/apple-iphone-retailers-are-slashing-prices-across-china.html
https://www.cnbc.com/2019/01/02/apple-warns-on-q1-results.html
http://fortune.com/2019/01/03/a-simple-solution-for-apples-iphone-troubles/
https://www.cnbc.com/2018/08/01/huawei-beats-apple-to-become-number-two-smartphone-seller.html