พ่อครัวทั่วโลกเสี่ยงตกงาน! ร้านอาหาร Fast Food เริ่มนำหุ่นยนต์มาทำอาหารแทนมนุษย์

ธุรกิจร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจเติบโตเร็วและเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสินค้าที่มนุษย์ต้องบริโภคทุกวัน อย่างไรก็ดี ธุรกิจอาหารมีความอ่อนไหว ทั้งในแง่ของ ความสะอาด คุณภาพอาหาร และความปลอดภัยในครัว มีโอกาสที่ พ่อครัว และพนักงานประกอบอาหารในครัวเสี่ยงได้รับบาดเจ็บและปัญหาสุขภาพจากการอยู่หน้าความร้อนเป็นเวลานานหลายปี


Miso Robotic
บริษัทเทคสตาร์ทอัพพัฒนาหุ่นยนต์พานิชณ์ เทคโนโลยี AI และ Machine Learning ได้พัฒนาและผลิตหุ่นยนต์ รุ่น Flippy: Robotic Kitchen Assistant เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้แก่ ผู้ประกอบการร้านอาหาร และพ่อครัว โดยเริ่มจากกลุ่มร้านอาหาร Fast Food ในสหรัฐอเมริกา เบื้องต้นทำมาเพื่อสนับสนุนพ่อครัว แต่กลายเป็นว่าทำงานได้ดีมากจนผู้ประกอบการร้าน Fast Food นำมาใช้ทำงานแบบ Full-time แทนคน!

Flippy เป็นหุ่นยนต์เคลื่อนที่ด้วยล้อ ติดตั้งแขนกล และเซนเซอร์วัดอุณหภูมิอาหาร ทำงานด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning ที่ช่วยให้ Flippy สามารถแยกแยะประเภทของอาหาร รวมไปถึงเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และพัฒนาตัวเองได้ เมื่อพนักงานคีย์คำสั่งอาหารจากหน้าเคาเตอร์ ข้อมูลคำสั่งซื้อจะส่งไปยัง Flippy เพื่อลงมือเตรียมอาหารตามคำสั่ง

Image: https://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-5465727/Flippy-burger-making-robot-gets-work-California-chain.html


Miso Robotic ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก Canyon Creek Capital, Levy และนักลงทุน Angel Investor รวมไปถึงเครือข่าย Fast Food รายใหญ่นามว่า CaliBurger ดำเนินกิจการเบอร์เกอร์ใน 12 ประเทศ ซึ่งเป็นทั้งผู้สนับสนุนเงินทุนและนำร่องในการนำ Flippy มาติดตั้งในร้านอาหาร ได้ผลเป็นที่น่าพอใจถึงขั้นปรับใช้งานแบบเต็มเวลาตั้งแต่เปิดร้านจนปิดร้าน และเตรียมขยายไปอีก 50 สาขาภายใน 2 ปีข้างหน้า

ล่าสุดเมื่อเดือน สิงหาคม 2018 ที่ผ่าน Flippy เริ่มได้รับการทาบทามไปใช้ในงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ เช่น สนามกีฬาที่มีผู้คนจำนวนมาก และคาดว่า Flippy จะออกปฏิบัติภารกิจการปรุงอาหาร Fast Food ตามงานใหญ่เหล่านี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ตามมาด้วยการนำไปติดตั้งยังร้านอาหารต่าง ๆ ในอนาคตอันใกล้

Flippy มีสนนราคาเริ่มต้นที่ 60,000 เหรียญสหรัฐ และค่าบำรุงรักษาปีละ 20% ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าค่าจ้างรายปีของพ่อครัวร้าน Fast Food 1 คน แต่ผู้ประกอบการพอใจโดยเล็งเห็นว่าในระยะยาวประหยัดกว่าจ้างมนุษย์ เพราะ หุ่นยนต์ 1 ตัวทำงานเร็วกว่ามนุษย์ ไม่หยุด ไม่ขาดลามาสาย รวมไปถึงความแม่นยำในการประกอบอาหารช่วยลดยอดสูญเสีย หรือ Food waste ได้ดีกว่า

David Zito, CEO และ Co-Founder ของ Miso Robotic ให้แสดงความเห็นต่อ สื่อต่างประเทศ ว่า หุ่นยนต์มีแนวโน้มที่จะมาแทนมนุษย์ในอุตสาหกรรมอาหาร การจ้างงานในอุตสาหกรรมนี้จะลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ดี มนุษย์ ยังคงมีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะในส่วนงาน Creative เช่น การออกแบบอาหาร และ การบริการบางอย่าง เราเชื่อว่าบางอาชีพยังต้องมีอยู่ และอาจเกิดอาชีพใหม่ ๆ ในวงการอาหารในอนาคต เพียงแต่เรายังไม่รู้ว่าคืออะไร

Miso Robotic ได้รับเงินลงทุนจากนายทุนไปแล้วทั้งสิ้น 14 ล้านเหรียญสหรัฐ