ธนาคารเพื่อการลงทุนเน้นย้ำถึงกระแสความบ้าคลั่งของ ‘Cryptocurrency’ ว่าคือ 1 ใน 6 ปัจจัยหลักที่จะก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำที่จะมีผลต่อตลาดเงินในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2018
Goldman Sachs สถาบันการเงินชื่อดังของสหรัฐอเมริกา คาดว่าสถานการณ์ค่าเงิน Bitcoin จะยิ่งลดต่ำลง แม้ว่ามูลค่าในตลาดเงิน Cryptocurrency จะลดลงไปถึง 50% แล้วก็ตามในปีนี้ “เราคาดว่าค่าเงิน Cryptocurrency ที่จะลดลงไปอีกในอนาคตนั้นช่วยให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าเงินประเภทนี้ไม่ได้มาเติมเต็มในแง่บทบาทที่สำคัญ 3 ประการของเงินในแบบดั้งเดิมเลย” Sharmin Mossavar-Rahmani, Chief Investment Officer ของโครงการ Private Wealth Management Group แห่ง Goldman Sachs กล่าวต่อสื่อ
Wall Street ได้เคยกล่าวไว้เช่นกันในรายงานเมื่อเดือน มกราคม 2018 ตีพิมพ์เอกสารการวิเคราะห์ภาพรวมทั้งปีว่า การเพิ่มค่าขึ้นอย่างรวดเร็วของ Bitcoin แตะที่ $20,000 เป็นเพียงกระแสที่ไม่เป็นนัยสำคัญที่เกิดขึ้นระหว่างภาวะฟองสบู่ดอทคอม “เรามองว่าค่าเงิน cryptocurrency จะไม่สามารถคงมูลค่าไว้ได้อย่างมีเสถียรภาพ และยังลดลงเร็วกว่าที่คาดอีกด้วย” Mossavar-Rahmani กล่าวเสริม
Goldman Sachs เป็นธนาคารเพื่อการลงทุนอีกแห่งที่ออกมากล่าวถึงค่าเงิน Cryptocurrency ว่าไม่สามารถเป็นได้ทั้งสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนหรือหน่วยในการวัด หรือสิ่งรักษามูลค่าได้เลย ซึ่ง UBS ก็มีการประเมินที่ใกล้เคียงกันออกมาว่า bitcoin เป็นค่าเงินที่มีความผันผวนมากเกินไปที่จะมาเป็นเงินกระแสหลักได้ อย่างไรก็ตาม มูลค่าที่ลดลงของค่าเงิน Cryptocurrency ไม่ได้มีผลกระทบในเชิงลบกับตลาดการเงินในภาพรวม เนื่องด้วย Cryptocurrency มีเพียง 0.3% ของ GDP โลกจากข้อมูลเมื่อกลางปี 2018
ธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งนี้ตามรายงานกำลังจะเปิดตัวเคาน์เตอร์การค้า bitcoin ในปีนี้และจะกลายเป็นบริษัทแรกของวอลล์ สตรีทที่มาทำตลาดใน Cryptocurrency นี้ ซึ่ง CEO ของ Goldman Sachs .Lloyd Blankfein กล่าวเมื่อเดือนมิถุนายนว่า “เขาไม่ได้ครองเงิน Bitcoin และเขาก็จะไม่ทำลายอนาคตของ cryptocurrency ด้วย“
สำหรับใครที่สนใจลงทุนในค่าเงิน Bitcoin อาจจะต้องศึกษาปัจจัยความเสี่ยงกันให้ดีและถึงแม้ว่าสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง Goldman Sachs จะโดดลงมาเล่นในตลาดหุ้นด้วยก็ตามที เพราะ “ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง” ทั้งนั้น
