ภาครัฐฯ และเอกชนร่วมผลักดันยอดส่งออกโค้งสุดท้าย ปี 2562 เพื่อปิดยอดขาย 7 หมื่นล้านบาท

ไทยรัฐ รายงาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.พาณิชย์ เผยข้อมูลหลังการประชุมวอร์รูมด้านการส่งออก ร่วมกับผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ ภาคเอกชนเรื่องการเร่งรัดการส่งมอบสินค้าที่ได้มีการ ‘จัดทำบันทึกความตกลง’ หรือ MOU สินค้าที่มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ และการผลักดันการส่งออกสินค้ากลุ่มที่สามารถเร่งรัดให้มีการส่งมอบได้เร็วขึ้น

โดยเผยว่า มีสินค้าที่ไทยลงนาม MOU กับคู่ค้าต่างชาติ จำนวน 35 ฉบับ มียอดขาย 44,722 ล้านบาท และการเจรจาจับคู่ธุรกิจ จำนวน 26,244 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 70,966 ล้านบาท โดยเร่งรัดให้ส่งมอบสินค้าให้เร็วขึ้น ในเดือน ธ.ค.นี้ และต่อเนื่องถึงต้นปี 2563

รายการสินค้าที่จะมีการส่งมอบได้เร็วขึ้นหรือจำนวนมากขึ้น ได้แก่

ยาง และยางพารา

จากการขายให้อินเดียและตุรกี จะเป้าหมายเดิม 2,800 ตัน เพิ่มเป็น 3,500 ตัน ในขณะที่ การยางแห่งประเทศไทย เร่งส่งมอบ 5,000 ตัน ภายในสัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของเดือน ธ.ค.นี้

บริษัท ดีสโตน จำกัด จะเร่งส่งออกยางรถยนต์จำนวน 1,200 ตู้คอนเทนเนอร์ ภายในเดือน ธ.ค. 2562 และเดือน ม.ค. – มี.ค.2563 จะส่งออกเพิ่มเป็น 1,700 ตู้ต่อเดือน เป็นต้น

รถยนต์

บริษัท โตโยต้า แจ้งว่าเดือน ธ.ค. 2562 จะส่งออกเพิ่มจากปกติอีก 1,000 คัน เช่นเดียวกับ ฮอนด้า มีกำหนดการส่งออกเพิ่มขึ้นในต้นปีหน้า

น้ำมัน

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งว่าจะส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยจะทราบตัวเลขที่ชัดเจนในปีหน้า เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ทำให้มีน้ำมันเหลือส่งออกมากขึ้น

“สภาหอการค้าไทย และ ส.อ.ท.ได้รับที่จะไปประชุมร่วมกับสมาชิกรายสำคัญ ๆ เพื่อเร่งรัดการส่งมอบสินค้า ภาคเอกชน ที่ได้เดินทางไปเปิดตลาดร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และมีการลงนามเอ็มโอยู การซื้อขาย รวมถึงเอกชนที่เข้าร่วมเวทีเจรจาธุรกิจและมีการจับคู่ธุรกิจตกลงซื้อขายกันได้ ก็จะไปดูว่าจะเร่งรัดการส่งมอบในเดือน ธ.ค.นี้ได้เท่าไร และต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีหน้า ว่าตัวเลขเป็นอย่างไร ถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่ช่วยกันเร่งทำรายได้เข้าประเทศในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว” — นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ กล่าวต่อสื่อ