กรณีศึกษา แบรนด์สินค้าสหรัฐฯ หนี Facebook หันหา TikTok เข้าถึงลูกค้ามากกว่า ค่าโฆษณาถูกกว่า 4 เท่า

ศึกบริการโฆษณา ‘โซเชียลมีเดีย’ ระอุ — เมื่อแบรนด์น้อยใหญ่ในสหรัฐฯ กำลังหันไปใช้ TikTok ในการทำการตลาดและยิงโฆษณาออนไลน์แทน Facebook และในบทความนี้ CEO Channels จะเล่าให้ฟังว่าแบรนด์เข้าถึงลูกค้าจำนวนมหาศาลอย่างรวดเร็วผ่าน TikTok ได้อย่างไร

Facebook มีรายได้ปี 2019 สูงถึง 69,655 ล้านดอลล่าร์ เพิ่มขึ้น 26% เทียบกับปี 2018 โดยรายได้หลักมากจาก ค่าโฆษณา ผ่านโปรแกรม Facebook ad — แม้ Facebook จะมีรายได้จากค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ในสมรภูมิ ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย กลับมีม้ามืดที่อาจก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Facebook ก็เป็นได้ และเขา คือ TikTok

TikTok ทำ Facebook นั่งไม่ติดเก้าอี้

TikTok คือ แอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียสำหรับโพสต์วีดีโอคลิปความยาว 15 วินาที ที่เคยถูกคนบางกลุ่มวิจารณ์ว่าเป็น ศูนย์รวมคอนเทนต์ไร้สาระ — แต่อย่างไรก็ดี TikTok มีฐานผู้ใช้งานเติบโตอย่างรวดเร็ว และขยายวงกว้างไปทั่วโลกด้วยจำนวนผู้ใช้งานสูงถึง 500 ล้าน Monthly active user ณ ปี 2018 และความนิยมได้บุกไปถึง สหรัฐอเมริกา เป็นที่เรียบร้อย จนทำให้ Mark Zuckerberg แห่ง Facebook ยังนั่งไม่ติดเก้าอี้ และเผลออุทานว่า “TikTok มาแรงจริง ๆ

ความนิยมของ TikTok ส่งผลให้วงการ Micro-influencer เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อันรวมไปถึงตัว Micro-influencer ก็ดี และบริษัทเอเจนซี่รับจัดหา Influencer ก็ดี เพราะ TikTok กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่มีราคาถูกกว่า และเข้าถึงคนจำนวนมากได้ง่ายกว่า Facebook และ Instagram



เข้าถึงคนมากกว่า ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าหลายเท่า

Business Insider เผยว่า บริษัท F’real Foods ผู้ผลิตและจำหน่าย มิลค์เชค มีจำนวนผู้ติดตามบน TikTok สูงถึง 400,000 คนภายในเวลาเพียง 6 – 7 เดือน ในขณะที่ Dunkin’ แบรนด์โดนัทชื่อดัง มียอดผู้ชมวีดีโอคลิปมากกว่า 100 ล้านวิวจากวีดีโอเดียวในระยะเวลาเพียง 2 เดือน

และที่สำคัญ ทั้งสองกรณีใช้เงินลงทุนทำโปรดักชั่นต่ำมาก เพราะวีดีโอ TikTok เน้นความเรียลมากกว่าความหรู ส่วนค่าโฆษณาแทบไม่เสีย จะมีก็เพียงค่าตัวของ Micro-influencers ซึ่งยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ Influencer บน Instagram

กรศึกษา กระบวนการทำการตลาดบน TikTok โดยผลิตภัณฑ์ HiSmile


HiSmile Teeth-Whitening
เป็นแบรนด์สินค้ารายล่าสุดที่ต้องดีใจจนเนื้อเต้นในผลลัพธ์ของแคมเปญบน TikTok โดย Justin Gaggino ผู้บริหารของแบรนด์ได้เผยถึงขั้นตอนและผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมผ่าน Business Insider ดังต่อไปนี้

1. เคยจ้าง ‘ซุปตาร์ แล้วแต่แพงมากกก

ในอดีต — HiSmile เคยจ้าง Influencer ระดับแม่เหล็ก อาทิ Kim Kardashian West และ Conor McGregor ซึ่งล้วนมีค่าตัวหลักล้านบาท และแบรนด์อยากที่จะลองกลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่มีประสิทภาพในการเข้าถึงที่สูสีในราคาที่ถูกกว่าหลายเท่า แบรนด์จึงทดลองทำแคมเปญ 1 สัปดาห์ ผ่าน TikTok

2. คัด Micro-influencer จำนวน 5 คน

HiSmile ว่าจ้างบริษัทเอเจนซี่ Micro-influencer สองราย ได้แก่ Hype House และ Sway LA ในการเสนอตัว TikTok Influencers จำนวน 4 คน บวกกับอีก 1 คนที่ไม่มีสังกัดแต่ทางแบรนด์รู้จักและสนใจเป็นการส่วนตัว รวมเป็น 5 คนเพื่อมาทำแคมเปญร่วมกัน

3. เลือกเพลงประจำแคมเปญพร้อมท่าเต้น

HiSmile คัดเลือกเพลงประจำแคมเปญ เพื่อให้ Micro-influencer ทั้ง 5 คนไปเต้นประกอบ โดยให้คาบอุปกรณ์ล้างฟันขาวของแบรนด์ พร้อมกับสวมเสื้อแขนยาวลายสกรีน ‘No sensitivity’ หรือ ‘ใช้แล้วสวยไม่เสียวฟัน’


4. ติดแฮชแท็กท้าให้เต้นชิงของรางวัล

และให้ใส่ @hismile เพื่อลิงค์คนกลับมาที่หน้าโปรไฟล์ของแบรนด์ รวมไปถึงติดแฮชแท็ก #hismile เพื่อให้คนค้นหาและเชิญชวนมาทำ Challenge คลิปเต้นเพลงดังกล่าวเพื่อร่วมสนุกชิงรางวัลเสื้อแขนยาว ‘สวยไม่เสียวฟัน’

5. สร้าง Customer journey ส่งคนไปยังหน้าร้านออนไลน์

เมื่อเดินทางมายังหน้าโปรไฟล์ของแบรนด์ ก็จะมีลิงค์ไปต่อยัง Instagram ของแบรนด์ ซึ่งในหน้าอินสตาแกรมจะมีลิงค์ไปยังหน้าสั่งซื้อสินค้าตามลำดับ

ผลลัพธ์

ในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ — แคมเปญ HiSmile ก็ไวรัลสู่ 29 ล้านวีดีโอวิว, 2 ล้าน Likes, 10,000 comments และ มีผู้ติดตามแบรนด์บน TikTok สูงถึง 100,000 คน ประหยัดเงินค่าซื้อโฆษณา Facebook และค่าตัว Celebrity ที่มีราคาสูงกว่าได้เป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้น แบรนด์ ยังมีการซื้อโฆษณา TikTok ad ร่วมด้วย โดยจะสามารถติดตั้งปุ่ม Buy now ลงไปในโฆษณาโดยตรงเพื่อส่งคนไปยังหน้าซื้อสินค้าได้ทันที ซึ่งแบรนด์บอกว่า TikTok ad มีต้นทุนการส่งคนไปยังเว็บไซต์ต่ำกว่า Facebook ad สูงสุด 4 เท่าตัว!

อย่างไรก็ดี — คุณภาพของทราฟฟิกจาก TikTok เป็นอย่างไรยังอยู่ในกระบวนการวัดผลซึ่งอาจต้องเก็บสถิติอย่างต่อเนื่องอีกหลายปี เพราะแม้จะมีผู้ใช้งานจำนวนมาก แต่ TikTok ก็ยังถือว่าเป็นน้องใหม่ และคนที่หมุนเวียนในระบบตอนนี้ยังค่อนข้างเป็น Early adopter หรือ กลุ่มบุกเบิก

ส่วนในภาพรวม แบรนด์ พึงพอใจในแง่ของ Reach หรือ อัตราการเข้าถึงผู้คน ซึ่ง TikTok มีพลังในการผลักดันคอนเทนต์สู่สายตาผู้คนได้เร็วและแรงที่สุดในเวลานี้

หมายเหตุ: โปรแกรม TikTok ad เปิดให้บริการเพียงบางประเทศ อาทิ อเมริกา บราซิล อินเดีย รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย เป็นต้น แต่ยังไม่เปิดให้บริการในไทย

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

TikTok ทำเงินยังไง; Salina เจ้าของบัญชี 1.2 ล้านผู้ติดตาม เผย 4 วิธีโกยเงินบน TikTok ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

กรณีศึกษา Tiktok กำลังดิสรัปต์การตลาดให้ธุรกิจเพลงทั่วโลก

กรณีศึกษา เจ้าของ Tiktok แอพฯ ร้องเพลงลิปซิงค์ กำลังจะเป็นสตาร์ทอัพมูลค่าสูงที่สุดในโลก

Tiktok บุกอเมริกา ตั้งสำนักงานใกล้ Facebook ดึงตัวพนักงาน Mark Zuckerberg มาร่วมงานเพียบ



อ้างอิง

https:// www.businessinsider.com/hismile-influencer-tiktok-hypehouse-swayla-collabhouse-campaign-2020-3